พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า หลายประเทศให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านแรงงานในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านจากแรงงานนอกระบบเข้ามาอยู่ในแรงงานในระบบโดยมุ่งสู่แรงงานที่มีคุณค่า (Decent Work) ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งแรงงานในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบจากกำลังแรงงานที่มีอยู่ทั้งหมดเป็นแรงงานในระบบประกันสังคมราว 10 ล้านคนเศษที่เหลือประมาณ 20 ล้านคนเศษ เป็นแรงงานนอกระบบ
ทั้งนี้ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ โดยเฉพาะเน้น การส่งเสริมการมีงานทำให้แรงงานนอกระบบเข้าสู่การทำงานในระบบ โดยให้ความสำคัญในการดำเนินการปรับรูปแบบการทำงานนอกระบบซึ่งมีคณะกรรมการระดับชาติ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการในการดำเนินนโยบายการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ และมีคณะอนุกรรมการโดยปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธานฯ เพื่อประสานงานด้านแผนยุทธศาสตร์ และยังมีคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายและดำเนินการ
ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการภายใต้ “หลักการ 3 โอกาส” ประกอบด้วย โอกาสในการเริ่มต้น เน้นส่งเสริมให้มีทุนในการประกอบอาชีพ อาทิ กองทุนรับงานไปทำที่บ้าน พร้อมกับการฝึกอบรมต่างๆ เพื่อจะได้มีอาชีพ อาทิ การประกอบอาหารการนวดสปา การขายของทางอินเตอร์เนตเป็นต้น และส่วนที่สองคือโอกาสในการพัฒนาได้มีการกำหนดมาตรวิชาชีพให้ได้รับการรับรองคุณวุฒิเพื่อนำไปประกอบอาชีพ และสุดท้ายคือโอกาสในการได้รับการคุ้มครองโดยการขยายความคุ้มครองไปสู่แรงงานนอกระบบ
ซึ่งแนวคิดทั้งสามโอกาสนี้เป็นแนวทางแบบองค์รวม ที่เน้นย้ำการจัดสรรแหล่งเงินทุนควบคู่การพัฒนาทักษะฝีมือและฝึกอบรม รวมทั้งการคุ้มครองทางสังคม ตลอดจนการพัฒนาด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงานให้แรงงานนอกระบบใด้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยและมีงานทำอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี