ในสภาวะปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านแรงงานระดับฝีมือเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานภายในประเทศเป็นอย่างมาก
แต่ไม่ทราบว่า ทำไม การศึกษาทางด้านอาชีวศึกษาจึงสวนทางกับโอกาสอย่างไม่น่าเชื่อ กล่าวคือ นักศึกษาในระดับ อาชีวศึกษา ตั้งแต่ ปวช. และ ปวส. จึงไม่มี นักเรียนกระตือรือร้นที่จะแย่งกันเข้าไปศึกษา เพื่อจบออกมาอย่างมี ศักดิ์มีศรี มีเกียรติมียศ มีงานทำ มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่รอรับอย่างมากมาย
นอกจากจะมีตำแหน่งอาชีพ รอรับแล้ว ในช่วงเวลาที่ร่ำเรียนอยู่ก็ยังขยาย หรือ เปิดกว้างให้การเรียนรู้ เข้าถึงแนวทางในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น ภายใต้โครงการที่ เรียกว่า “ทวิภาคี” คือ ความร่วมมือระหว่าง บริษัทอุตสาหกรรม กับ สถาบันอาชีวศึกษา ที่พร้อมจะนำนักศึกษาไปร่วมฝึกงาน สอนการปฏิบัติจากการทำงานจริง เครื่องมือจริง ที่ได้ทั้งทักษะในการทำงาน แถมยังมีเงินเดือนในการฝึกงาน และที่สำคัญหากใครมีความสามารถเข้าเป้า ยังมีการจองตัว เตรียมงานเอาไว้ให้ทำเมื่อเรียนจบออกมาแล้วด้วย
ยิ่งมองก็ยิ่ง เห็นโอกาสทองของนักเรียนอาชีวศึกษาที่มากกว่าในสมัยก่อนอย่างเห็นได้ชัด ...แต่ทำไม ไม่มีใครแย่งกันเข้าศึกษาใน สถาบันอาชีวศึกษา ทั้งๆ ที่ก็สามารถก้าวถึงขั้นปริญญาได้เช่นทุกมหาวิทยาลัย เรื่องนี้คงต้องมองให้ทะลุ ทั้งจากภาคสังคม และภาคราชการ ว่ามีจุดบอด หรือ จุดตายอยู่ตรงไหน
วันนี้เราได้พบกับ 3 นักศึกษาผู้ผ่านการเรียนในระบบทวิภาคี โดยการไปร่วมอบรมอยู่ใน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์จำกัด เปิดเผยให้ฟังว่า
นายดาว ลุงปันต๊ะ อายุ 24 ปี นักศึกษาสาขาอิเล็กทรอนิกส์ระบบภาพและเสียง ระดับชั้นปวส. ปี 2 ผู้เดินทางมาไกลจากวิทยาลัยการอาชีพจอมทอง จ.เชียงใหม่ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศและเวิร์กช็อปกับซัมซุงก่อนเริ่มฝึกงานจริงเล่าให้ฟังว่า ผมเข้าฝึกทักษะในแผนกโทรทัศน์ ผมมองเห็นอนาคตของตัวเองที่นี่ เพราะทีวี.ของซัมซุงเป็นทีวี.ที่มีชื่อเสียงและเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ด้วยคุณภาพและเทคโนโลยีล้ำสมัยผมจึงอยากจะได้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการซ่อมทีวี.ระดับมืออาชีพเพื่อเป็นความรู้ติดตัวไปในอนาคต จึงเข้าร่วมโครงการนี้เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีง่ายๆ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
นายนราทิพย์ ธุระรักษ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาสาขา อิเล็กทรอนิกส์ ระดับชั้นปวส. ปี 2 จากวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เข้าฝึกทักษะในแผนกระบบทำความเย็น กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่เด็กต่างจังหวัดจะได้เข้ามาทำงานกับซัมซุง พอได้รับโอกาสก็รีบคว้าไว้เลย ประสบการณ์ที่ได้รับน่าจะช่วยปูทางสู่ความชำนาญและความสำเร็จในวิชาชีพของผม
นายรัตนา หาญใจ อายุ 19 ปีนักศึกษาสาขาอิเล็กทรอนิกส์ ระดับชั้นปวส. ปี 1 วิทยาลัยเทคนิคพังงา จ.พังงา เข้าฝึกทักษะใน
แผนกโทรศัพท์มือถือ บอกว่า การมีอาชีพที่ดีจะช่วยให้มีอนาคตที่ดีสามารถดูแลครอบครัวได้ การได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก เพราะจะมีความรู้และทักษะติดตัวไป และที่สำคัญเรากล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า “เราทำงานที่ซัมซุงนะ”
นางสาวศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เล่าเกี่ยวกับโครงการนี้ว่า เป็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาทักษะนักศึกษาจากประสบการณ์จริงให้เป็นมืออาชีพ และยกระดับนักศึกษาอาชีวะให้เป็นบุคลากรคุณภาพของตลาดแรงงานไทยต่อไป โดยซัมซุงจะเป็นส่วนหนึ่งในการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตเหล่านี้ เพื่อเจียระไนนักศึกษาอาชีวะเหล่านี้ให้เป็นเพชรยอดมงกุฎ ที่จะกลายเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โครงการนี้จึงมุ่งวางรากฐานทางการเรียนรู้มิติใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ศึกษาทฤษฎีในห้องเรียนช่าง แต่ศึกษาด้วยประสบการณ์ทำงานจริงเพื่อส่งเสริมทักษะแรงงานมืออาชีพสายเลือดใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างเพียงพอต่อกับความต้องการของตลาดแรงงานให้ก้าวต่อไปในฐานะผู้นำเศรษฐกิจประเทศแห่งอาเซียนอย่างแข็งแกร่ง
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ขยายความให้ฟังว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และซัมซุงได้ร่วมกันก่อตั้งโครงการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยให้ความสำคัญกับโครงการนี้มาก และเล็งเห็นประโยชน์มหาศาลที่จะเกิดขึ้นกับนักศึกษาอาชีวะไทยต่อไปในอนาคต ซึ่งนักศึกษาจะได้รับการฝึกฝนทักษะ การปฏิบัติงานจริงและที่สำคัญได้รับโอกาสทางอาชีพจากซัมซุง ด้วยความร่วมมือร่วมใจเพื่อพัฒนาให้ศักยภาพของเด็กอาชีวะไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานอาชีวศึกษาของเกาหลีใต้ได้ในเร็ววัน
โดย ซัมซุงได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาอาชีวะที่กำลังศึกษาอยู่ในวิทยาลัย 7 แห่งเข้าร่วมโครงการใน 3 สาขา ได้แก่ ช่างชำนาญงานโทรทัศน์, ช่างชำนาญงานระบบทำความเย็น(เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น)และช่างชำนาญงานโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกฝนทักษะในสถานการณ์จริง ช่วยพัฒนานักศึกษาอาชีวะให้มีความชำนาญการในการประกอบวิชาชีพ โดยจะได้รับการฝึกทักษะและปฏิบัติงานจริงเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจะได้รับการพิจารณางานเป็นกรณีพิเศษเพื่อร่วมงานกับซัมซุง
ส่วน นางสาวโสภิต เจียรกุลประเสริฐ วิทยากรผู้ชำนาญการจากกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลด้านการศึกษาและการเรียนรู้ได้ส่งเสริมการเรียนในระบบอาชีวศึกษาเพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะโดยได้ดำเนินโครงการ 3 ม. ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและสถานประกอบการให้มีแรงงานตรงตามความรู้ ความสามารถที่
ต้องการแล้ว ยังช่วยให้นักเรียนนักศึกษามีงานทำ มีรายได้ ได้เรียนรู้สภาพการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ
ควบคู่ไปกับการศึกษา ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตนักเรียนนักศึกษาที่ด้อยโอกาสให้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และมีเงินใช้ในระหว่างการศึกษาด้วย สำหรับโครงการนี้ถือเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมที่นักศึกษาจะได้รับประสบการณ์ทำงานจริง ในบริษัทที่มีความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมของโลกอย่างซัมซุง ตอบโจทย์ 3 ม.คือ 1.มีงาน พร้อมสวัสดิการที่เหมาะสม 2.มีเงินค่าแรงให้ และ 3.มีวุฒิ หลังจบหลักสูตรได้รับเกียรติบัตรรับรองประสบการณ์การทำงานจากซัมซุง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการทำงานในอนาคตของนักศึกษาได้เป็นอย่างดี
โอกาสของเด็กไทย ทางด้านการศึกษาในระดับอาชีวะ เต็มไปด้วยหนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบอันสวยงาม และหอมหวนแบบนี้ ทำไม และ ทำไม จำนวนนักศึกษาที่จะเข้าศึกษาต่อในภาคอาชีวศึกษา ลดน้อยลงทุกปี๊ ทุกปี ปัญหาอยู่ที่ฝ่ายใดเอ่ย??!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี