ส่อง...เกษตร : 2แนวรบ-ยางและสสส.

ส่อง...เกษตร : 2แนวรบ-ยางและสสส.

วันพุธ ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

แค่ผ่านปีใหม่มาได้ไม่ถึงครึ่งเดือนเลย รัฐบาล คสช.ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องเผชิญกับศึกหนักติดพันรอบด้าน
ทั้งเรื่องเก่า เรื่องใหม่ จากปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจที่ประเดประดังเข้ามามากมาย ร้อนแรงจนน่าห่วงเป็นอย่างยิ่ง

คู่ต่อสู้ที่กำลังเปิดศึกกดดันรัฐบาล ไม่เพียงแต่ขั้วอำนาจเก่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งรัฐบาลยังพอเรียกความเห็นใจจากสังคมทั่วไปโดยเฉพาะแรงหนุนจากผู้ที่ยังศรัทธารัฐบาลอยู่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายกลุ่มที่ออกมากดดัน โดยที่กระแสสังคมคล้อยตาม กระทั่งส่งผลเสียหายต่อความนิยมของรัฐบาล


เรื่องหนึ่ง คือการเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคใต้ ที่กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นทุกที ซึ่งต้องยอมรับว่า ชาวสวนยางกำลังเดือดร้อนแสนสาหัสจริงๆ เมื่อราคายางดิ่งลงมาเหลือแค่ระดับ “3ถึง4โล/ร้อย” จนไม่อาจที่จะมีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพได้

อีกเรื่องหนึ่งคือ กลุ่มเอ็นจีโอ คนทำงานในภาคประชาสังคมต่างๆ ที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ต่อต้านการที่นายกฯประยุทธ์ใช้อำนาจเด็ดขาดตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปลดบอร์ดผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน ของสสส.-กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งทั้ง 7 ท่านนี้ ล้วนแต่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่สังคมให้ความยอมรับในคุณความดี เรื่องของการทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมมาอย่างยาวนาน

การเคลื่อนไหวของเกษตรกรชาวสวนยางมาจากพื้นฐานที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งช่วยให้พ้นจากความเดือดร้อน เพราะไม่อาจที่จะอดทนได้ต่อไป หลังจากที่อดทนมานานพอสมควรแล้ว จากการที่ราคายางดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหลายๆสาเหตุที่ทำให้ราคายางตกต่ำหนัก จะเป็นเรื่องสุดวิสัย ทั้งราคาน้ำมันที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ หรือภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงแรง ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางถดถอย แต่สิ่งที่รัฐบาลเคยประกาศมาตรการช่วยแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนให้ ก็ยังขาดประสิทธิภาพ ล่าช้า ไม่ทันการณ์ รวมทั้งมีปัญหาหน่วยงานที่มีหน้าที่แก้ปัญหา กลับดูจะทำงานอย่างไม่โปร่งใส จนกลายเป็นการสร้างปัญหา ซ้ำเติมราคายางเสียเอง

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเอ็นจีโอที่ออกมาคัดค้านการปลดบอร์ดสสส. ก็ไม่ใช่แค่เรื่องที่จะมาปกป้องใคร แต่ด้วยเหตุผลที่การใช้อำนาจพิเศษ “ปลด” บอร์ดสสส. ยังฟังไม่ขึ้น ทั้งมีสิ่งที่ทำให้เกิดความหวาดระแวงถึงเจตนาที่แท้จริง จนเกิดการตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลต้องการจะเข้ามาแทรกแซงเพื่อหวัง “ฮุบ” อำนาจในการใช้เงินกองทุนสสส.หรือไม่ ทำให้กลไกสสส.ต้องถูกระบบราชการที่ยังล้าหลังเข้ามาครอบงำ จนเสียหายหรือไม่ อีกทั้งสถานการณ์ที่เกิดตามมา ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครือข่ายประชาสังคมต่างๆด้วยถูก“แช่แข็ง”เงินทุนที่ได้รับสนับสนุนจากสสส.มาทำโครงการต่างๆหลายร้อยโครงการ จนเดือดร้อนกันไปทั่วทั้งในส่วนของคนทำงานในเอ็นจีโอและในส่วนของประชาชนที่หวังพึ่งโครงการเหล่านี้อยู่

การรับมือกับการเคลื่อนไหวของชาวสวนยาง จริงอยู่ที่รัฐบาลไม่อาจตอบสนองข้อเรียกร้องบางข้อได้ โดยเฉพาะที่ชาวสวนยางต้องการราคากก.ละ 60 บาท จากปัจจุบันอยู่ที่กก.ละ 34-35 บาท

ด้วยเหตุผลว่า รัฐบาลไม่มีเงินจะไปแทรกแซงราคาได้ขนาดนั้น หรือถึงมี รัฐบาลชุดนี้ก็จะไม่ทำ เพราะจะยิ่งสร้างผลเสียหายในอนาคตเหมือนที่รัฐบาลก่อนๆเคยทำมา และรัฐบาลก็กำลังดำเนินมาตรการที่จะแก้ปัญหาแบบยั่งยืน รวมถึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า...ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังได้

แต่มาตรการที่ออกมาก็ต้องเร่งรัดให้มีผลโดยเร็วอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะงานในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลไก “การยางแห่งประเทศไทย” ที่จะต้องเอาคนที่มีความรู้ความสามารถที่แท้จริงในการแก้ไขเรื่องยางมาดูแล ไม่ใช่การแต่งตั้งแต่“พรรคพวก”

ส่วนปัญหา สสส. ก็มีผู้ใหญ่หลายท่านที่สังคมให้ความเคารพอย่างสูงโดยเฉพาะ นพ.ประเวศ วะสี ก็ได้ออกมาท้วงติงและให้ข้อเสนอแนะด้วยเจตนาดีเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรจะรับฟังและแก้ไขด้วยสติ อย่าผลักมิตรออกไปเป็นศัตรูก่อศึกรอบด้าน และทำให้ภาคประชาสังคมที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการทำนโยบาย“ประชารัฐ” ของรัฐบาลเอง หมดศรัทธาพากันถอยห่างได้

ยามนี้ศัตรูที่แท้จริง อาจจะกำลังหัวเราะเยาะ และรอดูรัฐบาล คสช.สะดุดขาตัวเอง “ล้ม” ไปก็ได้ หากยังเอาทำงานกันแบบนี้

สาโรช บุญแสง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top