31 พ.ค.59 ที่บ้านเลขที่ 50 บ้านตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เป็นบ้านพักส่วนตัวของนางสมดี ภูใบบัง อายุ 70 ปี ได้มีการประกอบพิธีกรรม“รำข่วง” โดยมีผู้ที่เป็น “หมอรำทรง” ซึ่งมีความเชื่อด้านจิตวิญญาณ ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุหญิงชายกว่า 20 คน ร่วมในพิธี มีการบรรเลงดนตรีพื้นบ้านอย่างแคน กลอง ฉิ่ง ดังคลอเป็นจังหวะขณะร่ายรำด้วยท่วงท่าแปลก ๆ
ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้เข้าร่วมพิธีบอกว่า ทุกคนที่เข้ามาร่วมในพิธีต่างเป็นลูกหลานผีเชื้อ ที่เดินทางมาจากต่างบ้านต่างเมือง โดยนัดหมายมาชุมนุมกันบวงสรวงเซ่นไหว้ดวงวิญญาณบูรพาจารย์และบรรพบุรุษในวันนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสร่วมชุมนุมของหมอรำทรง ก่อนที่จะพาลูกหลานลงมือทำนาตามฤดูกาล
ยายเสมอ ภูโอบ อายุ 80 ปี กล่าวว่า การรวมตัวกันของ “หมอรำทรง” ดังกล่าว เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี กำหนดในช่วงปลายเดือนเมษายน-ปลายเดือนพฤษภาคม ตามความพร้อมของหมู่คณะ เพื่อเป็นการพบปะของหมู่มวลสมาชิกที่มีความเชื่อเป็นจุดรวมเดียวกัน คือการนับถือผีเชื้อ ซึ่งเป็นดวงวิญญาณของบูรพาจารย์และบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยจะมีการประกอบกิจกรรม “รำข่วง” เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ มีการจัดเครื่องเซ่นไหว้ง่ายๆ ประกอบด้วยเหล้าขาว ไข่ต้ม มะพร้าว ดอกไม้ ธูปเทียน ตามธรรมเนียม
ยายเสมอกล่าวอีกว่า ความเป็นมาของการ “รำข่วง” ของ “หมอรำทรง” นั้น มีมาแต่โบราณ มีการสืบสานมาหลายชั่วอายุ บางพื้นที่จะเรียกแตกต่างกันออกไป ที่รู้จักกันโดยทั่วไปคือ รำผีฟ้า ซึ่งจุดประสงค์หลักของการรำทรง เพื่อร่ายรำรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยสื่อสารกับสิ่งไม่มีตัวตนที่เรียกว่าผีหรือวิญญาณ เช่น ผู้ป่วยบางรายไปรักษากับหมอไม่หาย สุดหนทางที่จะเยียวยา ก็จะเรียกหมอรำทรงมาทำการรักษา
ขั้นแรกเจ้าพิธีหรือหัวหน้าจะมีการบอกกล่าวรุกขเทวดา ขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง จากนั้นก็จะร่ายรำรอบเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อให้ผีมาประทับทรง และทำการสื่อสารกับผีเชื้อว่าคนที่เจ็บป่วยนั้น มีสาเหตุจากเภทภัยใด เกิดจากโรคภัยหรือเกิดจากการผิดผีผิดผิดสำแดงอะไร เมื่อได้มีการติดต่อกันก็จะได้ทำการแก้ไข ซึ่งหมายถึงให้ ผีที่มาประทับทรงวินิจฉัยอาการของความเจ็บป่วยนั่นเอง
นางเจดีย์ ฤทธิ์เรือง อายุ 65 ปี กล่าวว่า เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วตนไม่สบายมาก ได้รับความเจ็บปวดตามร่างกาย จากอาการหมอนทับกระดูก เทียวรักษากับสถานพยาบาลหลายแห่งไม่ดีขึ้น มีแต่ทรงกับทุรด ก่อนที่จะหันมารักษากับคณะหมอรำทรงยายเสมอ ภูโอบ อาการก็ค่อยหายดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้หายเป็นเป็นปลิดทิ้ง สามารถทำงานหนักได้สบาย จึงเชื่อว่าผีเชื้อมีจริงและสามารถร่ายรำรักษาคนได้ เพราะไม่เพียงแต่จะมีประสบการณ์ด้วยตนเองเท่านั้น ยังมีตัวอย่างให้เห็นหลายราย ซึ่งแต่ละรายเมื่อหายจากการเจ็บป่วยแล้ว ก็จะมาเป็นสมาชิกของคณะหมอรำทรงโดยปริยาย มีกิจกรรมอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เกิดความเห็นอกเห็นใจกัน รักใคร่ปรองดอง นับถือเป็นญาติพี่น้อง อย่างการมาร่วมพิธีรำข่วงนี่ก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม “พิธีกรรมรำข่วง” เป็นการชุมนุมกันของหมอรำทรง เพื่อร่วมร่ายรำบวงสรวงผีเชื้อหรือดวงวิญญาณบูรพาจารย์ ตลอดทั้งผีบรรพบุรุษ เป็นความเชื่อส่วนตัวของกลุ่มบุคคลที่มีความเชื่อในทิศทางเดียวกัน ที่ยังมีอยู่ในสังคมอีสาน และมีการสืบสานมายาวนาน เป็นอีกความเชื่อหนึ่งที่ฝังรากลึกอยู่ในหลายชุมชน ที่มีการยึดถือปฏิบัติแล้วเกิดผลดีต่อผู้ปฏิบัติ เพื่อหวังให้เกิดความสงบสุขในสังคม ไม่ถือว่าเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ ขอเพียงไม่เชื่ออย่าลบหลู่ และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย และเชื่อว่าจะยังคงมีอยู่และสืบสานต่อไป ตราบใดที่ผู้คนยังเกิดการป่วยไข้ และรักษากับหมอแผนปัจจุบันไม่หาย ก็จะหันมารักษาด้วยการรำทรงเป็นทางเลือกสุดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี