ญาติแห่ให้ข้อมูล
พร้อมเก็บดีเอ็นเอ
เทียบเหยื่อนั่งยาง
ตร.เผยคดีคืบ30%
ความคืบหน้ากรณีพบจุดเผานั่งยาง 23 จุด ที่บริเวณป่าภูเขาขาด ต.หนองแวงอ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 29 เมษายน นางนิตยา หล้าบาง อายุ 38 ปี, นางยุภาพร จำปาศิริ อายุ 34 ปี และนายไกรศร จำปาศิริ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นลูกๆ ของนายหรั่ง จำปาศิริ และนางเต็มตา จำปาศิริ อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 7 บ้านเพิ่ม ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานีและเป็นพ่อค้าขายอาหารส่งตามร้านขายของชำ ได้เดินทางมาที่จุดเผานั่งยาง โดยยังมีความหวังที่จะพบหลักฐานที่คาดว่าเป็นพ่อและแม่ซึ่งหายไปเมื่อ 17 ปีที่แล้วหรือเมื่อปี 2542
นางยุภาพร ระบุว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ หวังที่จะได้เจอชิ้นส่วนกระดูกของพ่อและแม่ด้วยเนื่องจากที่ผ่านมา ได้ตามหาทุกทิศก็ไม่เจอเคย ไปพึ่งไสยศาสตร์ หมอดูบอกว่าพ่อและแม่ถูกเผาทิ้งที่ภูเขาขาด แต่ไม่คิดว่าจะเป็นที่ตรงนี้ เพราะชื่อภูเขาขาดมีอีกที่ ที่ อ.น้ำโสม ซึ่งเคยไปหาแต่ที่ภูเขาขาด อ.น้ำโสม แต่ไม่เจอ ช่วง 17 ปีหลังจากพ่อและแม่หายไป เป็นช่วงที่ลูกๆ ทรมานมาก กระทั่งมีข่าวทางสื่อทีวีและหนังสือพิมพ์จึงได้เดินทางดูจุดที่เผานั่งยางที่บริเวณนี้
“จุดที่น่าสังเกตคือจุดเผานั่งยางที่ 7 และ 8 น่าเชื่อว่าจะเป็นพ่อและแม่ เพราะตำรวจพบหลักฐานชิ้นส่วนโทรศัพท์ หัวเข็มขัด ซึ่งน่าจะตรงกับพ่อและแม่ที่ใช้โทรศัพท์รุ่นเก่า และพ่อชอบใส่เข็มขัดเพราะเป็นคนรูปร่างท้วม แม้จะนานกว่า 17 ปีก็ยังมีหวัง ตอนนี้รอตำรวจเรียกไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งอีก 2 สัปดาห์อาจจะเข้าไปตรวจที่กรุงเทพฯ” นางยุภาพร กล่าว
นางยุภาพร กล่าวว่า สำหรับการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์ที่พบในภูเขาแห่งนี้ ใจจริงอยากให้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เข้ามาตรวจสอบด้วย เพราะการทำงานไม่อยากมองว่าตำรวจทำงานล่าช้า แต่หากหลายๆ หน่วยงานช่วยกันคดีก็น่าจะเร็วขึ้น
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารกลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.อุดรธานี ว่า มีญาติผู้สูญหาย จำนวน 8 ราย เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ และแจ้งความจำนงขอตรวจดีเอ็นเอเพื่อเทียบกับเศษกระดูกถูกเผานั่งยางในบริเวณดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ภ.จ.อุดรธานี นำพนักงานสอบสวน 9 นาย สอบปากคำญาติผู้สูญหาย ก่อนให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) จ.อุดรธานี เก็บดีเอ็นเอจากเนื้อเยื่อกระพุ้งแก้ม ผม และเล็บ เพื่อนำไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับเศษกระดูกที่เก็บได้จำนวน 8 จุด
โดยหนึ่งในผู้ที่เดินทางมาในวันนี้ คือ นายสุริชัย ชมพูวิเศษ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 หมู่ 5 ต.กุดผึ้ง อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู น้องชายของ นางกุหลาบ อินทร์ศรี อยู่บ้านเลขที่ 464/277 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ แม่ของแอร์โฮสเตสที่ถูกทำร้ายและอุ้มหายจากบ้านพักตำรวจ สภ.บ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 ต่อมาวันที่ 8 มกราคม 2553 ตำรวจได้จับกุม นางเยาวลักษณ์ โฆษิต อายุ 48 ปี ภรรยาตำรวจเจ้าของบ้านพัก โดยรับสารภาพว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายมาติดพันสามี จึงว่าจ้างตำรวจเป็นเงินจำนวน 60,000 บาท ให้อุ้มไปฆ่าทิ้ง จากนั้นได้มีการแจ้งข้อหาตำรวจ 2 นาย แต่คดีนี้ศาลยกฟ้อง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ และไม่พบศพนางกุหลาบ อย่างไรก็ตาม ทางญาติมีความหวังว่าศพของนางกุหลาบอาจจะถูกนำมาเผาที่นี่ จึงมาขอตรวจดีเอ็นเอด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ ได้มีญาติๆ ของผู้สูญหาย เดินทางเข้าแจ้งข้อมูลคนหายและขอตรวจดีเอ็นเอแล้วเป็นจำนวน 25 ราย
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีญาติผู้ที่คาดว่าจะสูญหายจากเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามาร้องเรียนเพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่าโครงกระดูกที่พบในป่าใช่ญาติที่หายไปหรือไม่เป็นจำนวน 19 ราย และในขณะนี้ได้ประสานกับสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ในการนัดเก็บดีเอ็นเอเพื่อนำมาตรวจสอบ พร้อมสอบปากคำเบื้องต้นเป็นข้อมูลเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ซากกระดูกที่พบนั้นปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน การตรวจสอบจึงต้องละเอียดรอบคอบ คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า แนวทางการสอบสวนนั้น ขณะนี้คืบหน้าแล้วกว่า 30% ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ เสียก่อน ทั้งนี้ เกี่ยวกับคดีดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้มีการตรวจพิสูจน์เชิงลึก เพื่อว่าผู้ใดที่อยู่เบื้องหลังเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องรออีกระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำให้ทำคดี เก็บหลักฐานให้ครบถ้วน ละเอียดรอบคอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี