หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 (นพค.51) ตั้งอยู่ ต.โนนหนามแท่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ได้น้อมนำปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับใช้ในพื้นที่กว่า 300 ไร่ พลิกผืนดินกลายเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เต็มรูปแบบที่ผ่านมา มีหน่วยงานราชการ บริษัทเอกชน นักเรียน นักศึกษา เกษตรกรและประชาชนทั่วไป เดินทางเข้ามาศึกษาดูงาน ตลอดเวลา นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
พันเอก(พิเศษ)ชวนากร ผดุงกิจ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 (นพค.51) จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ได้น้อมนำ
พระราชดำริ ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับใช้กับพื้นที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51(นพค.51) จนประสบความสำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้ พื้นที่บริเวณนี้กว่า 300 ไร่ แห้งแล้ง ปลูกอะไรไม่ได้ผล กระทั่งมีการปรับพื้นดินจนสามารถปลูกพืชได้นานาชนิด โดยมีการปรับพื้นที่ดังนี้
1.ปรับสภาพแหล่งน้ำเดิม โดยการขุดลอกให้มีความลึก 5 เมตร เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำฝนได้ 45,000 ลบ.ม. จำนวน 3 บ่อ และถมคันยกระดับแนวทางถนนทางเข้าศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ใช้พื้นที่ 7 ไร่ ปล่อยพันปลากินพืช เช่น ปลานิล ปลาตะเพียนและปลูกพืชผักรอบๆบ่อที่สามารถเก็บกินได้
2.ปรับขยายจัดรูปแบบแปลงนาในพื้นที่ 1 ไร่ และทำเป็นคลองน้ำรอบๆแปลงนา ที่ผ่านมาทำนาปีได้ผลผลิตข้าวสาร 240 กระสอบ เพื่อเลี้ยงกำลังพล และประหยัดงบประมาณอีกด้วย
3.จัดทำบ้านตัวอย่าง โครงการ 1 ไร่ 1 แสน ในรูปแบบเกษตรผสมผสาน มีการปลูกพืชผักและไม้ผลหลากหลายชนิด รวมถึงเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก เพาะเห็ดนางฟ้า เลี้ยงไก่พื้นบ้าน ไก่ดำภูพาน ไก่เหลืองดงยอ เลี้ยงหมูหลุม เลี้ยงเป็ด เลี้ยงวัว ซึ่งมูลสัตว์เหล่านี้ก็จะทำเป็นก๊าซชีวภาพ ใช้ในโครงการ และการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในบ้านตัวอย่าง 1 ไร่พอเพียง
4.จัดระบบน้ำ เพื่อการเกษตรตลอดพื้นที่แบบประหยัด โดยใช้ปั๊มขนาดเล็กผลักดันน้ำผ่านท่อพีวีซี ส่งต่อน้ำไปใช้ให้ทั่วถึง และการจัดทำจักรยานปั่นน้ำ มีอยู่จำนวน 10 จุดทั่วพื้นที่ ก็เป็นการประหยัดไฟฟ้า แถมกำลังพลได้ออกกำลังกายอีกต่างหาก โดยให้น้ำผ่านท่อ ก็สามารถรดน้ำต้นไม้และพืชผักต่างๆได้เป็นอย่างดี
สำหรับที่เป็นหน้าเป็นตาและเป็นไฮไลท์ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 ซึ่งได้รับการยกย่องชมเชยมาโดยตลอดก็คือ การรับ
ผู้ติดยาเสพติด จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยา ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี มีผู้ผ่านการบำบัดรักษาหลายพันคน แม้จะเปลี่ยนชื่อเรียกตามยุคสมัยมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนแล้วก็ตาม ปัจจุบันนี้ ก็ยังคงรับการบำบัดรักษาอยู่อย่างสม่ำเสมอ ครั้งละ 60 คน จากสำนักงานคุมประพฤติ จ.อำนาจเจริญ ภายใต้ชื่อว่า สถานที่ เพื่อการฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ซึ่งการทำกิจกรรมในการรักษาก็จะเป็นรูปแบบเดิม โดยเน้นการฝึกแบบทหาร การนั่งสมาธิ และขบวนการบำบัดจากสำนักงานสาธารณสุข จ.อำนาจเจริญ ระยะเวลาในการบำบัดฟื้นฟู 15 วัน ระหว่างที่เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูก็จะมีการสอนอาชีพที่ถนัด สอนการเกษตร โดยน้อมนำ เศรษฐกิจพอเพียง แนะบอกสอน แก่ผู้เข้ารับการบำบัดด้วย เมื่อออกไปแล้วจะได้มีอาชีพติดตัว และจากการติดตามประเมินผล ร้อยละ 80 ที่ผ่านสถานที่ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเลย ส่วนผู้ที่หวนกลับไปเสพยาอีก ก็ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เลิกยุ่งเกี่ยวอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำร้านค้าที่หน้าหน่วยริมถนนชยางกูร ถนนสายหลัก(อำนาจ-มุกดาหาร) เพื่อจำหน่ายผลผลิตสินค้าทางการเกษตรปลอดสารพิษ แก่ประชาชนที่ผ่านไปมา จะได้บริโภคพืชผลทางการเกษตรในราคาถูก เพื่อสุขภาพ สร้างรายได้เข้าหน่วยฯ และเป็นการประหยัดงบประมาณอีกทางหนึ่งด้วย
พันเอก(พิเศษ)ชวนากร ผดุงกิจ ผบ.นพค.51 จ.อำนาจเจริญ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงโครงการต่างๆ ในหน่วยฯให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านตัวอย่างโครงการ 1 ไร่ 1 แสน โครงการพลังงานทดแทน เช่น การผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์ใช้เอง การทำจักรยานสูบน้ำ การทำกังหันลมสูบน้ำและการทำพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตกระแสไฟฟ้า ก็เป็นความภาคภูมิใจ ที่สามารถดึงดูดใจให้หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน เกษตรกร นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไปเดินทางเข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเกษตรกร หรือผู้สนใจ ต้องการเดินทางไปศึกษาดูงาน ที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 จ.อำนาจเจริญ ก็สามารถติดไปได้ที่ โทร.0-4545-2142 ในวันเวลาราชการ...
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี