ชวนสวนยางนัด12มค.
รวมพลที่ตรัง
วอน รมว.เกษตรมาฟัง
บอกเดือดร้อนจริงๆ
ขยับ3บาทแล้วนิ่ง
ไก่อูวอนอย่ากดดัน
รัฐต้องช่วยทุกกลุ่ม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มกราคม ที่สวนอาหารอันดามันเกตเวย์ อุทยานแห่งชาติเขาปู่ เขาย่า ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง ทางเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ ประกอบด้วย นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ นายไพรัช เจ้ยชุม รองประธานชุมนุมชาวสวนยางแห่งประเทศไทย นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน เลขานุการเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ นายวิรัตน์ อันตรัตน์ กรรมการเครือข่ายฯ และนายมนัส หมวดเมือง เครือข่ายชาวสวนยาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ร่วมแถลงข่าวการจัดประชุมเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลงมาแก้ปัญหาและช่วยเหลือเกษตกรชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากราคายางพาราตกต่ำและสู่จุดวิกฤติ
ยันจัดประชุมใหญ่12ธค
นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ กล่าวว่า ในนามเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ วันนี้ขอแถลงข่าวการประชุมเครือข่ายที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มกราคม ที่สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย จังวัดตรัง (สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดตรัง) อย่างแน่นอน และได้รับการขานรับจากแนวร่วมทุกจังหวัดแล้ว โดยการประชุมนั้นที่มีข่าวว่าจะเป็นการประท้วงนั้น ไม่ใช่ เนื่องจากทางเครือข่ายฯได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานความมั่นคงจังหวัดตรังเรียบร้อยแล้ว
เสนอ4มาตราการให้ช่วย
สำหรับประเด็นต่างๆทางเครือข่ายได้นำเสนอใน 4 หัวข้อหลักส่วนประเด็นที่จะมีการเพิ่มเติมจะได้รวบรวมจากความเห็นของเกษตรกรที่เข้าร่วมประชุมอีกครั้ง ซึ่งปัญหาราคายางถือว่าอยู่ในขั้นที่วิกฤตสุดๆแม้ว่าจะเกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ว่าจริงๆแล้ว ราคายางน่าจะดีกว่านี้ ทางเครือข่ายฯจึงเปิดประเด็นจัดให้มีการประชุมขึ้น เพื่อที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ ในเรื่องที่เครือข่ายฯเสนอ ผ่านเกษตรกรตัวจริงนำเสนอ จากนั้นทางเครือข่ายฯจะได้สรุปนำเสนอไปยังรัฐบาล และจะจัดให้มีกิจกรรมรวมตัวหลังจากที่ยื่นหนังสือให้รัฐบาล
ชี้นายกฯทำเสียความรู้สึก
นายไพรัช เจ้ยชุม รองประธานชุมนุมชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่มาให้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนในเรื่องขอปัญหาราคายางพารา โดยที่เครือข่ายหลายๆจังหวัดได้รับทราบ ได้รับข้อมูลว่า การที่ท่านนายกรัฐมนตรีพูดผ่านสื่อนั้น ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับเกษตรกรชาวสวนยางเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า นายกรัฐมนตรีใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ในฐานะผู้นำระดับประเทศ ทำให้เกษตรกรเสียความรู้สึกในตัวของนายกรัฐมนตรีเอง
“ผมจึงฝากผ่านสื่อเลยว่า ขณะนี้เกษตรกรมีความเดือดร้อนจริงๆ และขอร้องให้นายกรัฐมนตรีให้กำลังใจเกษตรกรด้วย ไม่ใช่มาซ้ำเติมหรือข่มขู่เกษตรกรที่ออกมาเรียกร้อง ผมขอวิงวอนถึงนายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลลงมาแก้ไขปัญหายางพาราอย่างเร่งด่วนด้วย” นายไพรัช กล่าว
นายถนอมเกรียติ ยิ่งฉ้วน เลขานุการเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ กล่าวว่าการประชุมหนนี้อยากวิงวอนให้ นายกฯหรือรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ หรือ รมว.เกษตร มารับฟัง จะได้ทราบถึงข้อเท็จจริง
ยางขยับม็อบไม่สะดุ้ง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 มกราคม ตลาดกลางยางพาราทั่วภาคใต้ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และสงขลา ได้ขยับราคาพาราแล้ว โดยพุ่งขึ้นเฉลี่ย 3 บาท ต่อกิโลกรัม(กก.)
โดยราคาน้ำยางดิบหน้าโรงงาน ประกาศรับซื้อที่ 30 บาท/กก. จากที่ก่อนหน้านี้ อยู่ที่ 27 บาท/กก ราคายางแผ่นดิบที่ 35 บาท/กก. จากที่ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 31-33บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ในแต่ละโรงงานจะประกาศราคาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับทำเล การขนส่ง และปริมาณรับซื้อ อย่างไรก็ตามราคายางในวันที่ 9 มกราคม ซึ่งตรงกับวันเด็กไม่ได้ขยับตัวขึ้น ยังคงมีราคาเท่ากับวันที่ 8 มกราคม
การปรับขึ้นของราคายางในครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่าอาจเกิดจากสาเหตุที่ บิ๊กฉัตร-พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ส่งการด่วนให้นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพาราครบวงจร เรียกประชุมตัวแทนชาวสวนยาง สมาคมผู้ประกอบการยางพารา ผู้ส่งออกยางพารา เมื่อเย็นวันที่ 7 มกราคม พร้อมกับขอร้องให้ผู้ประกอบการ ให้ขยับราคารับซื้อยางพาราจากเกษตรกรชาวสวนยางให้สูงกว่าเดิมอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางลืมตาอ้าปากได้บ้าง อย่างน้อยๆ ยางแผ่นดิบต้องไม่ต่ำกว่า33บาท/กก.
การหารือครั้งนั้นมีนางจินตนา ชัยยวรรณการ ผู้ช่วย รมว.เกษตร กล่าวสำทับในที่ประชุมว่า จะติดตามราคายางพาราอย่างต่อเนื่อง หากใน 1 สัปดาห์ ราคายางยังไม่เป็นไปตามความเหมาะสมให้อยู่ได้กันทุกฝ่าย ก็อาจจะต้องใช้อำนาจกฎหมาย พ.ร.บ ควบคุมยาง พุทธศักราช 2542 หรือ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ มาบังคับใช้กับผู้ประกอบการทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม แม้ราคายางจะพุ่งขึ้นเล็กน้อยแต่ชาวสวนยางยังไม่พอใจ เพราะเห็นว่าปรับราคาน้อยเกินไป อีกทั้งปรับราคาขึ้นแค่วันที่ 8 มกราคมวันเดียว ต้องปรับราคาให้มากกว่านี้โดยมีนัดจะประชุมในหลายพื้นที่
ถาวรจ่อยื่นหนังสือถึงนายกฯ
ด้าน นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำกปปส. กล่าวถึงนแนวทางแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำนั้น ในขณะนี้ว่า อาจต้องทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพื่อให้รับรู้ปัญหาและข้อเท็จจริง ไม่ใช่ฟังข้อมูลจากข้าราชการด้านเดียว เช่นที่บอกว่า ราคายางอยู่ที่ 48 หรือ36 บาทต่อกิโลกรัมนั้น เป็นราคายางแผ่นดิบรมควันชั้นหนึ่งที่พร้อมส่งออก
แต่ราคาน้ำยางสดหรือยางแผ่นที่ซื้อขายในพื้นที่จริง กลับมีราคาอยู่ที่ 23-25 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ที่สำคัญรัฐบาลควรรับฟังปัญหา และตั้งคณะกรรมการมาแก้ไข ไม่ใช่บอกว่า ทำมาแล้ว หมดหนทางแล้ว ไม่ใช่วิสัยของนักปกครอง ในเมื่อรัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องพร้อมแก้ปัญหา หรือแสดงความจริงใจว่าพยายามแก้ไขให้คนที่กำลังเดือดร้อนมีกำลังใจ หากยังนิ่งเฉย แก้ไม่ถูกทางเช่นนี้ พอถึงฤดูเปิดกรีดยาง ก็จะมียางออกมาอีกมากจะยิ่งซ้ำปัญหายิ่งขึ้น ส่วนการที่แนะนำให้ปลูกพืชอื่นเป็นรายได้เสริมนั้น ชาวสวนยางทำมาหมดแล้ว แต่รายได้หลักคือ การปลูกยาง ที่ตกต่ำในรอบ100ปีก็ว่าได้
ยันบิ๊กตู่ตามข่าวต่อเนื่อง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีเกษตรกรชาวสวนยางเรียกร้องให้รัฐบาลชดเชยราคายางให้กิโลกรัมละ 50-60 บาทว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกไม่สบายใจหากพี่น้องเกษตรกรจะออกมาชุมนุมกดดันรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และไม่ใช่หนทางที่แก้ปัญหาได้จริง รัฐบาลไม่มีงบประมาณเพียงพอในการจ่ายเงินชดเชยตามที่ร้องขอ เพราะเมื่อคิดเป็นมูลค่ารวมแล้วอาจต้องใช้เงินถึง 140,000 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุวนเวียนไม่รู้จบ รัฐบาลยังมีภาระที่ต้องดูแลเกษตรกรกลุ่มอื่น ๆ ทั้งชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ อีกกว่า 70 ล้านคน จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรเปิดใจรับฟังและแก้ไขปัญหาร่วมกัน นายกฯ ขอความร่วมมือพี่น้องชาวสวนยาง ไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยยืนยันว่าจะเร่งบรรเทาความเดือดร้อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี