วันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 15 เตือนเรื่องอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย โดยระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมบริเวณประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือยังมีอุณหภูมิลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียล ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทย มีคลื่นสูง2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง
เลยเหลือ1องศา-เกิดแม่คะนิ้ง
วันเดียวกัน ที่ จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศหนาวเย็นลงอีกครั้ง ทำให้อำเภอต่างๆ อุณหภูมิลดลงเฉลี่ย 5-12 องศา ขณะที่บนยอดภูเหลือเพียง 1 องศา พื้นราบ 5-8 องศา โดยที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย (เกษตรที่สูงบ้านหินสอ) อ.ภูเรือ เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้งขาวโพลนเต็มสนามหญ้าเป็นครั้งแรกในรอบปี และยังเกิดแม่คะนิ้งที่บ้านท่อน ต.นาพึง อ.นาแห้ว ขณะที่ ชาวบ้านทนสภาพอากาศหนาวเย็นจากอุณภูมิที่ลดฮวบเหลือ 5-7 องศาฯ ไม่ไหว ต้องออกมารวมตัวนั่งผิงไฟเพื่อคลายความหนาวเย็น ก่อนออกไปทำไร่ทำนา
กาฬสินธุ์ก่อไฟไล่หนาวทั้งวัน
จ.กาฬสินธุ์ สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นทั่วทั้ง 18 อำเภอ โดย นายสุพจน์ ปั้นทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่าช่วงเช้าอุณหภูมิบริเวณพื้นราบต่ำสุดวัดได้ที่ 8.2 องศาเซลเซียส ยอดเขาภูพานอุณหภูมิ 6–7 องศา อากาศยังหนาวเย็น 2-4 องศา เช้าตรู่และช่วงหัวค่ำจะมีหมอกหนาทั่วบริเวณทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่ลดลง ส่วนตามชุมชนในพื้นที่ห่างไกลต้องอาศัยก่อไฟผิงเพื่อไล่ความหนาวเย็นตลอดทั้งวัน ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งต้องอนุญาตให้นักเรียนทั้งชายหญิง สวมใส่กางเกงวอร์มหรือชุดพละมาเรียนได้ โดยกำชับครูประจำชั้นจัดกิจกรรมเสริมสร้างความอบอุ่นให้นักเรียน ก่อนขึ้นชั้นเรียนตามปกติ
ลมพัดบ้าน2ผัวเมียพิการพัง
ช่วงเช้าวันเดียวกันที่ จ.ลพบุรี ผู้สื่อข่าวรายได้งานว่า ได้เกิดลมหนาวพัดอย่างรุนแรงใส่บ้าน นายวิโรจน์ แก้วกัลยา อายุ 52 ปี บ้านเลขที่45 หมู่ที่ 3 ต.หนองเมือง อ.บ้านหมี่ ที่ป่วยเป็นโรคตับและมีภรรยาที่ป่วยเป็นอัมพฤก ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง อีกทั้งยังมีโรงรถของเพื่อนบ้านเสียหายอีก 1 หลัง โดยบ้านของ นายวิโรจน์ ยังไม่สามารถซ่อมได้ เพราะไม่มีเงิน แม้ส่วนราชการเข้าตรวจสอบก็พบในพื้นที่มีบ้านที่เสียหายวาตภัยแค่ 1-2 หลัง ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในความช่วยเหลือต้องมีบ้านเสียหายไม่ถึง 3 หลัง ทำให้ทั้ง 2 สามีภรรยา ต้องอยู่ตามมีตามเกิด จึงวอนราชการผู้ที่รับผิดชอบ เร่งช่วยเหลือโดยด่วน
บุรีรัมย์หนาวจัดไก่ชนป่วยหงอย
จ.บุรีรัมย์ สภาพอากาศหนาวเย็นลงฉับพลัน อุณหภูมิ13องศาทำให้ผู้เพาะเลี้ยงไก่ชนขายในพื้นที่ บ้านกระสัง หมู่ที่ 12 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ปรับสภาพไม่ทันเกิดป่วย หงอยไม่ค่อยกินอาหารล้มตาย โดยนายรังสรรค์ เจริญพันธ์ อายุ 38ปี ผู้เพาะเลี้ยงไก่ชนไว้ขาย เผยว่าช่วงสภาพอากาศหนาวเย็น ลงทำให้ไก่ชนที่เพาะเลี้ยงไว้ขายกว่ 80ตัว ได้ล้มป่วยลง เกิดอาการหงอยลง ต้องซื้อยาวิตามินมาป้อนให้ไก่ชนกิน พร้อมนำไก่ชนมาซ้อมและนำมาตากแดดเพิ่มไออุ่น ป้องกันไก่ชนล้มป่วยง่าย โดยช่วงกลางคืนต้องนำผ้ามาคลุมสุ่มไก่ให้มิดชิดป้องกันลมหนาว เบื้องต้น มีไก่ชนเพาะเลี้ยงขายป่วยแล้ว 3-4 ตัว บางตัวได้ล้มตาย ทำให้ขาดรายได้หลายหมื่นบาท
ศรีสะเกษเย็นจัดแม่วัวลุกไม่ไหว
จ.ศรีสะเกษ สภาพอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง ช่วงเช้าเพียง 9 องศาแต่ลมพัดแรงโดยที่ทุ่งนาบ้านกุดโง้ง หมู่6ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นที่โล่ง วัวหนุ่มสาวยังแข็งแรงเดินออกไปเล็มหญ้ากินได้ ผึ่งแดดรับไออุ่นกลางทุ่งนา ส่วนแม่วัวที่เป็นวัวแก่ เมื่อเจออากาศที่หนาวเย็น ทำให้ปวดขาปวดกล้ามเนื้อขาแข็งลุกยืนขึ้นไม่ได้ นอนอยู่ในคอกโดยนายพิษณุพงษ์ พวงอก อายุ44 ปีเจ้าของวัว ต้องนำผ้าใบกางบังลม ผ้านวมไปห่มให้และกลางคืนต้องก่อไฟไว้รอบนอกคอกวัว และติดต่อสัตวแพทย์มาฉีดยาแก้ไข้ยาบำรุงร่างกายแม่วัวแก่เพื่อที่จะให้สามารถลุกขึ้นกินหญ้าได้
ภาคใต้อ่วมคลื่นถล่มหนัก
วันเดียวกัน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร มีจังหวัดได้รับผลกระทบคลื่นซัดฝั่ง รวม 5 จังหวัด 14 อำเภอ ดังนี้1.จ.นราธิวาส 1อำเภอคืออ.เมือง 2.จ.สงขลา 2 อำเภอ คือ อ.ระโนด อ.สิงหนคร 3.จ.นครศรีธรรมราช 4 อำเภอ คือ อ.ปากพนัง อ.เมือง อ.ท่าศาลา และ อ.สิชล 4.จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือ อ.เมือง ประจวบคีรีขันธ์ 5.จ.ชุมพร 6 อำเภอ คือ อ.ปะทิว อ.เมือง อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน แล อ.ละแม ทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณริมฝั่งทะเล สิ่งปลูกสร้างและถนนในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลเสียหาย เบื้องต้นปภ.ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว
สั่ง จนท.เฝ้าระวัง9จว.ภาคใต้
นายฉัตรชัย ระบุว่า จากการติดตามสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาพบว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และ ภาคใต้ยังมีกำลังแรงทำให้บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ปภ.จึงประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทย จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์คลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัยพร้อมปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและประกอบกิจกรรมทางทะเล ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้
ผู้ว่าฯสรุปเมืองคอน6อำเภออ่วม
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยว่าจากการที่เกิดสถานการณ์วาตภัย คลื่นลมแรงและน้ำทะเลหนุนสูง ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่7 กุมภาพันธ์ เบื้องต้น ปภ.สรุปมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ 19 ตำบล 88 หมู่บ้าน ดังนี้ 1.อ.ปากพนัง 7 ตำบล 35 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 2.อ.หัวไทร 2 ตำบล 11 หมู่บ้าน 3. อ.สิชล จำนวน 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน 4.อ.ขนอม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน 5. อ.ท่าศาลา 2 ตำบล 11 หมู่บ้าน และ6. อ.เมืองนครศรีธรรมราช 5 ตำบล 26 หมู่บ้าน โดยจะประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินต่อไป
สั่งปิดรร.-ปากพนังถนนพัง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดน้ำทะเลหนุนและไหลท่วมโรงเรียนวัดมุขธารา ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่และครูต้องขนย้ายของอพยพขึ้นไปบนที่สูง พร้อมประกาศหยุดการเรียนการสอน อีกทั้งยังพบว่ามีน้ำไหลบ่าจากปากน้ำปากนครเข้าท่วมในชุมชน ขณะที่เรือประมงทุกชนิดต้องจอดหลบคลื่นลมอยู่บริเวณชายฝั่ง ส่วนที่ อ.ปากพนัง คลื่นลมแรง มีระดับความสูง 2-4 เมตร โดยเฉพาะที่ถนนเลียบชายฝั่งทะเล สายปากพนัง-หัวไทร รอยต่อของ ต.ขนาบนาก และ ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง พังเสียหาย ต้องปิดการจราจรบางช่วง เบื้องต้น กำลัง ทหาร มทบ.41 ร่วมกับ ปภ.นครศรีธรรมราช เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเบื้องต้นแล้ว
คลื่นถล่มระโหนดอพยพ40หลัง
ที่ จ.สงขลา สภาพคลื่นมีกำลังแรงอีกครั้งน้ำทะเลได้หนุนสูง ซัดเข้าท่วมหมู่บ้านชาวประมงหมู่ที่ 1 บ้านท่าเข็น ต.คลองแดน อ.ระโนด จ.สงขลา รับผลกระทบกว่า40 ครัวเรือนและมีบ้าน 1 หลังที่ถูกคลื่นซัดได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องเร่งอพยพ ขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์คลื่นซัดเข้าท่วมหมู่บ้านชาวประมงบ้านท่าเข็นเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งช่วงปลายเดือนมกราคม
เรือเฟอร์รี่หยุดข้ามฟากหนีคลื่น
จากกระแสคลื่นลมแรง ยังคงพัดกระหน่ำท่าเรือเฟอร์รี่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี อย่างต่อเนื่อง ช่วงเช้าผู้ประกอบการยังคงเดินเรือให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ จนกระทั่ง ช่วงสาย ผู้ประกอบการ บริษัท เฟอร์รี่ จำกัด ประกาศหยุดการเดินเรือชั่วคราวในเวลาเที่ยว 11.00 และเที่ยว 12.00น.ทั้งบนฝั่ง และบนเกาะ เนื่องจากเป็นเวลาน้ำขึ้นเต็มที่และมีคลื่นสูงกว่า3 เมตร เรือไม่สามารถเทียบท่าได้ สภาพคลื่นลมแรงจัดทำให้แพพื้นทางเดินลงเรือได้รับความเสียหาย ส่วนในเที่ยวอื่นๆ ยังต้องประเมินสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมง นายเทียนชัย นาคมณี ผู้จัดการฝ่ายท่าเรือ บริษัท ราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่าสามารถบริการรับส่งผู้โดยสารได้ทุกคนอย่างแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี