พายุฤดูร้อนถล่ม
ทั่วปท.บ้านพังนับพันหลัง
บึงกาฬอัมพาตทั้งเมือง
อุบลฯเซ่นวาตภัย1ศพ
ยอดฉัตรวัดศรีชุมสะบั้น
อุตุเตือนซ้ำ36จว.ระวัง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนเรื่องพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่11 ระบุช่วงวันที่ 29-30 เมษายน ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น พายุฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ พิษณุโลก พิจิตร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร ร้อยเอ็ด ยโสธร ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สุรินทร์ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรีและจ.ตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่เกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง
5อ.ศรีสะเกษบ้านพัง446หลัง
ส่วนสถานการณ์หลายจังหวัดทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเกิดพายุฤดูร้อนสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนชาวบ้านและทรัพย์สินราชการเป็นวงกว้างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 29 เมษายน ที่บ้านหนองยวน หมู่ 8 ต.วังหิน อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายฐิติวัตน์ บุญคง ประธานสภาเทศบาลตำบลวังหิน ร่วมกันออกสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุพายุฝนกระหน่ำในต.วังหินตั้งแต่เย็นวันที่ 28 เมษายน รวม 5 หมู่บ้านคือหมู่ 5, 6, 7, 8 และหมู่ 11 บ้านเรือน ยุ้งข้าว คอกวัวของประชาชนเสียหาย รวม 102 หลัง วัด 1 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง ส่วนใหญ่หลังคาบ้าน ฝาบ้านถูกลมพัดปลิวหาย หลังสำรวจได้รายงานจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
นายบุญจันทร์ ลุมาศ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 บ้านหนองยวน หมู่ 8 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ลมพัดมาแรงมากตนต้องกอดเสาบ้านไว้ ถ้ายืนอยู่ในที่โล่งแจ้งจะต้องถูกลมพายุพัดปลิวไปตามลมอย่างแน่นอน หลังคาบ้านฝาบ้านปลิวหายไปตามลม ไปตกกระแทกบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างออกไปกว่า 100 เมตร ตัวบ้านเหลือแต่เสาและโครงหลังคา
มีรายงานว่าจากเหตุพายุฤดูร้อนครั้งนี้ มีผลกระทบใน 5 อำเภอ 9 ตำบล 29 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายที่สำรวจได้เบื้องต้น 446 หลัง ประชาชนเดือดร้อน 1,315 คน กาชาดจังหวัดศรีสะเกษนำถุงยังชีพไปมอบให้ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแล้ว
สุรินทร์3อ.พังหลายร้อยหลัง
ที่จ.สุรินทร์ ช่วงเย็นวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาเกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในอ.สังขะ อ.บัวเชด และ อ.ศรีณรงค์ ทำให้บ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลังใน 3 อำเภอดังกล่าวเสียหายหลังคาบ้าน หลังคายุ้งฉาง โรงเรือนร้านค้าต่างๆปลิวว่อน ต้นไม้หักโค่นล้มระเนระนาด รวมถึงเสาไฟฟ้าล้มหลายแห่ง ทำให้ไฟฟ้าดับหลายพื้นที่ ชาวบ้านไร้ที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอ.ศรีณรงค์ ต้นไม้หักโค่นเต็มสองข้างทาง และหักล้มทับเสาไฟฟ้ ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งคืน บ้านพัง 20 หลังคาเรือน ที่สาหัสที่สุดคือที่บ้านกุง และบ้านจารย์ ต.หนองแวง อ.ศรีณรงค์ ชาวบ้านหนีตายอลม่าน ฝ่าสายฝนและพายุ ปาฏิหารย์รอดตายหวุดหวิด ขณะที่บ้านสองชั้น สองหลังพังยับไม่มีชิ้นดี
นายเดชสกล อาดัม นายอำเภอศรีณรงค์ พร้อมนายปภพ ขอไชย ปลัดอาวุโสอำเภอศรีณรงค์ และกำนันตำบลหนองแวง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเร่งประสานความช่วยเหลือ
แล้งกระทบช้างไม่มีน้ำกิน
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ช้างที่หมู่บ้านช้างใหญ่ที่สุดในโลก ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จำนวน 250 เชือก ซึ่งเป็นช้างในความดูแลของโครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด และโครงการคชอาณาจักร ขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมป์ ก็ขาดแคลนน้ำดื่มกินเช่นกัน ประกอบกับอากาศช่วงกลางวันที่ร้อนจัด ทำให้บรรดาควาญช้าง ต้องพาช้างออกมาหลบแดดตามร่มไม้ใหญ่ และอยู่ใกล้แหล่งน้ำบาดาล และประปาในรั้วโรงเรียน ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำเริ่มไหลน้อยและไม่เพียงพอ ควาญช้างต้องบรรทุกน้ำ เพื่อให้ช้างดื่มกินและคลายร้อน
ขณะเดียวกันแหล่งน้ำลดลงเหลือน้อยลงทุกขณะ โดยเฉพาะที่วังทะลุ ถือว่าหนักสุดรอบ 30 ปี และถ้าช่วงนี้ไม่มีฝนตกลงมาอาจทำให้บรรยากาศขาดแคลนน้ำในที่แห่งนี้แย่ลงไปอีก
นายชัย อินทร์สำราญ อายุ 64 ปี ควาญช้างกล่าวว่า ทุกวันนี้หาน้ำให้ช้างยากลำบากมาก อีกทั้งยังเรื่องหญ้าอาหารช้างก็หาไม่ค่อยได้ ปลูกก็ไม่มีน้ำรด ปีนี้นับว่าแล้งที่สุดกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมายิ่งทำให้ช้างหงุดหงิดง่าย ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือ
บึงกาฬสาหัสอัมพาตทั้งเมือง
เช่นเดียวกับ จ.บึงกาฬเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักตลอดคืน ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นกว่า 30 ต้นส่งผลให้ไฟฟ้าดับ น้ำประปาไม่ไหล กลายเป็นอัมพาตทั้งเมือง ห้างร้าน ธนาคาร เซเว่นอีเลเว่น ปั๊มน้ำมันต้องปิดให้บริการ ป้ายโฆษณาล้มละเนละนาดฉีกขาดเสียหาย ต้นไม้ขนาดใหญ่ในโรงพยาบาลบึงกาฬ ถูกแรงลมพัดล้มขวางถนน ส่งผลต่อการรับส่งผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ในอ.ปากคาด เซกา พรเจริญ โซ่พิสัย บ้านเรือนอาคารสถานที่ราชการได้รับความเสียหายจากพายุครั้งนี้
วารินชำราบพัง110หลังดับ1
ที่จ.อุบลราชธานี พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา สร้างความเสียหายหลายพื้นที่เช่นกัน อย่างที่อ.วารินชำราบ พายุพัดหลังคาบ้านเรือนชาวบ้านริมทางหลวง หมายเลข 226 วารินชำราบ-กันทรารมย์เสียหาย 110 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีบ้านพังเสียหายทั้งหลังประมาณ 10 หลัง เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 7 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างนานกว่า 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ พายุยังทำความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชนในอ.น้ำยืน อ.ทุ่งศรีอุดม และ อ.สว่างวีระวงศ์อีก 50 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังทำให้เถียงนาที่ยกพื้นสูงพังลงมาทับนายจวน สมเป็นชาย อายุ 60 ปี ชาวบ้านหนองแก หมู่ 3 ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งมานอนเฝ้านา เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ความเดือดร้อนต่อไป
อำนาจเจริญบ้านพัง116หลัง
นายธนทร ศรีนาถ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวันที่ 28 เมษายน เกิดพายุฤดูร้อนฝนฟ้าคะนองอย่างหนักในพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนราษฎรรวมถึงยุ้งข้าว คอกปศุสัตว์เสียหาย 2 อำเภอคือ อ.เมืองอำนาจเจริญ ต.ดอนเมย บ้านเรือนราษฎรและคอกสัตว์ถูกพายุพัดเสียหาย 60 หลัง และที่อ.หัวตะพาน ต.คำพระ บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 56 หลังคาเรือน รวมทั้ง 2 อำเภอจำนวน 116 หลังคาเรือน ซึ่งนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ยอดฉัตรวัดศรีชุมลำปางหัก
ที่จ.ลำปาง หน่วยงานราชการเร่งสำรวจผลกระทบจากลูกเห็บ-พายุฤดูร้อน ที่พัดถล่มหลายพื้นที่ช่วงเย็นวันที่ 28 เมษายนอย่างหนักในอ.เมืองลำปาง ทำให้บ้านเรือนราษฎรพังเสียหายหลายหลังคาเรือน ต้นไม้หักโค่นล้มขวางถนน ป้ายโฆษณาพังทับสายไฟจนเสาไฟฟ้าล้ม ทำให้ไฟฟ้าดับเกือบทั่วทั้งเมืองนานหลายชั่วโมง เบื้องต้นพบ 6 อำเภอได้รับผลกระทบคือ อ.เมือง อ.ห้างฉัตร อ.แม่ทะ อ.เกาะคา อ.เถิน และ อ.แม่เมาะ ขณะเดียวกัน มีการประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาลงชื่อ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ ที่วัดศรีชุม ต.สวนดอก อ.เมือง วัดศิลปะพม่าที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ยอดแหลมแกะสลักของวิหารปราสาทหอสวดมนต์ ถูกแรงลมพัดหักตกลงมา โดยพระครูสุตชยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดศรีชุม ได้รายงานกรมศิลปากรที่ 7 น่าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น และซ่อมแซมให้กลับมาเป็นปกติ เพราะวันนี้เป็นวัดเก่าแก่ อายุประมาณ 126 ปี
ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อปี 2524
พิจิตร9อ.เสียหาย103หลัง
ที่จ.พิจิตร พายุฤดูร้อนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 เมษายน สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนราษฎรใน 9 อำเภอ ได้แก่ อ.โพธิ์ประทับช้าง โพทะเล ดงเจริญ บึงนาราง สามง่าม ตะพานหิน บางมูลนาก ทับคล้อ และอ.เมือง บ้านเรือนเสียหาย 103 หลังคาเรือน วัด 2 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง โดยบ้านเรือนที่เสียหายมากที่สุดได้แก่ อ.โพธิ์ประทับช้าง 43 หลังคาเรือน ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ความรุนแรงของลมพายุยังพัดโกดังขนาดใหญ่พังทั้งหลัง หลังคาคาบางส่วนพัดข้ามถนน และยังมีรถยนต์เสียหายจากการถูกโครงหลังคาทับ สังกะสีมุงหลังคาปลิวไปค้างอยู่บนต้นไม้ที่ห่างไปเกือบ 100 เมตร
ลูกเห็บกระหน่ำดอยอินทนนท์
ส่วนที่จ.เชียงใหม่ นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า เกิดฝนตกหนักพร้อมทั้งมีลูกเห็บตกบนดอยอินทนนท์ กระจายเต็มหน้าที่ทำการอุทยานฯขาวโพลนเป็นบริเวณกว้าง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดจากพายุฤดูร้อน
ร้อนจัดฟิวส์ขาดทำเนียบไฟดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบฯว่า เวลา 13.20 น.ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องผู้สื่อข่าว (รักนกกระจอก1-3 ) ปรากฎว่า ไฟฟ้าภายในห้องทั้ง3ได้ดับลง จึงแจ้งไปยังสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไข ต่อมาเวลา 13.40น.ได้มีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวงเข้ามาตรวจสอบภายในทำเนียบรัฐบาล โดยพบสาเหตุว่าฟิวส์ขาด
เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงมีการใช้ไฟฟ้ามากเกินไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แก้ไขเปลี่ยนฟิวส์ที่มีปัญหา จากนั้นเวลา 14.00 น. ไฟฟ้าก็กลับมาใช้ได้ตามปกติ
สธ.สั่งรพ.32จว.พร้อมรับมือ
ขณะที่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะโฆษก สธ.เปิดเผยว่า หลังกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนหลายจังหวัดให้ระวังพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก สธ.จึงสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โรงพยาบาล และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมแผนรับมือ 3 ด้านคือ เตรียมป้องกันอาคาร สถานที่ อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ สำรวจความแข็งแรงของตัวอาคาร ไฟส่องสว่าง รื้อถอนป้าย สิ่งก่อสร้างที่เป็นอันตราย ตรวจท่อระบายน้ำไม่ให้อุดตัน พร้อมเตรียมสถานที่ปลอดภัยสำหรับขนย้ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ เตรียมสำรองยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็น และเตรียมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉินไม่สามารถให้บริการได้ สำหรับประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือด้านการแพทย์ได้ที่หมายเลข 1669
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี