23 ก.พ. 59 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 13.30 น. นายวีระชัย อินทร์ประเสริฐ อายุ 48 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอช ที วาย ออโต้พาร์ท เลขที่ 27 ซอยพุทธมณฑลสาย 2ซอย 10 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. ได้เดินทางมาพร้อมน.ส.พรทิพย์ รุ่งรัตน์ธวัชชัย อายุ 47 ปี ภรรยา เพื่อเข้าให้ข้อมูลกับ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รอง ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมทั้งนำเอกสารใบเสร็จจริงมามอบให้ด้วย เนื่องจากมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับรถเมอร์เซเดส เบนซ์ สีไข่ไก่ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งเป็นประธานมหาเถรสมาคม ซึ่งดีเอสไอระบุผลตรวจสอบรถคันดังกล่าวผิดกฎหมายทุกขั้นตอน
นายวีระชัย กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นัดหมายนำเอกสารมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากที่ทางดีเอสไอได้แจ้งให้ทราบว่ามีหลักฐานเกี่ยวพันกับตน โดยตนเองได้ออกเป็นใบเสร็จรับเงินเล่มที่ 39 เลขที่ 1933 ให้กับนางกาญจนา มากเหมือน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2554 ระบุว่าเป็นค่าแรงประกอบรถยนต์ เลขตัวรถ 1860140042/53 เลขเครื่องยนต์ 1869204500552 เป็นจำนวนเงิน 50,000บาท แยกเป็นมูลค่าสินค้า/บริการ 46,500 บาท ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%จำนวน 3,500บาท
ทั้งนี้ นายวีระชัย ระบุว่าเป็นใบเสร็จรับเงินดังกล่าว ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอนำมาแสดงให้ดูนั้น เป็นใบเสร็จปลอม เพราะใบเสร็จดังกล่าว ระบุที่ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด เอช ที วาย ออโต้พาร์ท เลขที่ 14/19 หมู่ 6 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. ซึ่งไม่ตรงกันกับใบเสร็จจริงที่ตนเองออกให้กับลูกค้า ที่สำคัญ ตนเองประกอบธุรกิจนำเข้าเครื่องยนต์ จักรยานยนต์และจักรยานจากญี่ปุ่นมาเป็นเวลาประมาณ 10 ปี แต่ยืนยันว่าไม่ได้รับจดประกอบรถ และยังได้ปิดกิจการมา 2 ปีแล้ว เพราะป่วยสุขภาพไม่ดี อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ตนเข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอครั้งก่อนหน้านี้ ได้รับคำแนะให้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความลงรายงานประวันไว้ ที่สน.หลักสอง เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2558 ว่ามีคนร้ายปลอมใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี ซึ่งได้มีการนำเอกสารปลอมดังกล่าวไปใช้
“ผมยืนยันว่าตนไม่รู้จักนางกาญจนา และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งสิ้น รวมทั้งยืนยันด้วยว่าที่ผ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นรถของสมเด็จช่วง มาก่อน ที่วันนี้ผมมาพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพราะถูกโยงไปเกี่ยวข้องในการจดประกอบรถเบนซ์คันที่เป็นข่าว โดยใบกำกับภาษีของบริษัทปลอมนำชื่อ หจก.เอช ที วาย ออโต้พาร์ท ของผมมาใช้”นายวีระชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา นางกาญจนา มาเหมือน อายุ 69 ปี เจ้าของอู่ N.P.การาจ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากเป็นผู้โดนปลอมลายเซ็นในการจดประกอบรถสมเด็จช่วง
ด้านพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรอง โฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า หลังจากดีเอสไอแถลงเรื่องการตรวจสอบรถโบราณของ สมเด็จช่วง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ในกระบวนการต่อไปโดยระบบกฎหมายของประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้รับผิดชอบคือสำนักคดีภาษีอากรจะรับตัวสำนวนไปดำเนินการสอบสวนต่อไป เรื่องการสอบสวนข้อปฎิบัติหลัก ได้แก่ 1.สำนักคดีเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน่วยงานทำหน้าที่สืบสวนในชั้นต้นจะมีคำกล่าวโทษชี้ประเด็นในการสืบสวนพบความผิดในประเด็นเรื่องอะไร บุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง พร้อมส่งสำนวนพยานหลักฐานไปให้สำนักคดีภาษีอากรเพื่อดำเนินการสอบสวน โดยทางสำนักคดีภาษีอากรจะรวบรวมพยานหลักฐานตามคำกล่าวหาก่อนและถ้าตรวจสอบเห็นว่ามีความผิดเพียงพอก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่ถูกกล่าวหาและเมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
“ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญก็จะขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์จะนำพยานหลักฐานที่ตัวเองคิดว่าบริสุทธิ์มาหักล้างในชั้นการสอบสวนได้ เมื่อผลเป็นอย่างไรแล้ว พนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาหลักฐานทั้งสองฝ่ายและมีความเห็นทางคดีส่งอัยการดำเนินการต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนในการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเนื่องจากมีเอกสารเป็นจำนวนมากและที่สำคัญยังมีกระบวนการแก้ข้อหากล่าวหาที่ฝ่ายถูกแจ้งข้อกล่าวหาสามารถนำพยานหลักฐานมาหักล้างกันได้ด้วย ซึ่งทางสำนักงานภาษีอากรเอาสำนวนไปพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วจะวางแผนการทำงานเพื่อออกมาเป็นรายละเอียดให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้ง” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี