5 พ.ค. 59 เมื่อเวลา 03.40 น. ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ว่า มีคนถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส พลเมืองดีนำตัวมารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลฯ ศูนย์วิทยุ 191 จึงประสาน ร.ต.ท.ชาญวิทย์ ดาวเรือง รอง สว.สอบสวน สภ.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ให้นำกำลังรีบไปตรวจสอบ ส่วนจุดเกิดเหตุอยู่ที่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 109-110 หมู่ 4 ต.ทุ่งทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ร.ต.ท.ชาญวิทย์ จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สรรเสริญ แสงเนตรสว่าง ผกก.สภ.หนองขาว พ.ต.ท.วรวุธ กาญจนวณิช รอง ผกก.ป.สภ.หนองขาว พ.ต.ท.สมหวัง. พานแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองขาว พ.ต.ท.ชาติชาย กาญจนภูสิต สว.(สอบสวน) รักษาการ สวป.สภ.หนองขาว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองขาว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี
ไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บย 9575 พระนครศรีอยุธยา จอดชิดริมทางเครื่องยนต์ยังติดอยู่ พร้อมเปิดไฟหน้ารถเปิดทิ้งเอาไว้ ตรวจสอบพบประตูและแคปด้านขวาถูกยิงด้วยอาวุธปืน รวม 3 รู มีลอยเลือดติดอยู่และหยดกองอยู่กับพื้นถนน ห่างจากรถยนต์กระบะประมาณ 600 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 3 ปลอก จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนขับที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ไปก่อนหน้านั้น ทราบชื่อคือนายปวี ชุ่มชื่น อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 4 ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณไหล่ขวา ช่องท้อง และหลัง รวม 3 นัด อาการสาหัส โดยมีนางจิตรตรา ใจชุ่ม อายุ 48 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บเฝ้าดูอาการด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องรอให้แพทย์ผู้รักษาอนุญาตเสียก่อนจึงจะสามารถเข้าไปสอบปากคำได้
โดยนางจิตรตรา ให้การเบื้องต้นว่า ลูกชายทำงานเป็นช่างอยู่ที่อู่ซ่อมรถบรรทุก 10 ล้อที่จังหวัดนครปฐม นานๆ ครั้งถึงจะกลับมาบ้าน ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขับรถยนต์กระบะกลับมาบ้านเพื่อมาเยี่ยมภรรยาและลูกชายวัย 5 ขวบ แต่ก็มาถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็ยก่อนที่จะถึงบ้าน หลังเกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากเพื่อนของลูกชายว่าลูกชายของตนถูกยิง และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลฯตนจึงรีบมาดูอาการของลูกชายที่โรงพยาบาลดังกล่าว
ด้านนายศิวดล นาคะ เพื่อนของ นายปวี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่กับภรรยา ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากนายปวี แจ้งว่าถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บ ตนกับภรยาจึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็พบว่านายปวียืนรออยู่ที่ข้างรถ ตนกับภรรยาจึงรีบพยุงร่างของเพื่อนขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลฯ โดยทิ้งรถยนต์กระบะเอาไว้ที่จุดเกิดเหตุ
จากการสอบวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายปวี ได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่ามาจากจังหวัดนครปฐม เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่อำเภอพนมทวน อยู่ๆ ก็มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับขี่รถยนต์เก๋งไม่ทราบยี่ห้อ สี และทะเบียนตามประกบ จากนั้น 1 ในคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่นายปวี จำนวน 3 นัด จนได้รับบาดเจ็บ แต่นายปวี ยังฝืนใจขับรถยนต์หนี แต่สุดท้ายฝืนทนเจ็บไม่ไหว จึงจอดรถที่ริมทาง คาดว่าคนร้ายคงเข้าในว่านายปวี เสียชีวิตแล้ว จึงได้เร่งเครื่องหลบหนีไปกับความมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่า ทำไมนายปวี จึงถูกคนร้ายปองทำร้าย พร้อมทั้งจะสอบประวัติของนายปวี ย้อนหลังว่าเคยมีเรื่องกับใครมาก่อนหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบว่าเคยมีประวัติพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ คาดว่าคงจะรู้สาเหตุในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะนำไปสู่การติดตามตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แต่อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่าเมื่อปี 2557 นายปวี เคยถูกจับกุมตัวในข้อหาค้ายาเสพติด มาก่อน และอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล ระหว่างนี้จึงไปทำงานที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งคดีดังกล่าวอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนร้ายลงมือก่อเหตุก็เป็นไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี