เงียบกันมา และถูกติงปัญหากันมานานเรื่องการทำงานเชิงรุกของ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ที่มีนายสรรเสริญ อัจจุตมานัส นักกฎหมายมือหนึ่งของกระทรวงเกษตรฯ ที่นั่งทับตำแหน่งเก้าอี้ เลขาฯ ส.ป.ก. มาหลายเดือน หลังจากรับตำแหน่งที่มีการจับตามองว่า จะมีการขับเคลื่อนอย่างไรในการแก้ปัญหา ในฐานะลูกหม้อ ส.ป.ก.สายตรง ก่อนทิ้งทวนอีกไม่กี่เดือน เนื่องจากต้องอำลาจาก ตำแหน่งเพราะเข้าสู่วาระต้องปลดเกษียณตามกาลเวลา
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “สรรเสริญ” ก็ทำงานที่สังคมต้องอึ่งกันอีกครั้งเมื่อ จู่ๆ ก็ได้ชวนเพื่อนพ้องน้องพี่สื่อมวลชนประจำกระทรวงเกษตรฯลงลุยพื้นที่วังน้ำเขียว อำเภอที่มีปัญหาว่ามีการเปลี่ยนมือถือครองที่ดินที่ผิดแปลกแหวกแนว ตามคอนเซ็ปต์
คำว่า เกษตรกร ตามคุณสมบัติของเกษตรกรไปเยอะบอกตรงว่าคือ มีการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งการเปลี่ยนมือถือครองกว่าร้อยละ 35 ของจากพื้นที่ที่เคยแจกให้เกษตรกรทำการเกษตร วันนี้แทบไม่มีให้เห็น เพราะบางส่วนเป็นพื้นที่ที่แอบขายให้นายทุน บางส่วนเปลี่ยนจากการเกษตรจากตามเจตนารมณ์ของ ส.ป.ก. มาเป็นกิจกรรมเกี่ยวเนื่องอย่างเกษตรท่องเที่ยว ที่สังคมวังน้ำเขียว เปลี่ยนแปลงไปบางส่วน เปลี่ยนมือเพราะราคาจูงใจจากคนมีเงินถุงเงินถัง ที่ต้องการหาที่พักผ่อนตากอากาศ จึงจูงใจให้ขาย แม้จะรู้ว่าผิดกฎหมาย ต่อมามีนักเก็งกำไร เข้าตระเวนซื้อ เพื่อขายต่อหากำไรเข้ากระเป๋า
วันนี้ได้เห็น “สรรเสริญ” ขยับลุยวางแนวแก้ปัญหาทิ้งลายให้น้องสายงานส.ป.ก.ต้องเดินตามได้บ้าง ด้วยการเปิดเวทีถามใจคนในวังน้ำเขียวหวังสางปัญหา ส.ป.ก.ทั้งประเทศ เพราะหลายคนถามกันดังๆว่าวันนี้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมหรือยังว่า สังคมไทยเจริญไปมากว่าคำว่า ประเทศแห่งกสิกรรม ซึ่งต้องมองไป และยอมรับการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางการพัฒนาประเทศจริงจังกันเสียที เพราะเจตนาเดิมคือ หาที่เพื่อให้เกษตรกรได้ทำการเกษตรแต่งบางพื้นที่ต้องเปลี่ยน เพื่อพัฒนาสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ก่อนนำเสนอต่อรัฐมนตรี เกษตรฯ และเสนอผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แนวว่า จะเอาอย่างไร
โดยจากการถกเถียงกันหลายชั่วโมงบอกตรงก็ได้แค่ข้อสรุปเบื้องต้นว่า จะใช้ ม. 44 เข้ามาสะสางปัญหาในพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ทั้งแก้กฎหมายเปิดทางให้ทำกิจการเกี่ยวเนื่องกับการทำการเกษตร ในพื้นที่ส.ป.ก. ได้ ไม่ใช่ทำการเกษตรอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา
แต่ยังคงห้ามซื้อขายเช่นเดิม ส่วนนายทุนที่ฮุบที่อย่าหวัง เพราะมีแนวโน้มเตรียมเสนอให้ใช้ ม.44 หวดไม่เลี้ยง
ที่ฮุบที่ ส.ป.ก. ที่ไม่ยอมคาย กว่า 500 แปลง จำนวนเกือบ 5 แสนไร่
ปัญหาทั้งหมดต้องแก้ที่เจตนารมณ์ของกฎหมายว่าควรจะให้เดินทางไปในทางไหน เพราะเดิมไทยพุ่งเป้าให้เราคือประเทศกสิกรรม ซึ่งรัฐต้องวางแนวทางให้คนมีที่ดินเพื่อทำการเกษตร กฎหมาย ส.ป.ก. จึงกำหนดทิศทางไปที่เป้าหมายจัดหาที่ทำกินเพื่อไว้ทำกินด้านการเกษตร ซึ่งวันนี้เมื่อความเจริญมาแทนที่ จากนี้ไป เราจะยอมรับความเป็นจริง จึงควรเปิดทางให้แก้กฎหมาย เปิดทางให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ ตามความเหมาะสม ส่วนอีกทางคือใช้ ม. 44 หวดพวกแอบขายแผ่นดินให้กับนายทุนรวมทั้งนายทุนที่รับซื้อที่ดินจากชาวบ้านทั้งที่รู้ว่า ผิดกฎหมาย
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี