พิพิธภัณฑ์เมืองพังงา ตั้งอยู่ในอาคารศาลากลางจังหวัดพังงา (หลังเก่า) ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา อาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2473 (ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7) เพื่อใช้เป็นศาลากลางจังหวัดพังงา เนื่องจากอาคารหลังดังกล่าวมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเมืองพังงา จึงได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรให้เป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อ พ.ศ.2530 และต่อมาจังหวัดพังงาก็ได้ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมืองพังงา โดยเปิดให้เข้าชมในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น.
อาคารพิพิธภัณฑ์เมืองพังงา เป็นสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม หรือโคโลเนียล ซึ่งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากยุโรป ตัวอาคารมีลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่ชั้นเดียว ทาด้วยสีเหลือง และประดับตราครุฑไว้หน้าอาคาร ภายในอาคารแห่งนี้ถูกแบ่งเป็นห้องต่างๆ เพื่อจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองพังงา ซึ่งมีทั้งหมด 6 ห้อง ดังนี้
ห้องจัดแสดงที่ 1 รู้เรื่องเมืองพังงา : ห้องแรกนี้ จะให้ความรู้พื้นฐานทางภูมิศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดพังงา
ห้องจัดแสดงที่ 2 พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ : ห้องนี้ให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีและพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของผู้คนในเมืองพังงา โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนจัดแสดงที่ 1 พังงายุคก่อนประวัติศาสตร์นำเสนอเรื่องราวการค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ ส่วนจัดแสดงที่ 2 พังงายุคประวัติศาสตร์ นำเสนอเรื่องราวความเป็นเมืองท่านานาชาติอายุนับพันปี
ห้องจัดแสดงที่ 3 การเมืองการปกครองและการค้า : แสดงพัฒนาการทางด้านการเมืองการปกครองและการค้าในอดีต โดยแบ่งการจัดแสดงเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนจัดแสดงที่ 1 การเมืองการปกครอง ส่วนจัดแสดงที่ 2 การค้า นำเสนอเรื่องราวความเป็นตลาดการค้านานาชาติที่เจริญรุ่งเรืองในอดีตของจังหวัดพังงา
ห้องจัดแสดงที่ 4 คนพังงา : ห้องนี้จัดแสดงเรื่องราวของผู้คนในจังหวัดพังงา ซึ่งประกอบด้วยคนกลุ่มหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ ชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม ชาวไทยเชื้อสายจีน (บาบ๋า-ย่าหยา) และชาวเล
ห้องจัดแสดงที่ 5 มรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
ห้องจัดแสดงที่ 6 เอกลักษณ์สถาปัตยกรรม : ห้องนี้นำเสนอเกี่ยวกับมรดกทางสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และทรงคุณค่าของจังหวัดพังงา
พิพิธภัณฑ์เมืองพังงา เป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมคู่เมืองพังงาที่เต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับจังหวัดพังงาอย่างครอบคลุมรอบด้านทั้งด้านสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครอง ศาสนา ความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นมรดกท้องถิ่นที่ควรแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสถึงร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของเมืองแห่งนี้ และแสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงอารยธรรมที่งดงามของแผ่นดินไทย
พรชัย แซ่เอี๋ยว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี