จากนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต โดยการบริหารจัดการที่ดี เพิ่มโอกาสในการแข่งขันและมีตลาดรองรับ ซึ่งจะสามารถสร้างความเข้มแข็ง รวมถึงสร้างความยั่งยืนในอาชีพให้กับเกษตรกรไทยได้ในที่สุด
นายวิชาญ เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า กรมการข้าวได้ดำเนินการส่งเสริมการผลิตข้าวในรูปแบบนาแปลงใหญ่ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมุ่งเน้นการรวมกลุ่มของชาวนาเพื่อร่วมกันพัฒนากรรมวิธีการปลูกข้าวแบบประณีต(Intensive Farming) ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในเชิงธุรกิจครบวงจร บริหารจัดการโดยคณะกรรมการกลุ่ม มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและสมาชิก ส่วนทางกรมการข้าวให้การสนับสนุนทางวิชาการ ทั้งการจัดประชุมชี้แจงวิธีการดำเนินงาน จัดทำแปลงเรียนรู้ สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว วัสดุผลิตปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยหมัก สารชีวินทรีย์ เครื่องจักรกลในการปลูกข้าว รวมถึงมีการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้ชาวนาในแต่ละพื้นที่ สามารถนำองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับลักษณะสภาพพื้นที่ของตนเองไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
กรมการข้าวได้ดำเนินการส่งเสริมการทำนาในรูปของแปลงใหญ่มาในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรให้การตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับในปี 2559 กรมการข้าวได้รับงบประมาณสนับสนุนให้ดำเนินโครงการนาแปลงใหญ่จำนวน 300 แปลง กระจายอยู่ในทุกจังหวัดครอบคลุมทั้งประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้คัดเลือกพื้นที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างให้ Single Command ของแต่ละจังหวัด ได้ลงไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่ให้รับทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ และได้เข้าร่วมกิจกรรมตามเป้าหมายที่กำหนด
สำหรับวัตถุประสงค์ของการส่งเสริมนาแปลงใหญ่ คือ เน้นการรวมตัวของเกษตรกรเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อพัฒนาการผลิตข้าวให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น คุณภาพที่ดีขึ้น และที่สำคัญสุดคือ การลดต้นทุนการผลิตของชาวนาให้ได้ เพื่อความอยู่รอดในการทำนาเนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวที่เกษตรกรขายได้นั้นราคาไม่สูงเท่าที่ควร ถ้าลงทุนมากกำไรจากการทำนาก็จะน้อยลงไป เกิดความไม่มั่นคงในอาชีพ กรมการข้าวตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เข้าไปส่งเสริมให้เกิดการลดต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
นาแปลงใหญ่ ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ถือเป็นต้นแบบหนึ่งที่กรมการข้าวได้เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รวมตัวกันเป็นนาแปลงใหญ่บนพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ สามารถลดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้ชาวนาในพื้นที่อำเภอเดิมบางนางบวช มีรายได้ที่ดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ชาวนาในพื้นที่ยังได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตจากเดิมที่เคยพึ่งพาแต่ปุ๋ยเคมีและสารเคมีอย่างเต็มที่เปลี่ยนมาเป็นทำปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี และใช้สารชีวภัณฑ์ในการขับไล่แมลงทดแทนการใช้สารเคมี ช่วยสร้างระบบนิเวศที่ดีให้เกิดขึ้นในแปลงนา อีกทั้งยังสร้างความปลอดภัยให้ทั้งต่อตัวเกษตรกรและผู้บริโภคมากขึ้นด้วย
ด้าน นายถาวร คำแผง ประธานกลุ่มนาแปลงใหญ่ตำบลเดิมบาง เล่าว่า ชาวนาในพื้นที่ตำบลเดิมบาง มีการรวมกลุ่มกันมาตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเป็นการวมกลุ่มเพื่อลดต้นทุนการทำนา โดยอาศัยวิธีทางธรรมชาติ ใช้สารชีวภัณฑ์ในการกำจัดศัตรูพืช ซึ่งทำให้สามารถผ่านวิกฤติเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่ระบาดหนักในช่วงปี 2554 มาได้ พอมาปี 2558 จากนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ เกษตรกรจึงรวมตัวกันจำนวน 173 ราย พื้นที่กว่า 5,000 ไร่ รวมกันเป็นกลุ่ม เกษตรกรนาแปลงใหญ่ตำบลเดิมบาง เพื่อแก้ปัญหาการผลิตและการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยข้าวสุพรรณบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เมื่อรวบรวมสมาชิกได้แล้วจะแบ่งการดูแลเกษตรกรเป็นกลุ่มย่อยโดยมีคณะกรรมการแต่ละกลุ่มดูแล เพื่อให้ง่ายในการติดตามและแจ้งข้อมูลข่าวสาร
ข้อดีของการรวมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ คือได้รับการถ่ายทอดความรู้โดยเฉพาะการทำนาอย่างถูกวิธีและทำพร้อมเพรียงกัน เกิดความสามัคคี และยิ่งมีการรวมกลุ่มก็จะเกิดพลังทำให้สามารถสร้างโอกาสในการต่อรอง เช่น การจ้างรถเกี่ยว รถปักดำ ก็จะได้ราคาที่ถูกลงกว่าการจ้างเป็นรายเดี่ยว หรือแม้กระทั่งโรงสีก็สามารถสร้างอำนาจในด้านราคา ไม่ถูกกดราคาเพราะมีการวางแผนการผลิต การเก็บเกี่ยวเป็นอย่างดี ที่เห็นผลชัดเจนคือ การได้รับการสนับสนุนเครื่องโรยข้าวงอกจากกรมการข้าว สามารถลดปริมาณการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวจากเดิมที่เกษตรกรทำนาหว่านจะใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวไม่ต่ำกว่า 30 กก.ต่อไร่ แต่เครื่องโรยข้าวงอกนี้สามารถลดเมล็ดพันธุ์เหลือเพียง 8 กก.ต่อไร่ เมื่อใช้เมล็ดพันธุ์อย่างเหมาะสมผนวกกับเทคโนโลยีการผลิตข้าวอย่างถูกต้องมากขึ้น ทำให้ต้นทุนการทำนาลดลงจากปี 2557 ที่ 5,000 บาทต่อไร่ เหลือเพียง 2,900 บาทต่อไร่ ขณะที่ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นจาก 700-800 กก.ต่อไร่ เป็น 1,100 กก.ต่อไร่
ผลสำเร็จที่เกิดจากการรวมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ คือเกษตรกรมีรายได้เหลือมากขึ้น มีความมั่นคงในอาชีพมากขึ้น ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงเห็นแล้วก็ให้ความสนใจอยากเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ซึ่งในโอกาสต่อไปก็คงได้ขยายผลเพิ่มพื้นที่ดำเนินการมากขึ้น เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมากหากชาวนาท่านใดต้องการอยากเข้ามาศึกษาเรียนรู้รูปแบบการทำนาแปลงใหญ่ของตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ประธานถาวร คำแผง โทรศัพท์ 09-4427-8990
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี