รายงานพิเศษ : บ้านโคกสำราญ จ.ขอนแก่น  ต้นแบบผลิตผักปลอดภัยบนพื้นที่แปลงใหญ่

รายงานพิเศษ : บ้านโคกสำราญ จ.ขอนแก่น ต้นแบบผลิตผักปลอดภัยบนพื้นที่แปลงใหญ่

วันอังคาร ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

เสงี่ยม เพียแก่นแก้ว

การผลิตสินค้าเกษตรในยุคปัจจุบัน ต้องใช้การตลาดนำการผลิต ผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัย ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน อีกทั้งถ้ามีการรวมกลุ่มเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ยิ่งเพิ่มอำนาจในการต่อรอง ลดต้นทุน และสร้างรายได้ที่ดีขึ้นด้วย

นายดิเรก ตนพยอม รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 3 (สวพ.3) ได้มีการขยายผลต่อยอดนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ ไปดำเนินการในการผลิตผักปลอดภัยเพื่อการค้าในสภาพแปลงใหญ่ ที่บ้านโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากที่นี่มีการรวมกลุ่มผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษมาหลายปีแล้ว แม้พื้นที่เพียง 15 ไร่ เกษตรกร 40 ราย แต่ก็ถือว่าเป็นการรวมกลุ่มผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาดได้ สวพ.3 ได้เข้าต่อยอดส่งเสริมให้เกษตรกรมีการผลิตผักที่ปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP โดยใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตของกรมวิชาการเกษตร พร้อมกับเชื่อมโยงตลาดและผู้บริโภค ทั้งตลาดห้างสรรพสินค้า Modern Tread และตลาดในชุมชน โดยเน้นการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น


นอกจากนี้ ยังเข้าไปช่วยแก้ปัญหาโรคแมลงศัตรูพืชระบาดทำลายผลผลิต ด้วยการใช้สารชีวินทรีย์ป้องกันกำจัดศัตรูพืชทดแทนการใช้สารเคมี เพื่อลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรประสบปัญหาด้วงหมัดผักระบาดในคะน้า ไม่สามารถควบคุมได้ สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตของเกษตรกรอย่างมาก สวพ.3 เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรทดสอบใช้เทคโนโลยีการป้องกันกำจัดด้วงหมัดผักคะน้าโดยชีววิธี คือใช้ไส้เดือนฝอยกำจัดแมลง ซึ่งวิธีการป้องกันกำจัดทางชีววิธีจะได้ผลในระยะยาว และไม่มีสารพิษตกค้าง จึงได้ผลเป็นอย่างดีสามารถควบคุมการระบาดได้

ปัจจุบันเกษตรกรสามารถผลิตไส้เดือนฝอยไว้ใช้เอง พร้อมกันนั้นก็ได้ผลิตปุ๋ยหมักจากเศษพืชผักไว้ใช้เองด้วย ซึ่งสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี และสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ไปได้พอสมควร ที่สำคัญผลผลิตมีคุณภาพ ปลอดภัย เป็นที่ต้องการของตลาด โดยมีพ่อค้ามารับซื้อผลผลิตถึงในแปลง และมีการติดต่อส่งสินค้าไปวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าด้วยเชื่อมั่นว่ากลุ่มผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษบ้านโคกสำราญ มีโอกาสพัฒนาไปสู่การผลิตผักในระบบเกษตรอินทรีย์ได้ในอนาคต

ดิเรก ตนพยอม

นางเสงี่ยม เพียแก่นแก้ว เกษตรกรต้นแบบของกลุ่มผู้ผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษบ้านโคกสำราญ เล่าว่า กลุ่มผู้ผลิตผักบ้านโคก
สำราญเกิดขึ้นมาจากทางจังหวัดจัดสรรพื้นที่ของโครงการชลประทานจำนวน 15 ไร่ ให้เกษตรกรเข้ามาทำกินด้วยการปลูกผัก โดยแต่ละคนจะได้รับการจัดสรรพื้นที่จำนวน 1 งาน ปลูกผักหลากหลายชนิด ซึ่งตนจะถือหลักการ “ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก” เช่น คะน้า กวางตุ้ง กะหล่ำปลี โดยก่อนหน้านั้นจะประสบปัญหาเรื่องการปลูกแล้วไม่มีตลาดรองรับ เพราะปลูกเหมือนๆ กัน และที่สำคัญคือปัญหาด้วงหมัดผักทำลายผลผลิตบ่อยครั้ง เมื่อกรมวิชาการเกษตร โดยสวพ.3 ได้เข้ามาอบรมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ไส้เดือนฝอยในการกำจัดด้วงหมัดผัก สอนวิธีการเพาะขยายเชื้อไส้เดือนฝอย ที่มีกรรมวิธีไม่ยุ่งยากซับซ้อน ลงทุนไม่แพง แต่ใช้ได้ผลดีมาก

เริ่มจากวิธีเตรียมอาหารสำหรับไส้เดือนฝอย มีส่วนผสมคือ ไข่ไก่ 4 ฟอง น้ำมันหมู 130 ซีซี น้ำ 260 ซีซี ผสมให้เข้ากัน นำไปเทลงก้อนฟองน้ำตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม คลุกเคล้าให้เข้ากัน บรรจุใส่กระป๋องหรือถุงที่เจาะรูได้ประมาณ 20 ชิ้น นำไปนึ่งฆ่าเชื้อด้วยหม้อนึ่งไฟฟ้า 1 ชม. ผึ่งให้เย็นแล้วจึงใส่หัวเชื้อไส้เดือนฝอย จากนั้นนำไปบ่มเชื้อในห้องที่มีอากาศถ่ายเท เป็นเวลา 7 วัน ก็สามารถนำไส้เดือนฝอยไปใช้เพื่อควบคุมกำจัดแมลงศัตรูพืชได้ โดยหัวเชื้อที่ทำนี้สามารถใช้ได้กับพื้นที่ประมาณ 1 ไร่

จากการทดลองทำในแปลง โดยแบ่งเป็นแปลงที่กำจัดศัตรูพืชด้วยวิธีการของเกษตรกรเอง กับแปลงที่ใช้ไส้เดือนฝอยของกรมวิชาการเกษตร พิสูจน์ได้แล้วว่าไส้เดือนฝอยสามารถควบคุมกำจัดศัตรูพืชโดยเฉพาะด้วงหมัดผักได้เป็นอย่างดี อย่างกรณีที่ด้วงหมัดผักระบาด แหล่งปลูกผักอื่นจะไม่ได้ผลผลิตคะน้าเลย แต่ที่กลุ่มแห่งนี้ยังมีผลผลิตออกจำหน่ายได้ตามปกติ ซึ่งแปลงของตนจะเป็นแปลงสังเกตการณ์คือจะติดตามว่าขณะนี้สถานการณ์แมลงระบาดมากหรือน้อย ถ้าพบการระบาดของแมลงจำนวนมากจะขึ้นธงสีแดงเตือนให้เกษตรกรในกลุ่มเตรียมรับมือในการใช้ไส้เดือนฝอยกำจัด โดยจะฉีดพ่น 3 วัน/ครั้ง ครั้งหนึ่งใช้หัวเชื้อประมาณ 2 กระปุก/1 งาน แต่ถ้าพบแมลงระบาดไม่มากนักจะขึ้นธงสีเหลืองลดการฉีดพ่นเหลือ 7 วัน/ครั้ง และถ้าไม่พบแมลงในแปลงเลยจะขึ้นธงเขียวเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งจะทำให้ทุกแปลงในพื้นที่ช่วยกันดูแลรักษาแปลงไม่ให้มีแมลงระบาดทำลายผลผลิตของกลุ่ม

“การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ แม้ว่าปัจจุบันราคาขายสินค้าจะไม่แตกต่างจากผักทั่วไปมากนัก แต่ส่วนตัวก็คิดว่าเราทำเพื่อตัวเอง กินเองก็ปลอดภัย แถมผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าเราไปก็มีสุขภาพที่ดี เพราะทุกวันนี้คนรักสุขภาพกันมากขึ้น มีคนเข้ามาซื้อผักจากแปลงไม่ต้องไปขายให้ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน รายได้ก็ดีขึ้น และยิ่งถ้าเราขยันก็ยิ่งมีรายได้ดี เพราะปลูกผักสามารถเก็บขายได้ทุกวัน ขอเชิญชวนถ้าอยากบริโภคผักปลอดภัยก็มาที่บ้านโคกสำราญได้” นางเสงี่ยม กล่าวทิ้งท้าย

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top