9 ก.พ. 59 ที่หอประชุมศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ภายหลังการประชุมประมาณ 2 ชม. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมว่า ได้กำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จังหวัดสระแก้ว "สระแก้ว โมเดล" ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินการ 1 ปี (มี.ค.59-ก.พ.60) โดยมีการกำหนดดังนี้คือ 1.รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขาย และประชาชนทราบถึงนโยบาย ไม่ให้มีการซื้อขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ 2.จัดทำแผนที่ แผนผัง จุดจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมดในพื้นที่ 3.จัดทำบัญชีรายชื่อนายทุน หรือผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง 4.จัดสัปดาห์รณรงค์การป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ 5.เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจด่านบริเวณชายแดน และบริเวณเส้นทางออกจากจังหวัดไม่ให้มีสินค้าลำเลียงผ่านชายแดนเข้ามาในจังหวัดสระแก้ว และกระจายไปทั่วประเทศ 6.จัดชุดตรวจร่วมระหว่างจังหวัดสระแก้ว กรมทรัพย์สินทางปัญญา ปปท. ภาคเอกชน ฯลฯ เพื่อกดดันผู้ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ 7.ประชุมทำความเข้าใจกับเจ้าของพื้นที่หรือเจ้าของตลาดและผู้ค้ารายใหญ่ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติในการจำหน่ายสินค้าให้เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย เช่น สินค้ามือสอง สินค้าโอทอป สินค้าเกษตร ฯลฯ 8.จัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อเป็นศูนย์กลางในจังหวัดสระแก้ว มีหน้าที่ในการประสานงานด้านการปราบปราม และรวบรวมข้อมูลผลการดำเนินการปราบปรามในพื้นที่ 9.ประชาสัมพันธ์ แถลงผลงานและบรูณาการตาม "สระแก้ว โมเดล"
นายภัครธรณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมและวางแผนมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายให้เป็นรูปธรรมในระยะเวลาสั้น ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่อีกเด็ดขาด รวมทั้งตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในตลาดโรงเกลือก่อนจะขยายผลไปทั่วประเทศ โดยที่ประชุมมีมติวางแผนปราบปรามระยะสั้น ภายในเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน มี.ค. - เม.ย. จะเริ่มส่งเจ้าหน้าที่และตำรวจลงไปกดดันไม่ให้สิ่งผิดกฎหมายมีอยู่ในตลาดโรงเกลือ ใช้กฎหมายแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งประเมินการทำงานทุก 3 เดือน ส่วนระยะยาวอาจปรับเปลี่ยน เนื่องจากบริเวณตลาดโรงเกลือมีชาวกัมพูชาเข้ามารับจ้างและค้าขายประมาณหลักหมื่นคนต่อวัน ซึ่งต้องมาทำความเข้าใจว่าสินค้าประเภทไหนบ้างผิดกฎหมาย เพื่อปรับเปลี่ยนมาขายสินค้าถูกกฎหมายแทน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเดือน เม.ย. ตลาดโรงเกลือจะมีหน้าตาอย่างไร นายภัครธรณ์ กล่าวว่า ตลาดโรงเกลือมีสินค้าที่หลากหลายประเภทและจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง น่าจะสามารถขายได้อยู่แล้ว มีเพียงบางส่วนที่เป็นสินค้าผิดกฎหมายอาจต้องปรับมาขายของแท้ ซึ่งเราก็มีตัวแทนอยู่แล้ว นอกจากนี้ จะพยายามทำให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กลายเป็นศูนย์ ภายในระยะสั้นให้ได้ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำความเข้าใจ เรื่องสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งทำให้ประเทศเสียผลประโยชน์หลายด้าน และถูกจับตามองจากหลายประเทศ โดยเรามีการแจ้งเตือนไปหลายครั้งอย่าจำหน่ายแต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน
"ตลาดโรงเกลือหลังจากเกิดเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อาจจะเงียบเหงาบ้างเล็กน้อยในบางจุด แต่ภาพรวมยังมีผู้คนมาซื้อหาสินค้าในตลาดโรงเกลืออยู่เหมือนเดิม ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาต้องปิดตลาดในอนาคต เพราะยังมีห้างสรรพสินค้าขายของถูกกฏหมายวางจำหน่าย สุดท้ายจะประเมินผลการทำงานระยะสั้นก่อนหลังเดือน เม.ย. ซึ่งปกติประเมินทุก 3 เดือนอยู่แล้ว" นายภัครธรณ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย เพราะทางสถานทูตฝรั่งเศสได้มีหนังสือมาขอความร่วมมือ และการเข้าดำเนินการจับกุม ก็มีหมายศาลเข้าไปดำเนินการ การจับกุมทางเราก็ได้ดำเนินการจับกุมจนเสร็จสิ้นแล้ว และมีการแสดงตัวให้ทราบ แต่ทางพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ได้เข้ามาขนของกลางไปจากรถของเจ้าหน้าที่และเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย
ต่อข้อถามการทำงานของดีเอสไอ หลังจากนี้ต้องแจ้งพื้นที่ก่อนเข้าปฎิบัติการจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า แนวทางทำคดีดีเอสไอในเรื่องนี้ 1.การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ จะทำต่อไปทั้งผู้ค้า ผู้ขายและเครือข่าย 2.การทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และการทำให้เสียทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับไปดำเนินการ เพราะกฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในการสืบสวนจับกุมคนร้าย ทั้งนี้หากเป็นบางเหตุการณ์กรณีฉุกเฉินก็ไม่ต้องแจ้งพื้นที่ก่อน แต่เหตุการณ์ปกติเมื่อเข้าพื้นที่อาจต้องแจ้งพื้นที่ก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี