หนีทุนโผล่อีก
แจ้งจับอดีตอาจารย์มรภ.
รองเจ้ากรมฯ-เพื่อนเซ็นค้ำ
ถูกฟ้องล้มละลายใช้หนี้4ล.
ทันตแพทยสภาสอบดลฤดี
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.กิตติภพ มนูญนิมิตร รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วย นางจันทิรา อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัย
อาชีวะศึกษาธนบุรี เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.วรพงษ์ ภคเวส พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดี กับ นางภัทรพร อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
พล.ต.กิตติภพ กล่าวว่า การเข้าแจ้งความดังกล่าวสืบเนื่องจากนางภัทรพร ได้รับทุนไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ที่คณะบริหารธุรกิจการจัดการ มหาวิทยาลัยแห่งเมืองซาราโซต้า รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2539 และได้มาขอร้องให้เซ็นค้ำประกันเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ตนเองเห็นว่านางภัทรพรจะไปเรียนและกลับมาทำงานเพื่อประเทศจึงเซ็นค้ำให้ พร้อมกับเพื่อน ของนางภัทรพรอีก 2 คนคือนางจันทิราและผศ.ภากิต อาจารย์คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
พล.ต.กิตติพร กล่าวอีกว่า แต่หลังจากศึกษาสำเร็จกลับมาแล้ว นางภัทรพรมารายงานตัวกับทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 แต่เพียง 1 เดือนเศษคือประมาณต้นเดือนเมษายนปีเดียวกัน หลังจากนั้นก็ลาออกจากราชการ และทางมหาวิทยาลัยดังกล่าวก็อนุมัติให้ลาออกได้ โดยที่ตนไม่ทราบว่ามีการติดตามทวงถามกรณีการใช้คืนทุนด้วยหรือไม่ และไม่มีการแจ้งมาที่ตนในฐานะผู้ค้ำประกัน
ปีต่อมาคือเมื่อปี 2547 ทางมหาวิทยาลัยได้ฟ้องคดีกับตนเพื่อบังคับให้ตนกับอาจารย์อีก 2 ท่าน ในฐานะผู้ค้ำประกันชดใช้ค่าเสียหาย ที่ผ่านมาเราได้ติดตามทวงถามกับนางภัทรพร แต่ปรากฏว่าได้มีการทำหนังสือมายังมหาวิทยาลัยและถึงตนแจ้งว่ายินดีจะชดใช้เงินคืน หลังจากนั้นก็พบว่ามีการชดใช้ทุนให้ทางมหาวิทยาลัย ประมาณ 6 ล้านบาท แต่เมื่อปี2547ทางผู้ค้ำประกันกลับถูกทางมหาวิทยาลัยฟ้องล้มละลาย รวมทั้งนางภัทรพรด้วย
“ในฐานะที่เป็นข้าราชการเราจะปล่อยให้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้ จึงต้องยอมรับสภาพต้องชดใช้หนี้ที่เหลือประมาณ 4 ล้านบาท โดยผู้ค้ำประกันทั้ง 3 หารเฉลี่ยกันไป ก็เป็นเงินประมาณคนละ 1.34 ล้านบาทเศษ ให้ผ่อนชำระเป็นเวลา 8 และ 12 ปี ทางมหาวิทยาลัยก็ถอนฟ้องเราแต่นางภัทรพรศาลตัดสินให้ล้มละลาย แต่คดีนี้ภายใน 3 ปีก็จะพ้นอายุความ เขาก็ไม่เดือดร้อนเพราะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาแต่เราเดือดร้อนจากหนี้ที่ไม่ได้ก่อ” พล.ต.กิตติภพ กล่าว
และว่าหากทาง บก.ป.ช่วยนำเรื่องนี้แจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) เพื่อติดตามตัวนางภัทรพรกลับมาจากอเมริกาก็จะจัดการเรื่องหนี้สินตรงนี้ได้ เท่าที่ทราบนางภัทรพรได้สัญชาติอเมริกันแล้ว จึงอยากให้มีการตรวจสอบด้วยเพราะคนที่มีปัญหามีประวัติอยู่ในเมืองไทยไม่น่าจะได้รับการพิจาณณาให้ได้รับสัญชาติและควรจะถูกขึ้นแบล็กลิสต์ด้วยเพราะคนที่หนีทุนด้วยน่าจะมีอีกจำนวนมาก
ขณะที่นางจันทิรา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ได้ค้ำประกันให้กับนางภัทรพร เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน และเขาก็ตกปากรับคำว่าจะกลับมาทำงานใช้ทุน แต่ภายหลังเมื่อทางครอบครัวเขาที่ประเทศไทยเสียชีวิตกันไปหมด นางภัทรพรก็ไปมีครอบครัวและตั้งต้นชีวิตใหม่ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ โดยไม่ได้สนใจจะใช้ทุนในส่วนที่เหลือ ทำให้ตนต้องถูกฟ้องดำเนินคดี ตอนนี้เดือดร้อนมากต้องใช้หนี้แทนเดือนละกว่า 1 หมื่นบาทเป็นเวลา 8 ปี
ด้านพ.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นคดีความไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะประสานไปยังกรมบังคับคดี เพื่อติดตามเรื่องต่อไป
ขณะเดียวกันที่สถาบันทันตกรรม ทพ.ธรณินทร์ จรัสจรุงเกียรติ นายกทันตแพทยสภา
แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการทันตแพทยสภาว่า ได้นำกรณีทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ ที่ถูกกล่าวหาว่าหนีทุนเข้าหารือเป็นวาระเร่งด่วน โดยที่ประชุมมีมติกล่าวโทษ ทพญ.ดลฤดี และให้นำเรื่องเข้าสู่คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรม เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนด้านจริยธรรม จรรยาบรรณ พร้อมทั้งจะเชิญผู้เสียหาย และผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูลต่อไป
“หากคณะอนุฯพิจารณาจากข้อมูลหลักฐานแล้วเห็นว่าความผิดมีมูล ก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการทันตแพทยสภาเพื่อสอบขั้นสุดท้ายถ้ามีความผิดจะลงโทษใน 4 ขั้นตอน คือว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม และเพิกถอนใบอนุญาตฯ และถ้าพบว่ามีความผิดเรื่องจริยธรรม จรรยาบรรณ ก็จะส่งหนังสือถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดต่อไป” ทพ.ธรณินทร์ กล่าว
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จะหารือกับ
ก.พ.และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยจะเสนอให้มีการประชุมหน่วยงานที่ให้ทุนในประเทศไทยประมาณ 20 หน่วยงานเพื่อวางระเบียบแบบแผนเกี่ยวกับการจัดสรรทุน การใช้ทุนคืน การค้ำประกันเพราะกฎหมายค้ำประกันมีการปรับปรุงแก้ไขก็ต้องมาปรับเรื่องสัญญาค้ำประกันให้เข้ากันและอาจผูกโยงกับการลาออกจากราชการที่เดิมไม่ได้มีเรื่องนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี