นายพูลสิทธิ์ ศีติสาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชัยนาท เปิดเผยว่า ในระยะที่มีอากาศร้อนจัดอย่างเช่นปัจจุบัน จะมีอีกโรคที่คนพูดถึงกันน้อยแต่มีอันตรายถึงชีวิตคือ “โรคฮีตสโตรก” หรือโรคลมแดด โดยอาการผิดปกติที่เกิดจากความร้อนมีหลายระดับตั้งแต่ระดับที่ไม่เป็นอันตรายได้แก่ เป็นลม อาการหน้ามืดเป็นตะคริว หมดแรงจากความร้อน และที่อันตรายที่สุดคือการเป็นลมแดด หรือที่การแพทย์เรียกว่า ฮีตสโตรก เป็นภาวะวิกฤติของร่างกาย จะไม่สามารถควบคุมความร้อนได้
สำหรับโรคลมแดดนี้ เป็นอาการที่เกิดจากการได้รับความร้อนมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลัง หรือเล่นกีฬาในภาวะอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจจะเกิดขึ้นได้แม้ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง เป็นความผิดปกติที่มีความรุนแรงมากที่สุด ทำให้สมองไม่ทำงาน ไม่สามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น ระบบประสาทส่วนกลาง การทำงานของตับและไต รวมทั้งสูญเสียความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ทำให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติเกิน 40 องศาเซลเซียส ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องให้การรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีโอกาสเสียชีวิต 17-70 เปอร์เซ็นต์
โดยอาการสำคัญ ได้แก่ ตัวร้อนจัด ชีพจรเต้นเร็ว กระสับกระส่าย ระดับความรู้สึกตัวลดลง หมดสติ ชักเกร็ง โดยกลไกการทำงานของร่างกายหลังจากที่ได้รับความร้อนจะมีการปรับตัว โดยส่งน้ำหรือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายใน เช่น สมอง ตับ และกล้ามเนื้อ เป็นต้น ทำให้ผิวหนังขาดน้ำไปหล่อเลี้ยง จึงไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่มีอาการดังกล่าว ให้นำผู้ป่วยเข้าที่ร่ม จัดให้นอนราบ คลายเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบตามร่างกาย ใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อน หรือเทน้ำเย็นราดลงบนตัวเลยเพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี