วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศครบ 2 ปีเมื่อ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ผลงาน 2 ปีอย่างกว้างขวาง แน่นอนมีทั้งด้านบวกและด้านลบ แล้วแต่มุมมองและจุดยืนของผู้วิพากษ์วิจารณ์ จึงไม่จำเป็นต้องตัดสินว่า มุมมองของใครผิด ของใครถูก
แต่สำหรับข้าราชการทุกหน่วยงานที่ต้องทำงานอยู่ภายใต้การสั่งการของรัฐบาล คสช. สิ่งที่เขาประเมินอยู่ในอก ย่อมส่งผลต่อขวัญกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เช่นเดียวกับข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่ง 2 ปีมานี้ ผ่านการเปลี่ยนรมว.เกษตรฯมาแล้วสองคน จากอดีต
“ลูกหม้อ” อย่างนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ถึงนายทหารอย่างพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ที่อยู่ในเก้าอี้นี้มากว่า 9 เดือนแล้ว
นับแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 19 ส.ค.2558
ซึ่งจากเสียงสะท้อนที่ฟังมา ปรากฏว่า จากเริ่มแรกที่คสช.เข้าคุมอำนาจ ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯส่วนใหญ่ ล้วนมีความหวังมากว่า จะเข้าสู่ยุคใหม่ที่สดใส พ้นเสียทียุคที่นักการเมือง “ระบอบหลงจู๊”เข้าครอบงำ แทรกแซง ล้วงลึก หาผลประโยชน์ไปทุกองคาพยพ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม เต็มไปด้วยเส้นสาย การวิ่งเต้น จนถึงข้อครหาซื้อขายเก้าอี้ ทำให้การบริหารงานหลายกรมกองบิดเบี้ยว ได้คนไร้ฝีมือมาเป็นผู้นำ ก่อปัญหาหมักหมมเรื่อยมา โดยคนดีมีความสามารถหมดโอกาส ไร้หนทาง ต้องซังกะตาย จนไม่อยากอยู่ต่อไป
แต่ผ่านมา 2 ปีของคสช. “ความหวัง”กลับดูมืดมนอีกครั้ง ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯต้องผิดหวัง ส่งผลให้ขวัญกำลังใจเหือดแห้งลงไปทุกที ด้วย“ความอุบาทว์”ที่หมักหมมมาตั้งแต่ยุคก่อนๆ ไม่ได้ถูกกำจัดปัดเป่าให้หมดสิ้นไป ยังคงอยู่เป็นปกติ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม
อาจไม่มี “ใบเสร็จ” ที่จะหามายืนยันได้ว่า มีการวิ่งเต้น ซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ ขณะที่ตัวรัฐมนตรีอย่างพล.อ.ฉัตรชัย
ก็อาจไม่รู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ที่แวดวงข้าราชการรู้เห็นและเมาท์กันตลอด อาทิการที่บางตำแหน่ง เช่น “รองอธิบดี”ที่ช่วงชิงกันมากๆ มีบางคนซึ่งข้าราชการด้วยกันรู้ดีว่าความเหมาะสมน้อยมาก แต่เจ้าตัวกลับอวดโอ้ มั่นอกมั่นใจว่า“เส้นถึง”รู้ตัวล่วงหน้าว่า ได้ตำแหน่งนี้แน่ๆ...แล้วผลออกมา ก็ได้จริงๆ...เขารู้ล่วงหน้าได้อย่างไร
นอกจากนั้นก็มีกรณีอดีตอธิบดีเก่าๆที่เกษียณไปพร้อม“ความฉาวโฉ่”เป็นที่รู้กันดี กลับยังคงวนเวียนอยู่รอบข้าง“ผู้มีอำนาจ” มีพฤติกรรมที่ชี้ให้เห็นถึงการวิ่งเต้นให้“ลูกน้องคนสนิท”ของตัวเองได้ขึ้นสู่ตำแหน่ง เพื่อสืบทอดอำนาจ จะได้ช่วยปิดบัง“ขยะใต้พรม”บรรดาผลงาน “เหม็นโฉ่”ที่ตัวเองเคยก่อไว้ตอนที่ยังอยู่ในตำแหน่ง...แล้วผลออกมา “ลูกน้องคนสนิท”นั้น ก็ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งจริงๆ
นี่เป็นบางตัวอย่างในการโยกย้ายแต่งตั้งที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้น การที่ตัวรัฐมนตรีในเวลานี้“รู้ไม่เท่าทัน” สั่งการนโยบายบางเรื่องแบบคิดไม่รอบคอบพอ ทั้งไม่ทราบว่า ได้มีการประเมินติดตามดูหรือไม่ว่า นโยบายที่สั่งการไป กำลังก่อปัญหาอย่างมากทั้งต่อการทำงานของข้าราชการและมีผลกระทบไปถึงการให้บริการประชาชน
อย่างนโยบายที่สั่งให้อธิบดีทุกกรม ต้องลงไปอยู่ในพื้นที่ ดูแลปัญหาต่างๆเพื่อเป็นเครื่องวัดว่าแต่ละคน“ทำงานจริงหรือเปล่า”โดยต้องส่งภาพรายงานมายืนยันว่า ได้ลงไปอยู่ในพื้นที่จริงๆ
นโยบายนี้ดูเหมือนดี แต่แท้จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ กลับทำให้งานในกรมต่างๆมีปัญหามากขึ้น และส่งผลกระทบถึงประชาชน รวมทั้งยังอาจกลายเป็นช่องทางหาผลประโยชน์ โดยมิชอบด้วย
สิ่งที่พบเห็นคือ หลายๆกรมไม่มีอธิบดีนั่งทำงานอยู่เป็นเวลานานๆ ด้วยอ้างไปลงพื้นที่หมด จนงานที่ต้องให้อธิบดีเท่านั้นลงนามสั่งการ ต้องชะงักงัน เอกชนไปติดต่องาน รอเซ็นอนุมัติอยู่นาน เสียเวลา เสียโอกาส ทั้งทำให้หลายๆงานไม่เดิน ด้วยขาดผู้นำที่จะตัดสินใจสั่งการเรื่องต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนั้น การลงพื้นที่ของอธิบดีบางคน กลับมีข้อครหาตามมาว่า มีการฉวยโอกาสเดินสาย “เก็บส่วย” สร้างความเดือดร้อนให้กับข้าราชการในพื้นที่ก็มี
สิ่งต่างๆเหล่านี้ยิ่งทำให้“หมดใจ” กระทั่งมีกระแสว่า ข้าราชการดีๆที่เหลือทนตั้งท่าจะขอย้ายออกจากกระทรวงนี้ หรือถึงขั้นจะขอ“ลาออก”ก่อนเกษียณกันอีกหลายคน เหมือนช่วงที่นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ยังเป็นเจ้ากระทรวงอยู่ แล้วมีปัญหาไม่แตกต่างกัน จนมีอธิบดีที่ทนถูกแทรกแซง กดดันไม่ไหว ขอ“ลาออก”ก่อนเกษียณเมื่อต้นปี 2558 ถึง 2 คนคือ นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาฯส.ป.ก.-สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และนางวีณา พงศ์พัฒนานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม
กลายเป็นคำถามในช่วง 2 ปีคสช.ว่า แม้แต่ยุคคสช.ก็ไม่แตกต่าง คนดีๆก็ยังคงอยู่ไม่ได้อีก อย่างนั้นหรือ
สาโรช บุญแสง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี