11 ม.ค. 58 เวลา 12.30 น. ที่หอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หน้าห้องประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอพุทธมณฑล สถานีตำรวจภูธรอำเภอสามพราน และสถานีตำรวจภูธรตำบลโพธิ์แก้ว กว่า 30 นาย และเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 10 นาย มาคอยอำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนจำนวนมาก เดินทางมารอทำข่าวการประชุมมส.ด้วย
และเวลา 12.50 น. พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์จ.นครปฐม พร้อมพระสงฆ์ในสังกัดเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ทยอยเดินทางมาที่หอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กว่า 50 รูป และพระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์ จ.นครปฐม กว่า 300 รูป เดินทางมาให้กำลังใจสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม (พระพุทธอิสระ) วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม จะเดินมายื่นหนังสือต่อนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการ พศ.เพื่อคัดค้านการเสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ แต่งตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20
จากนั้น เวลา 13.00 น.นายเสถียร วิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ) และภาคีเครือข่ายได้เดินทางมาเข้ายื่นหนังสือต่อนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการพศ. เพื่อเสนอให้มหาเถรสมาคม (มส.) และเสนอให้ พศ.ยึดตามข้อกฎหมาย และพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2535 เป็นหลัก ในการเสนอชื่อแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสนและเพื่อป้องกันความขัดแย้งแตกแยกในสังคม
นายเสถียร กล่าวว่า เนื่องจากการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ที่ยึดตามมติของ มส.เมื่อมส.เสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะรูปใดก็ต้องยึดตามมตินั้น จึงขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆไว้ก่อน เพราะขณะนี้ขั้นตอนการเสนอแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช กำลังเดินไปตามขั้นตอน จึงไม่อยากให้ความเห็นแตกต่าง กลายเป็นความขัดแย้งที่สร้างความไม่เสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนาและสังคมไทย นอกจากนี้ เรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช เป็นเรื่องภายในของศาสนจักร ซึ่งมีหลักกฎหมาย หรือ พรบ.สงฆ์ตราไว้อยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ ข้อใดๆที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง เช่น การที่มีกลุ่มบุคคลไปเรียกร้องกำหนดคุณสมบัติของสมเด็จพระสังฆราช จะเข้าข่ายก้าวก่ายองค์กรสงฆ์ และส่งผลให้คฤหัสถ์ขัดแย้งกันเอง
"พวกเรายื่นยันว่าไม่ได้มาสนับสนุนฝ่ายใด แต่มาสนับสนุนให้การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชดำเนินตามข้อกฎหมาย ซึ่งตามหลัก มส.ต้องเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาสุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์เป็นอื่นไปมิได้ เมื่อ มส.มีมติรายชื่อเสนอแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช พศ.ในฐานะเลขาธิการมส. ก็มีหน้าที่นำเสนอมติมส.ต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอขึ้นทูลเกล้า ต่อไป"นายเสถียร กล่าว
ด้านนายประดับ โพธิกาญจนวัตร รองโฆษก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) แถลงภายหลังการประชุม มส.ว่า ก่อนเร่ิมการประชุม มส.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้มอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งสมเด็จพระวันรัต วัดบวนนิเวศวิหาร ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต และเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ทั้งนี้สมเด็จพระวันรัต ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแม่กองธรรมสนามหลวง ดังนั้น ประชุม มส.จึงมีมติแต่งตั้งพระพรหมมุนี(สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นแม่กองธรรมสนามหลวง แทน ทั้งนี้
นายประดับ กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมมส.ไม่มีวาระการประชุมและไม่มีการหารือถึงเรื่องการเสนอชื่อแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช องค์ใหม่ เนื่องจากการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ต้องเป็นไปตาม มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ ที่ระบุไว้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่งในกรณีที่สมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม(มส.) เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุด โดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช นัยของกฎหมายชัดเจนไม่ต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตีความ กล่าวคือ มส.เรียกประชุม เพื่อขอความเห็นชอบเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ และมีมติเสนอให้นายกรัฐมนตรีนำความขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20
"ส่วนกรณีที่ มส.มีการประชุมนัดพิเศษ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวว่า มส.มีมติเสนอสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แล้วนั้น ทางพศ.ยังไม่ได้รับแจ้งมา ทราบเพียงว่ามีการมส.มีประชุมนัดพิเศษจริงแต่เป็นการประชุมลับ จึงไม่มีเจ้าหน้าที่พศ.เข้าร่วมประชุมด้วย ดังนั้น ผมจึงไม่สามารถตอบได้ว่าการประชุมวันนั้นมีการเสนอชื่อตั้งสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ และทาง พศ.เองก็ยังไม่ได้รับแจ้งผลการประชุมในวันดังกล่าวด้วย" นายประดับ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี