3 พ.ค. 59 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) แถลงถึงความก้าวหน้าของคณะทำงานในการรับซื้อเรือประมงคืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ว่า โดยแต่เดิมได้มีการสำรวจเรือและยกเลิกเครื่องมือบางประเภท โดยเฉพาะอวนรุน ส่งผลให้พี่น้องชาวประมงบางกลุ่มได้รับผลกระทบ แต่ได้รับการช่วยเหลือไปบ้างแล้ว ซึ่งในกรณีเรือประมงจำนวน 54 ลำที่จะรับซื้อคืนมานั้น เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2558 ที่ได้ให้ความเห็นชอบต่อกรอบวงเงิน รวม 215 ล้านบาท สำหรับการรับซื้อเรือประมงคืนจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกการใช้อวนรุน โดยต้องเป็นผู้ที่มีทะเบียนเรือและใบประกอบอาชญาบัตรตามกฎหมาย คณะทำงานจัดซื้อเรือประมงคืนได้เสนอการจ่ายค่าชดเชยโดยแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ ดังนี้ 1. คณะกรรมการตรวจสอบเรือประมงตามพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานของเรือประมงที่ได้รับค่าชดเชยให้ถูกต้องตามที่ ครม. เห็นชอบพร้อมจัดทำข้อตกลง 2. คณะกรรมการจ่ายค่าชดเชยเรือประมงเพื่อทำหน้าที่พิจารณาตรวจสอบเอกสารหลักฐานของเรือประมงอีกครั้งตามที่คณะกรรมการตรวจสอบเรือประมงเสนอ
ขณะที่แนวทางการจ่ายค่าชดเชยเรือประมง แบ่งเป็น 1. จ่ายร้อยละ 30 ของราคาเรือที่ได้รับค่าชดเชย เมื่อคณะกรรมการจ่ายค่าชดเชยพิจารณาเห็นสมควรแล้ว 2. จ่ายร้อยละ 70 ของราคาเรือเมื่อคณะกรรมการนำเรือประมงไปจมเป็นปะการังเทียมเสนอเอกสารหลักฐานการจมเรือประมงภายหลังการจมเรือประมงเรียบร้อยแล้ว ต่อคณะกรรมการจ่ายค่าชดเชยเพื่อพิจารณาเห็นสมควรจ่ายค่าชดเชย
พล.ร.ท.จุมพล กล่าวด้วยว่า ในจำนวนเรือประมง 54 ลำ ดังกล่าว ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ขอนำไปใช้ในราชการ จำนวน 3 ลำ ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 51 ลำ เห็นควรนำเรือออกนอกระบบโดยการถอดถอนเครื่องยนต์และส่วนประกอบออก เพื่อจมเป็นปะการังเทียม โดยมีวงเงินของเรือจำนวน 51 ลำ เป็นเงิน 105,779,220.40 บาท ซึ่งกรมประมงจะเป็นหน่วยงานที่นำไปสู่ภาคปฏิบัติจมเป็นปะการังเทียม เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบในการทำปะการังเทียมและมีประสบการณ์ ทราบพื้นที่ซึ่งที่มีความเหมาะสม โดยพื้นที่สำหรับนำเรือไปจมทำปะการังเทียม คือ ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จ.สุราษฎร์ธานี และจ.ปัตตานี ทั้งนี้งบประมาณในการดำเนินการนำเรือประมงไปจมนั้น จะเป็นเงินงบประมาณอีกส่วนหนึ่งของกรมประมงเอง วงเงินรวม 6,148,800 บาท โดยระยะเวลาการดำเนินการจะคือช่วง พ.ค.-ก.ค. นี้ และรัฐบาลจะดำเนินโครงการในลักษณะนี้อีก รวมถึงเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับแผนการบริหารจัดการการทำประมงผิดกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี