พบสำนักสงฆ์รุกป่าแม่ฮ่องสอน โค่นไม้พันไร่สร้างอาณาจักร (ประมวลภาพ)

พบสำนักสงฆ์รุกป่าแม่ฮ่องสอน โค่นไม้พันไร่สร้างอาณาจักร (ประมวลภาพ)

วันพฤหัสบดี ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559, 16.09 น.
Tag :

21 เม.ย.59 เมื่อเวลา 10.00 น. นายทวีชัย กันทะใจ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษกรมป่าไม้ที่ 32 และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่มส.1 ( ม่วงต๊อบ ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน , เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองความมั่นคงหลายหน่วย ได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ธัมมคีรี โดยมีพระรูปหนึ่ง อ้างว่า จะดำเนินการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ แต่เมื่อมีการร้องเรียนจากราษฎร และเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุมตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 เม.ย.59 ที่ผ่านมา พบว่า มีการใช้เครื่องจักรกลหนักไถปรับพื้นที่ภูเขาให้ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ลักษณะคล้ายว่าจะทำเหมือนก่อสร้างเป็นที่พักหรือรีสอร์ท ซึ่งถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในการปลูกป่า ตามที่กล่าวอ้าง

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ป่าที่ดังกล่าว เมื่อนับจากทางเข้า ที่แยกขวาจากหมู่บ้านพะโข่โหล่ จะมีการก่อสร้างทางรถยนต์เข้าไปลึกประมาณ ไม่ต่ำกว่า 1 กม. และสองข้างทางนั้น เดิมเป็นที่ดินของชาวบ้านพะโข่โหล่ แต่ได้ถูกกว้านซื้อจากพระสงฆ์ในสำนักสงฆ์ธัมมคีรี ทั้งในราคาถูกและแพง และปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่ของสำนักสงฆ์ดังกล่าว โดยพบว่า ได้มีการปักรั้วคอนกรีตไว้ตลอดแนวสองข้างถนน


สำหรับรถจักรกลหนัก ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดไว้นั้น ประกอบด้วย รถแบคโฮ จำนวน 2 คัน และรถไถ อีก 1 คัน โดยรถแบคโฮ คันใหญ่ และมีตัวหนังสือภาษาจีนติดรถ เป็นรถของ กำนันคนหนึ่ง และ รถแบคโฮ คันเล็กยี่ห้อโคมัสสุ หมายเลขรุ่น C10130 รุ่นปีที่ผลิต *KMTPC238CFTC10130* เป็นของผู้นำชุมชนคนหนึ่ง ซึ่งทั้งสองคน เข้าไปรับจ้างไถปรับภูเขาให้กลายเป็นพื้นราบ โดยจุดที่มีการเข้าไปไถปรับพื้นที่นั้น เป็นป่าต้นน้ำ แม่น้ำแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ส่งน้ำให้แก่อ่างเก็บน้ำแม่ฮ่องสอน ที่ใช้หล่อเลี้ยงโครงการพระราชดำริโป่งแดง และ พระตำหนักโป่งแดงของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ บ้านท่าโป่งแดง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน และนอกจากนั้น น้ำในอ่างเก็บน้ำแม่ฮ่องสอน ยังเป็นแหล่งผลิตน้ำดิบเพื่อใช้ในการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย

หลังจากที่มีการจับกุม ของเจ้าหน้าที่ พบว่า ได้มีการวิ่งเต้น ขอเคลียร์คดี และกันพระสงฆ์ออกจากการเป็นผู้ต้องหา และยังมีการพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อขอไม่ให้เอาผิด การรุกป่าทั้งหมด โดยอ้างว่า เป็นการปรับพื้นที่เพื่อปลูกป่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ระบุว่า หากจะปลูกป่าก็สามารถปลูกแซมในป่าดังกล่าวได้เลย ไม่ใช่มาใช้เครื่องจักรกลหนักทำลายภูเขาทั้งลูกและต้นไม้ขนาดใหญ่อายุนับร้อยๆ ปี ถูกโค่นไปหลาย 1,000 ท่อน ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายป่าครั้งใหญ่ที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top