รายงานพิเศษ : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในยุคคสช. (ตอนที่ 2)

รายงานพิเศษ : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในยุคคสช. (ตอนที่ 2)

วันจันทร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ

เมื่อเดือนกันยายน 2558 ผมได้เขียนบทความเรื่อง “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในยุค คสช.” ที่ได้แต่งตั้ง นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 เพียง 1 ปี 2 เดือน ข้ามห้วยมาเป็นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกรณีนี้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากที่สุดในระบบข้าราชการไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


เพียงแค่นี้ยังไม่พอ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านยังได้แต่งตั้งให้นายอำนวย ปะติเส อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเพิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งไปพร้อมกับนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กลับมาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ทั้งๆ ที่ในสมัยที่ นายอำนวย ประติเส เป็นรัฐมนตรีช่วยฯ ได้รับมอบหมายและรับผิดชอบเรื่องยางพารา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องยางพาราได้ และยังมีประเด็นเรื่องความไม่โปร่งใสในการระบายสต๊อกยางพารา รวมทั้งเรื่องมูลภัณฑ์กันชน แต่กลับได้รับการแต่งตั้งให้มาเป็นที่ปรึกษา

จินตนา ชัยยวรรณาการ

ต่อมาท่านยังได้แต่งตั้ง นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อดีตอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และประธานบอร์ดองค์การคลังสินค้า (อคส.) มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี และยังได้มอบหมายให้ไปเจรจากับชาวสวนยางพาราที่มีปัญหาเรื่องราคา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2559 และท่านก็เดินออกจากห้องประชุม ทั้งๆ ที่การเจรจายังไม่ยุติ

นอกจากนั้น สำหรับตำแหน่งอธิบดีและรองอธิบดี ท่านยังได้ย้ายและแต่งตั้งให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีความรู้เรื่องยางพาราไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว แต่งตั้งผู้ที่จบสัตวแพทย์ไปเป็นอธิบดีกรมหม่อนไหม ย้ายรองอธิบดีกรมประมงมาเป็นรองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร โดยย้ายรองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรที่จบปริญญาเอก ทางด้านพืชไร่ ที่มีอายุราชการไม่ถึง 1 ปี ก็จะเกษียณไปเป็นรองอธิบดีกรมการข้าวและสุดท้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 11 มกราคม 2559 ท่านยังได้เสนอให้ พลเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย

พลเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข

การแต่งตั้งตำแหน่งทั้งทางด้านการเมือง และข้าราชการประจำในระดับสูงที่มีความสำคัญต่อการบริหาร ขับเคลื่อนนโยบายทางด้านการเกษตร เป็นแขนขาของท่านรัฐมนตรีที่จะช่วยแก้ปัญหาทางภาคการเกษตรในภาวะวิกฤติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย จากราคาสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญตกต่ำ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย ฯลฯ ปัญหาเรื่องการประมง และที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ที่จะมีผลกระทบมากที่สุดสำหรับภาคการผลิตที่จะต้องมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี รวมทั้งผู้ช่วยรัฐมนตรี และที่ปรึกษา ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในด้านการเกษตรแต่ละด้าน มาช่วยวางนโยบายเพื่อการแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นวิกฤติในระยะสั้น และการพัฒนาการเกษตรในระยะยาวซึ่งหมายความว่าต้องมีการปฏิรูปภาคการเกษตรเพื่อไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน แต่การวางตำแหน่งของผู้บริหารดังที่ได้ยกตัวอย่างมานั้น ท่านได้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและภาพลักษณ์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น ท่านรัฐมนตรีไม่ควรน้อยใจที่ คสช. และรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องยางพารา ท่านไม่ต้องไปบอกให้ผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ไม่ควรจะน้อยอกน้อยใจที่รัฐบาลและภาคเอกชนมองข้ามความสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายที่ท่านได้ดำเนินการกับข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งนโยบายและวิธีการบริหารงาน ตั้งแต่ท่านมารับตำแหน่ง ท่านได้ทำลายขวัญและกำลังใจ ตลอดจนประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการและลูกจ้างของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปหมดสิ้นแล้ว

อำนวย ปะติเส

และที่น่าติดตามต่อไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังจะเป็นหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติงานตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ส่งข้อมูลให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดพื้นที่โซนนิ่งข้าว หรือโครงการเกษตรอินทรีย์ที่กระทรวงพาณิชย์ สั่งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเริ่มต้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นผู้ดำเนินการส่งเสริม หรือก่อนหน้านี้ สมัยที่ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการร่วมจัดทำสินค้าเกษตรเป็นรายพืชเศรษฐกิจ 4 สินค้า ที่ให้เพิ่มพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ คือ อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ดำเนินการ

“เคาะแผนปลูกข้าว 25 ล้านตัน: ผลงานชิ้นโบว์แดงพาณิชย์ ก่อนโยนลูกเกษตร” (ไทยรัฐ, 20 มกราคม 2559)

อนันต์ ดาโลดม
นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top