รองศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สุมิตร สุวรรณ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เปิดเผยผลวิจัยจากการศึกษา เรื่อง“การสร้างเครือข่ายความร่วมมือพหุภาคีเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กจังหวัดนครปฐม” ว่า ในช่วงปี พ.ศ.2558-2559 ที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการศึกษาวิจัย เรื่องดังกล่าวพบว่า มีโรงเรียนขนาดเล็กประสบปัญหาต่างๆ มากมายในการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ 1) ครูมีจำนวนน้อยจบไม่ตรงวิชาเอก ไม่ใช่คนในพื้นที่ มีภาระงานมาก2) ครูอัตราจ้างได้รับเงินเดือนน้อย 3) เด็กนักเรียนมีฐานะยากจน ขาดศักยภาพและความพร้อม มีพัฒนาการทางสมองช้า อ่านไม่ออก ติดเกมส์ 4) ผู้ปกครองขาดการเอาใจใส่ ไม่มีเวลา ไม่สามารถสอนการบ้านลูกได้ และมีค่านิยมส่งลูกไปโรงเรียนใหญ่ 5) ผู้บริหารมีการโยกย้ายบ่อยและต้องเดินทางไปประชุมไกลหรือบางโรงเรียนไม่มีผู้บริหาร 6) หลักสูตรมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย เรียนมากและไม่ได้นำไปใช้ในชีวิตจริง 7) ขาดสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอน 8) ขาดงบประมาณ 9) ขาดการประชุมพูดคุยกับผู้ปกครอง 10) คณะกรรมการสถานศึกษาหายากและไม่มาประชุม 11) ไม่ได้รับการดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12) องค์การบริหารส่วนตำบล ไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ เนื่องจากติดระเบียบหรือข้อกฎหมาย 13) สถานที่ขาดความสะดวกสบาย
ในขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กมีความต้องการมากที่สุดได้แก่ การที่มีครูครบทุกชั้นปีหรือมีนิสิตนักศึกษามาช่วยสอน ดังนั้นถ้ามหาวิทยาลัยและคณะวิชาต่างๆ ในแต่ละเขตพื้นที่จัดทำโครงการบริการวิชาการสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กในชุมชนอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งอาจดำเนินการในลักษณะที่ให้นิสิตนักศึกษาจิตอาสาไปช่วยสอนนักเรียน การจัดทำค่ายอาสาพัฒนา การบริจาคสิ่งของเงินทอง การเป็นพี่เลี้ยง (coaching & mentoring)ของอาจารย์ในมหาวิทยาลัยให้กับครูในโรงเรียนเป็นต้น
รองคณบดีฝ่ายวิจัยฯ กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลดังกล่าว ทางกระทรวงศึกษาธิการควรทบทวนจำนวนโรงเรียนที่มีอยู่ทั้งหมด เนื่องจากในบางพื้นที่มีจำนวนโรงเรียนมากเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนเด็ก แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองและไม่กระทบต่อการเดินทางไปส่งบุตรหลานที่โรงเรียน และรัฐบาลควรโยกย้ายหรือจัดสรรอัตรากำลังของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ครบทุกชั้นปีและตรงกับสาขาวิชาเอก ซึ่งในแต่ละโรงเรียนควรมีครูประจำการอย่างน้อย 6 คน (ตามชั้นปี)มีเจ้าหน้าที่ธุรการ 1 คน มีนักการภารโรง 1 คน และมีผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน รวมทั้งสิ้น 9 คน ทั้งนี้เพื่อสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เท่าเทียมกันระหว่างโรงเรียนในเมืองกับโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท
รองศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สุมิตร สุวรรณรองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ กล่าวด้วยว่าเพื่อเป็นการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาทางด้านการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จึงได้ร่วมมือกับคณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จัดทำ “โครงการถ่ายทอดและให้ความรู้เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนโรงเรียนขนาดเล็ก” จำนวน5 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดไร่แตงทอง โรงเรียนบ้านอ้อกระทุง โรงเรียนวัดห้วยผักชี โรงเรียนวัดหนองจิกโรงเรียนวัดทุ่งกระพังโหม ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กอยู่ในพื้นที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เปิดสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ซึ่งแต่ละโรงเรียนมีครูประจำการ 2-4 คน และมีนักเรียนประมาณ 60 กว่าคน โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2559 ที่ผ่านมาคณะอาจารย์และนิสิตนักศึกษาจิตอาสาทั้ง 2 สถาบัน ได้ไปซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายสารสนเทศให้สามารถใช้สำหรับการเรียนการสอนได้ และได้ดำเนินการจัดกิจกรรมให้กับเด็กนักเรียนเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษและพลศึกษา ซึ่งจะดำเนินโครงการนี้ต่อไปในช่วงการเปิดเทอมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน2559 ตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” และ“1 มหาวิทยาลัย 1 โรงเรียน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี