บิ๊กฉัตรทุบพ่อค้าอยู่หมัด
ยางพุ่งทันที3บ.
ภาคใต้ยิ้ม/อีสานรอก่อน
ดาบ2จ่อยึดโควตาส่งออก
เร่งมือตั้งบอร์ดกยท.ทำงาน
‘ประวิตร’ลั่นชุมนุมเจอคดี
ม็อบจี้DSIสอบคนทุบราคา
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ว่า ตลาดกลางยางพาราทั่วภาคใต้ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และสงขลา ได้ขยับราคาพาราแล้ว โดยพุ่งขึ้นเฉลี่ย 3 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)โดยราคาน้ำยางดิบหน้าโรงงาน ประกาศรับซื้อที่ 30 บาท/กก. จากที่ก่อนหน้านี้ อยู่ที่ 27 บาทกก. ราคายางแผ่นดิบที่ 35 บาท/กก. จากที่ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 31-33 บาท/กก. ทั้งนี้ในแต่ละโรงงานจะประกาศราคาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับทำเล การขนส่ง และปริมาณรับซื้อ
กษ.ขู่ใช้พรบ.ควบคุมยางเล่นงาน
การปรับขึ้นของราคายางในครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่า อาจเกิดจากสาเหตุที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์(กษ.)สั่งการด่วนให้นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพาราครบวงจร เรียกประชุมตัวแทนชาวสวนยาง สมาคมผู้ประกอบการยางพารา ผู้ส่งออกยางพารา เมื่อเย็นวันที่ 7 มกราคม พร้อมกับขอร้องให้ผู้ประกอบการ ให้ขยับราคารับซื้อยางพาราจากเกษตรกรชาวสวนยางให้สูงกว่าเดิมอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางลืมตาอ้าปากได้บ้าง อย่างน้อยๆ ยางแผ่นดิบต้องไม่ต่ำกว่า33บาท/กก.
การหารือครั้งนั้นมีนางจินตนา ชัยยวรรณการ ผู้ช่วย รมว.เกษตร กล่าวสำทับในที่ประชุมว่า จะติดตามราคายางพาราอย่างต่อเนื่อง หากใน 1 สัปดาห์ ราคายางยังไม่เป็นไปตามความเหมาะสมให้อยู่ได้กันทุกฝ่าย ก็อาจจะต้องใช้อำนาจกฎหมาย พ.ร.บ ควบคุมยาง พุทธศักราช 2542 หรือ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ มาบังคับใช้กับผู้ประกอบการทั้งหลาย
แฉผู้ประกอบการมีกำไรเพียบ
มีรายงานว่า สถานการณ์ราคายางพาราในปัจจุบันถือเป็นยุคทองของผู้ประกอบการเนื่องจากได้ เซ็นสัญญาส่งออกยางล่วงหน้าที่ประมาณ 45-50 บาท/กก.แต่รับซื้อในราคาที่ต่ำ อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนตัว เมื่อส่งออกถือว่าได้กำไร2เด้ง เฉลี่ยร่วมกิโลกรัมละ 10 บาท จึงได้มีการขอร้องให้ผู้ประกอบการยอมลดกำไรลงบ้าง
ราคายางพุ่งยังไม่ถึงอีสาน
อย่างไรก็ตามการขยับราคายางดังกล่าว ยังคงเป็นแค่ภาคใต้ ยังไปไม่ถึงในภาคอีสาน โดยจากการสำรวจ ที่ตลาดกลางราคายางพาราหนองคาย ยางถ้วยก้อน ราคาท้องถิ่นยังนิ่งอยู่ที่ 13.5 บาท/กก.ราคาประมูลที่ 15 บาท/กก.และมีแนวโน้มจะปรับราคาขึ้นวันจันทร์
ด้านตลาดราคายางพารานครพนม ยางก้อนถ้วยอยู่ที่ 12-13 บาท สร้างผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนอย่างอย่างรุนแรงทั้งเจ้าของสวนและผู้รับจ้างกรีดยาง
นางพิศ งอยภูธร วัย 40 ปี ชาวบ้านน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน เปิดเผยว่าครอบครัวตนและสามีเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างกรีดยาง เมื่อช่วงยางราคาดีขายยางรอบหนึ่งตนจะมีรายได้ 7 พันบาทเดือนหนึ่งก็เกือบหมื่นบาท ตอนนี้ราคายางตกต่ำมาก รายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว ส่งผลกระทบต่อลูกที่ไปโรงเรียน ที่สำคัญ ขณะนี้ยางตกลงมากิโลกรัมล่ะ 13 บาทเจ้าของสวนสั่งปิดหน้ายางงดกรีดแล้วเพราะไม่คุ้มค่า
ไม่มีคนมาประมูลยาง
นายทัยฮง พ่อสาร อายุ 57 ปี ประธานสหกรณ์ชาวสวนยางตำบลพุ่มแกจำกัด อ.นาแก เปิดเผยว่า ปกติ ปัจจุบันราคายางก้นถ้วย อยู่ที่ประมาณแค่ 13 บาท ส่วนราคายางแผ่น ประมาณ กิโลกรัมละ 25 บาท ส่งผลให้เกษตรกรสวนยางในพื้นที่ เดือดร้อนหนัก อีกทั้งไม่มียางออกมาจำหน่าย เมื่อก่อน สหกรณ์เคยใช้เงินรับซื้อวันละกว่าล้านบาท แต่ตอนนี้เหลือแค่วันละประมาณ1แสนบาท เพราะส่วนใหญ่งดกรีดยางมาขาย อีกทั้งไม่มีพ่อค้าคนกลางมาประมูลรับซื้อ ชาวบ้านต้องเดือดร้อนแบกภาระหนี้สิน และต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลือแก้ไขเร่งด่วน
สภาเกษตรกรตรังถกปัญหายางตก
เช้าวันเดียวกัน ที่สภาเกษตรกรจังหวัดตรัง นายสมคิด สังขมณี ประธานสภาฯเรียกประชุมสมาชิก เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวสวนยางพาราที่ประสบปัญหาความราคาตกต่ำ
หลังประชุม เรียกร้องให้ภาครัฐปล่อยเงินกู้ให้เกษตรกรรายย่อยครอบครัวละ1แสนบาทเพื่อไปทำอาชีพเสริมอื่น รวมทั้งให้รัฐบาลเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินสนับสนุน ไร่ละ 1,500 บาทครัวละไม่เกิน 15ไร่ให้ครบ และเราจะไม่มีการประท้วง แต่จะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป
ด้านเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ตรัง กล่าวว่า ได้ส่งการให้ตำรวจ ฝ่ายปกครองจับตาการชุมนุมของชาวสวนยางอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าคงไม่วุ่นวายอะไรเพราะเป็นการพูดด้วยเหตุผล และเคยประชุมร่วมกันหลายหน ส่วนเงินอุดหนุนชาวสวนยางไร่ละ 1500 บาท ตอนนี้ในจังหวัดตรังจ่ายไปแล้วประมาณ300 ล้านบาท ที่เหลืออยู่ในระหว่างตรวจสอบเอกสาร
ยันราคาควรอยู่ที่60บาท/กก.
ในขณะที่ นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำเครือข่ายชาวสวนยางรายย่อยจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคายางปัจจุบันควรจะอยู่ที่ 50-60 บาท ซึ่งเชื่อว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากกลไกของรัฐบาล โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ทำงาน องค์กรที่อ้างว่าเป็นองค์กรเกษตรกรชาวสวนยาง ยังมีความขัดแย้งกันเอง ตนยังเชื่อว่าปัญหาราคายางตกต่ำ นายกฯประยุทธ์จะต้องลงมาดูแลด้วยตนเอง
จี้DSIสอบไอ้โม่งทุบราคายาง
ที่สำนักงาน นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายปรีชา สุขเกษม ประธานเครือข่ายสภาเกษตรกร จ.สงขลา ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.สงขลา เข้าพบ นายถาวร เพื่อปรึกษาหารือปัญหาราคายางพาราตกต่ำติดต่อกันหลายเดือน
นายปรีชา เปิดเผยว่า ขอให้รัฐบาลมอบหมายให้หน่วยงานเฉพาะกิจมี ดีเอสไอ ตำรวจกองปราบปราม สตง. ป.ป.ช. ปปง. เข้าไปตรวจสอบกลไกการตลาดที่แท้จริงของราคายางพารา เพราะเกษตรกรไม่เชื่อว่า ราคายางพาราตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 20-30 บาทจริง อาจจะมีไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังบิดเบือนกลไกลการตลาดราคายางพาราอยู่
“ตู่”สวนนายกฯให้ปลูกกล้วย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ที่นายกฯแนะให้เกษตรกรปลูกกล้วยหอมทอง หรือ และสตรอว์เบอร์รีแทรกในสวนยางนั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำได้ เพราะกล้วยหอมทองปลูกได้เฉพาะแปลงยางที่ปลูกใหม่ หรือยังกรีดไม่ได้ ซึ่งจะทำให้แสงแดดส่องมาถึง รวมทั้งยางปลูกใหม่ไม่เดือดร้อนกับราคา และไม่ได้เรียกร้องในขณะนี้ เนื่องจากยางยังไม่ได้กรีด จึงเป็นคนละปัญหากับราคายางตกต่ำเป็น 4 กิโลกรัมต่อร้อยบาทแล้ว ทำให้หลายครอบครัวเดือดร้อน ลูกต้องหยุดเรียนหนังสือ
โวยุคยิ่งลักษณ์กก.ละ80บาท
ส่วนแกนนำชาวสวนยางประกาศจะชุมนุมนั้น นายจตุพร กล่าวว่า แกนนำเหล่านี้เคลื่อนไหวและสนิทสนมกับกลุ่ม กปปส. พวกเขาเรียกร้องเสมอเมื่อราคายางพาราลดลง ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ราคาอยู่ที่ 80 บาท/กก. ยังไม่เอา แต่เคลื่อนไหวกดดันจะเอา 120 บาทต่อกิโลกรัม แต่เมื่อราคาตกลง รมว.เกษตรแก้ไขปัญหาไม่ได้ แม้ราคาที่ชาวสวนยางพออยู่ได้ที่ราคา 35 บาทต่อกิโลกรัมยังไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้เลย เมื่อราคาตกต่ำไปเป็น 4 กิโลกรัมต่อร้อยบาท จึงต้องเดือดร้อนแสนสาหัสยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ไขต่อไป
“บิ๊กป้อม”งัดพรบ.ชุมนุมขู่ม็อบยาง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาราคายางพาราเต็มที่แล้ว ร ในเมื่อราคาน้ำมันลงขนาดนี้ จะให้ราคายางสูงขึ้นได้อย่างไร
เมื่อถามว่า เป็นห่วงที่จะมีผู้ชุมนุมหลายกลุ่มเข้ามาทั้ง สสส.และสวนยาง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่ห่วง เขาไม่เข้ามาหรอก เข้ามาแล้วจะได้อะไร มาก็ไม่ได้อะไร ผิดกฎหมายด้วย เพรา มีพ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ แต่ถ้ารัฐบาลไม่สนใจน่าจะต้องมา นี่รัฐบาลสนใจทำงานหามรุ่งหามค่ำถ้าจะมากดดัน แค่นี้ก็กดดันจะตายอยู่แล้ว”
“บิ๊กตู่”ยันไม่บิดเบือนกลไกลตลาด
เที่ยงวันเดียวกันม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ร่วมงานเลี้ยงฉลองวันปีใหม่ 2559 ที่จัดโดยสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งถึงราคาราคายางว่า ถ้าขึ้นราคาให้ใครจะเป็นคนจ่ายเงิน ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ตอนนี้ ตอนนี้กำลังลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ส่วนข้อเสนอที่ให้นำยางไปทำถนนและพยุงราคายางและข้อเสนอของเกษตรกรที่ให้อยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท นายกฯ ระบุว่า รัฐบาลทำอยู่นำไปทำถนน แต่ตอนนี้ราคาถนนสูงขึ้น 15 % ถ้าอุดหนุนราคายางให้ได้ 60 บาท จะกลายเป็นอัดยายซื้อขนมยาย ค่ายางและค่าถนนจะแพงขึ้น เสียทั้ง 2 อย่าง ตอนนี้ไม่ขอบอกว่าตอนนี้กำลังทำอะไร ขอให้เป็นไปตามระบบ และใช้งบประมาณไปมากแล้ว ตนไม่อยากให้กลไกตลากบิดเบือน แต่กำลังสร้างกลไกเพื่อนำไปสู่การผลิตให้ได้
อย่ามาข่มขู่-ฮึ่มถ้าประท้วงเจอแน่
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในอดีตเคยสั่งให้มีการลดพื้นที่การปลูกแต่ก็ไม่สำเร็จ เกษตรกร ไปเชื่อนักการเมืองท้องถิ่น และมีการส่งเสริมการปลูกยาง บุกรุกป่าเพื่อปลูกยางบนเขา เมื่อรัฐบาลชองตนสั่งโค่นทิ้งหาว่าทำร้ายคนจน
ส่วนการชุมนุมประท้วง ตนสั่งการผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จะมาข่มขู่ตนไม่ได้ ไปประท้วงบนถนนก็โดนคดี ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่าหาว่ารังแกคนจน
ในขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่าได้สั่งการให้ภาค8-9 ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องการชุมนุมของชาวสวนยาง หากมีชุมนุมเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็ต้องดำเนินคดี จึงขอแจ้งว่า อย่าฝ่าฝืน
“บิ๊กฉัตร”ย้ำตรึงราคาห้ามต่ำกว่า33บ.
เย็นวันเดียวกัน.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ นางจินตนา ชัยยวรรณการ ผู้ช่วยรมว.เกษตรฯ เปิดแถลงข่าวด่วน ถึงมาตรการพยุงราคายางไม่ให้ตกต่ำกว่าราคาในปัจจุบัน โดยให้เอกชนตรึงราคารับซื้อในตลาดไว้ที่ราคายางแผ่นดิบไม่ต่ำกว่า 33 บาทต่อกก. ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคายางพาราทั้งระบบ ได้มีมติให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันดำเนินการ
พล.อ.ฉัตรชัย ย้ำว่า หลังจากที่มีมาตรการตรึงราคา ทำให้ราคายางแผ่นดิบขยับ 33-34 บาท/กก. ส่วนน้ำยางข้นขยับชึ้นมาจาก 28 บาทเป็น 28.50 บาท/กก.ทันที ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ราคายางตกทุกวัน ก่อนจะถึงฤดูเปิดกรีดยางในเดือน เม.ย.
บอก60บาท/กก.เป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยังไม่มีมาตรการรับซื้อยางในราคานำตลาด หรือราคาที่เกษตรกรเรียกร้อง 50-60 บาทต่อกก. ดังนั้นช่วงนี้ตนได้เร่งวางกลไกรองรับปัญหาทุกด้านโดยให้ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)สามารถขับเคลื่อนได้เต็มที่ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การยางแห่งชาติ ในการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางทั้งระบบ
ซึ่งสัปดาห์หน้าหลังจากวันที่ 14 ม.ค.นี้ ที่ตนเสนอรายชื่อคณะกรรมการบริหารการยางแห่งประเทศไทย(บอร์ดกทย.)เข้าผ่านความเห็นชอบจากครม.แล้วจะทำให้การขับเคลื่อนคณะกรรมการยาง มีกฎหมายรองรับ ในการช่วยเหลือเกษตรกรด้านราคา สวัสดิการ และค่าครองชีพ รวมทั้งการระบายางในสต๊อกไปสร้างมูลค่าเพิ่มทำถนน หรืออื่น ๆ
ส่งทีมงานลงพื้นที่10มกราฯนี้
รวมทั้งได้มอบให้นาง จินตนา นำทีมลงพื้นที่รับรู้ปัญหาจริงจากเกษตรกรภาคใต้ ที่จ.นครศรีธรรมราช วันที่10 ม.ค. และวันที่11 ม.ค.ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการร่วมพัฒนายางพาราครบวงจร โดย มีแกนนำกลุ่มเกษตรกรแทบทุกกลุ่มเข้าร่วม จะหารือกันเพื่อหาทางออกอีกครั้งไม่ให้ราคาไหลลงไปกว่านี้ในช่วงเปิดกรีดและจะเดินหน้าต่ออย่างไร
“นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างมาก โทรศัพท์มาสั่งการกับผมวันละ 3 เวลาย้ำว่ามาตการต่างๆต้องให้ถึงมือเกษตรกรโดยเฉพาะรายย่อย ที่เดือนร้อนจริง”รมว.เกษตร กล่าว
จวกปัญหาสะสมจากการเมืองห่วย
และว่าถ้าใครไม่พอใจจะมาเรียกร้องให้ออก มาได้เลย ตนก็ออกกลับบ้าน เพราะเหนื่อยมากและไม่ได้อยากเป็น แต่พอเงยหน้าขึ้นไปดูท่านนายกฯเหนื่อยกว่าตนมาก ตนก็ต้องสู้ และคนเป็นทหารออกมาแล้วถอยไม่ได้ ขนาดตายยังเอาดาบยันหลังไว้ และรู้ว่าการเมืองไม่ทำแบบนี้ ไม่เคยวางรากฐานสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร มาทีก็จ่ายเงินกันที เชื่อว่าสิ่งตนทำไว้ให้เกษตรกร ผลงานไม่เกิดในสมัยตน
“จินตานา”จ่อใช้กม.บังคับเอกชน
ด้านนางจินตนา กล่าวว่ามติการตรึงราคายาง 33 บาท จะติดตามผลต่อเนื่องหากไมเป็นตามราคาที่ตกลงจะใช้ข้อบังคับทางกฎหมายกับภาคเอกชนเพื่อป้องกันพ่อค้ารับซื้อกดราคา
นอกจากนี้ได้ให้คณะกรรมการบริหารจัดการด้านราคา โดยมีกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน ไปดูโครงสร้างราคาขึ้นด้วย ในฤดูกาลเปิดกรีดช่วง3 เดือน จะมีประมาณ 6-8 แสนตัน เริ่มเดือนมี.ค.เปิดกรีดการผลิตวันละ 9 พันตันออกสู่ตลาด ทั้งนี้ขอปฎิเสธการเซ็นสัญญาขายยางให้กับจีบ ไม่ได้เป็นการชี้นนำราคาตลาดซึ่งเราส่งให้จีนเดือนละ 1.7 หมื่นตันไม่ได้ทำให้ราคาลงอย่างแน่นอน
“อำนวย”ชี้ต้องรีบตั้งบอร์ด”กยท.”
ขณะที่นายอำนวย กล่าวว่าการตรึงราคาเป็นมาตรหยุดยั้งการไหลลงของราคาช่วงแรก ต่อไปจะมีมาตรการดึงราคาสูงขึ้น ทำพร้อมกับมาตรการตลาด โดยมีกลไกใหม่ใช้ในปี59 โดยผ่าน บอร์ดกยท.มีระบบถาวร มีผู้แทนเกษตรกร5 คนคัดสรรมาจาก4 ภาค ในบอร์ดมีทั้งหมด15 คน และคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิ ซึ่งจะมีการแต่งตั้งประธานบอร์ด ครบชุดไปขับเคลื่อนได้ โดยมีกองทุนพัฒนายางพารา เป็นกองทุนระยะยาว ที่มีเงินหมุนเวียนปีละ 5-7 พันล้านบาท โดยใช้บริหาร 5% ปลูกยางใหม่แทนยางเก่าร้อยละ 35 % ดูแลปัญหาราคา 3% ดูการพัฒนาเกษตรกร 7% ให้สวัสดิการเกษตรกร 5% วิจัยพัฒนา 5%
และตอนนี้ครม.ให้ความเห็นชอบ งบพัฒนาเกษตรกรเพิ่มอีก จะมีการเติมเข้าไปบริหารสวัสดิการ เหล่านี้ ดูแลครองชีพ ค่าใช้จ่าย จัดสรรประจำปี 3%ทำให้องค์กรเกษตรกรเข้มแข็งนับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และพลิกโฉมหน้าเกษตรกรสวนยางจะได้อานิสงค์จากพรบ.การยาง เริ่มคิดออฟ ตั้งแต่ 14 ม.ค. โดยมีตัวแทนเกษตรกรมามีส่วนในการบริหารเต็มที่
“สมคิด”ย้ำไม่ทิ้งชาวสวนยาง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ชาวสวนยางต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในระดับต้นๆ ทุกฝ่ายกำลังดูแลอย่างเต็มที่
นายสมคิด ยังเปิดเผยถึงกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แต่งชุดดำเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านคำพูดของนายสมคิด ที่ระบุ ถ้าทำไม่ได้จะยุบทิ้งไป ว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว และยืนยันว่า ไม่คิดว่าจะมีปัญหาในการทำงานร่วมกันหลังจากนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี