13 ม.ค. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมหาเถรสมาคม (มส.) ประชุมลับเมื่อวันที่ 5 ม.ค. พร้อมมีมติเสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ว่า ประชุมทุกครั้งก็ลับทั้งนั้น ลับหรือไม่ลับจึงไม่มีความแตกต่าง ปัญหาคือวาระที่ประชุมบอกให้คนรู้ก่อนหรือไม่ สมมติถ้าทำไปแล้วจริงอาจจะตื่นเต้นเพราะไม่คาดว่าจะเกิด อย่างนั้นอีกเรื่อง แต่ทำไมเขาต้องไปบอกใคร เพราะอย่างน้อยก็ต้องบอกกันเองไม่เช่นนั้นกรรรมการมส.จะมาประชุมได้หรือ ส่วนจะครบองค์ประชุมหรือไม่ตนไม่ทราบ และหากมีมติใดออกมาก็สามารถเสนอมายังรัฐบาลได้ ถ้าการประชุมมีมติรับรองถูกต้องมันก็จบ จะมีอะไรไปหักไปโค่นว่าไม่ถูก
นายวิษณุ กล่าวว่า ตามขั้นตอนหากรัฐบาลได้รับรายชื่อมาจะต้องตรวจสอบว่ากระบวนในการพิจารณาเสนอชื่อมาทำถูกหรือไม่ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ แต่ไม่มีหน้าที่ไปดูความประพฤติหรือความเหมาะสม เพราะเรื่องนี้ไม่มีอำนาจ แต่ถ้ามีคำถามใดมาก็ตามรัฐบาลต้องตอบได้ว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น แต่ขณะนี้ยัง อย่าไปเตรียมตอบเพราะไม่รู้จะเจอคำถามอะไร ส่วนการตั้งรักษาการไปก่อนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดหรือไม่นั้นตนไม่ขอตอบ ตอบแบบนั้นมันอคติ ส่วนที่นายกฯ พูดนั้นพูดด้วยความเห็นกลางว่าถ้ายังทะเลาะขัดแย้งกันอยู่ รัฐบาลจะไม่นำสิ่งซึ่งเป็นความขัดแย้งขึ้นไปกราบบังคมทูลฯ เพราะถ้าฝ่าฟันทุกอย่างแล้วกราบบังคมทูลฯ ขึ้นไป คนที่ขัดแย้งตามไปคัดค้าน สำนักราชเลขาธิการก็ต้องส่งกลับมาอยู่ดีว่าจะเอาอย่างไรกันแน่
“วันนี้รัฐบาลยังไม่ได้รับเรื่อง แต่ถึงได้รับมาถามว่าจะเก็บไว้หรือไม่ คงไม่ใช่เรื่องต้องมาไล่ถามรายวัน ต่อไปเมื่อได้รับเรื่องแล้วอาจไม่สามารถพูดอะไรได้ด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลต้องระวังเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นเยอะ ถ้ากรณีนี้เป็นแบบอย่าง ผมกลัวอย่างอื่นที่สำคัญกว่านี้ต่อไปอีก ถ้าทุกอย่างเป็นขี้ปากได้”นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ถ้าเรื่องมาถึงรัฐบาล สุดท้ายจะอยู่ในสถานะถูกบีบให้ต้องเลือก นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กลัว คิดว่ามีทางออก อะไรที่เป็นหน้าที่รัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่นั้น ซึ่งเกิดจากกฎหมาย ประเพณี และความคาดหมายของประชาชน ประกอบขึ้นเป็นหน้าที่ และต้องแจ้งคณะสงฆ์ทราบว่ารัฐบาลจะทำอะไรอย่างไร ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นเผือกร้อนของรัฐบาล แต่ตนถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมดา
“เรื่องนี้พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชตามที่นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยความเห็นชอบของมส. ซึ่งจะต้องเสนอเห็นชอบสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ แล้วจะมาพูดเป็นอย่างอื่นให้มันยุ่งทำไม วันนี้เราบอกสมเด็จวัดปากน้ำท่านอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ถ้าไม่ตั้งสมเด็จวัดปากน้ำแล้วจะตั้งใคร ไม่ชอบสมเด็จวัดปากน้ำไม่ว่า แต่ถ้าไม่ตั้งแล้วไปตั้งใคร หมายถึงจะตั้งโดยให้ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกำหนดว่าเป็นสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้" นายวิษณุ กล่าว
รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า หลายครั้งที่ตั้งสมเด็จพระสังฆราชในอดีต มีปัญหาเกือบทุกครั้ง เมื่อมีปัญหาถ้าตั้งได้ก็จบ ชอบไม่ชอบ นับถือไม่นับถือก็อยู่ในใจ ครั้งนี้ไม่ได้มีการแย่งชิง ที่มีปัญหาคือ ลูกศิษย์ที่อยากให้อาจารย์ตัวเองได้เป็น จึงควรปล่อยให้เป็นไปโดยธรรมชาติ อย่าให้มันผิดธรรมชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี