‘เจ้าพระยา’อ่วมหนัก  ระดับน้ำต่ำกว่าวิกฤติ  ไฟเขียวผัน‘สาละวิน’

‘เจ้าพระยา’อ่วมหนัก ระดับน้ำต่ำกว่าวิกฤติ ไฟเขียวผัน‘สาละวิน’

วันอังคาร ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

‘เจ้าพระยา’อ่วมหนัก

ระดับน้ำต่ำกว่าวิกฤติ

ไฟเขียวผัน‘สาละวิน’

ช่วยเติม‘เขื่อนภูมิพล’

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 11 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่าที่ประชุมได้สรุปถึงสถานการณ์น้ำต้นทุน เพื่อจัดทำแผนที่น้ำใหม่ให้สมบูรณ์ขึ้น โดยขณะนี้ยังต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และประชาชนทั่วไป ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องบริหารจัดการน้ำให้มากที่สุด และร่วมมือกับรัฐบาลในเรื่องการใช้น้ำอย่างประหยัด

ด้าน นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ 12 กิจกรรม รวมทั้งตรวจสอบสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ โดยปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานประสบปัญหาอยู่ 548 อำเภอ จึงมีการเร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลือ เช่น การเจาะบ่อบาดาลเพิ่มเติมหรือสูบน้ำจากพื้นที่ที่มีน้ำมาเพิ่มเติม


นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเวลานี้มีเพียงพอที่จะใช้จนผ่านฤดูแล้งไปได้ อย่างไรก็ตามยังคงต้องมีมาตรการดำเนินการ โดยยังไม่สามารถปล่อยน้ำเพื่อช่วยเหลือการเกษตรได้ แต่จะเน้นเรื่องการอุปโภค บริโภค และขับไล่น้ำเค็ม

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสำคัญที่ที่ประชุมให้ความเห็นชอบในหลักการ คือ การผันน้ำจากแม่น้ำสาละวินเข้าสู่เขื่อนภูมิพล โดยให้กรมชลประทานไปดำเนินการศึกษานำน้ำจากแม่น้ำยวมซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำสาละวินเข้ามาสู่เขื่อนภูมิพล โดยร่วมกันระหว่างกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และกระทรวงมหาดไทย โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะต้องร่วมมือกันที่จะดำเนินการ โดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะต้องดำเนินการเรื่องสายส่งต่างๆ ด้วย ในการที่จะไปพัฒนาต่อยอดในการผลิตกระแสไฟฟ้าในอนาคต

ขณะที่ในส่วนของแม่น้ำโขง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล ซึ่งกรมชลประทานได้ศึกษาเบื้องต้นในการนำน้ำจากแม่น้ำโขงผ่านประตูระบายน้ำห้วยหลวง ซึ่งกรมชลประทานสร้างไว้แล้ว ปีนี้จะสร้างสถานีสูบน้ำชั่วคราว เพื่อจะนำน้ำจากแม่น้ำโขงบางส่วนมาใช้

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีวัดน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 13.95 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าระดับวิกฤติ 5 ซ.ม. ขณะที่ระดับระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ 5.96 เมตร

ทั้งนี้จากสถานการณ์ภัยแล้งใน จ.ชัยนาท ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ยังส่งผลกระทบต่อระดับน้ำใต้ดิน ทำให้บ่อน้ำบาดาลของเกษตรกร ในพื้นที่ อ.สรรพยา และ อ.สรรคบุรี ซึ่งเป็นบ่อบาดาลน้ำตื้นเริ่มแห้งเหือด ทำให้สูบน้ำได้ปริมาณที่น้อยลง ซึ่งหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อออกไป คาดว่าน้ำใต้ดินจะแห้งจนไม่สามารถสูบได้อีก

ที่ จ.ลพบุรี นายปรัชญา เปปะตัง นายอำเภอท่าวุ้ง ได้ลงพื้นที่บริเวณวัดโพธิ์ศรี ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง เพื่อติดตามการเปิดเส้นทางน้ำในแม่น้ำลพบุรี หลังจากที่มีผักตบชวาติดยาวกว่า 10 กิโลเมตร จนทำให้แม่น้ำตื้นเขิน โดยชลประทานได้นำเรือดันผักตบชวาขึ้นมาไว้ที่ริมตลิ่ง เพื่อเปิดทางน้ำในแม่น้ำลพบุรีไหลผ่านได้อย่างสะดวก รวมถึงช่วยให้ระดับน้ำยังอยู่คงที่ไม่ลดต่ำลงไปอีก โดยคาดว่าจะช่วยประชาชนให้มีน้ำอุปโภค บริโภค ไปได้อีกประมาณ 3-4 เดือน

ขณะที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน อ.สตึก ยังคงลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จนมองเห็นตอม่อสะพาน และบางช่วงแห้งขอดจนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้ โดยบริเวณจุดวัดระดับน้ำศาลเจ้าพ่อวังกรูด มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 56 เซนติเมตร จากระดับความสูงริมฝั่ง 9 เมตร ซึ่งจากปริมาณน้ำมูลที่ลดต่ำในช่วงนี้ ได้ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของชาวประมงที่มีอาชีพหาปลา และเลี้ยงปลาในกระชัง อีกทั้งกระทบกับเกษตรกรที่มีอาชีพทำนาริมฝั่งลำน้ำมูล ไม่สามารถสูบขึ้นไปทำนาได้ ขณะที่ชาวนาริมฝั่งมูลบางรายได้เริ่มที่ไถหว่านทำนาปรังแล้ว คาดว่าหากภายใน 1–2 เดือน ปริมาณน้ำมูลจะลดต่ำลงจนถึงขั้นวิกฤตแห้งขอด

ส่วนที่ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ต้องอพยพเป็ดไข่กว่า 7,000 ตัว ด้วยรถบรรทุก 10 ล้อ เพื่อมาหาแหล่งอาหารสำหรับเลี้ยงเป็ดใน อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เนื่องจากแหล่งอาหารและแหล่งน้ำตามธรรมชาติในพื้นที่ของตัวเอง เริ่มแห้งขอดลง จึงได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งที่กำลังรุกหนักและขยายวงกว้างมากขึ้นในพื้นที่ภาคอีสาน ทำให้แหล่งอาหารของเป็ด เช่น หอยขม และหอยชนิดต่างๆ เริ่มหายากขึ้น และเมื่ออาหารไม่เพียงพอจะทำให้เป็ดออกไข่น้อยลงด้วย จากเดิมกว่าวันละ 200 แผง ลดลงเหลือเพียงวันละ 50 แผง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top