เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายไพสิฐ อิ่มเจริญกุล ทนายความและผู้แทนกลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG เข้ายื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ป.ป.ง. เรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งตามมติคณะกรรมการธุรกรรมในการอายัดทรัพย์สิน และสิทธิเรียกรับค่าเสียหายในโครงการออกแบบร่วมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จ.สมุทรปราการ หรือโครงการโรงบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ต้องจ่ายให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ 2 งวด ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายไพสิฐเปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ป.ป.ง.มีหนังสือถึงกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เพื่อแจ้งอายัดการชำระเงินงวดที่ 2 และ 3 ของกรมควบคุมมลพิษ โดยอ้างว่า เป็นการดำเนินการตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประสานมา โดยกล่าวหาว่าเงินดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิด เข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(5) (15) และ (18) แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 รวมทั้งอ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่พิพากษาให้นายวัฒนา อัศวเหม ถูกฟ้องเกี่ยวกับที่ดิน และคำพิพากษาศาลอาญาที่ข้าราชการกรมควบคุมมลพิษ ถูกฟ้องว่าทุจริต มาเป็นหลักฐานในการกล่าวหา
ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า กรณีนายวัฒนาถูกตัดสินความผิดเกี่ยวกับที่ดินเกิดช่วงปี 2534-2536 ขณะที่โครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่านเกิดปี 2538 และกิจการร่วมค้าฯตั้งขึ้นหลังจากนั้น หากนายวัฒนามีความผิดเรื่องที่ดินก็ไม่น่าเกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้าฯ อีกทั้ง คดีนายวัฒนามีคำพิพากษาตั้งแต่ปี 2551 แต่เหตุใด ป.ป.ง.เพิ่งยกคำพิพากษาดังกล่าวขึ้นมาใช้กล่าวหากิจการร่วมค้าฯขณะนี้
“คำสั่งดังกล่าวกระทบสภาพคล่องของบริษัท และความเชื่อมั่นนักลงทุน ทั้งยังส่งผลให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของภาครัฐ จึงมายื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรม และยืนยันว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าฯไม่ได้ทำผิดในการสนับสนุนให้เจ้าพนักงานทุจริต ตามที่ป.ป.ง.กล่าวหา ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าวป.ป.ช.เคยมีมติไม่ชี้มูลความผิดมาแล้ว ป.ป.ง.จึงไม่ควรนำมากล่าวหาซ้ำ”นายไพสิฐกล่าว และย้ำว่า กิจการร่วมค้าฯตกเป็นเหยื่อทางการเมือง เป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าว่าร่วมทุจริต ถูกกล่าวหาด้วยข้อความเป็นเท็จ ทั้งที่ได้รับความเสียหายมากในฐานะคนทำงานแต่ไม่ได้รับค่าจ้างมาเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ ขอให้สังคมพิจารณาอย่างเป็นธรรมว่า โครงการคลองด่านไม่ใช่มหากาพย์การโกง มิฉะนั้นเหตุใดเอกชนชนะคดีชั้นศาล ทั้งที่ประโคมข่าวตลอดมาว่ามีหลักฐานโกงชัดเจน จริงๆต้องไปดูว่าโครงการมีปัญหาเพราะใคร มากล่าวอ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะ ทั้งที่โครงการใกล้เสร็จเหลืออีกเพียง 2% เหตุใดถึงกล่าวอ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะในช่วงนั้น ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์
นายไพสิฐยังเรียกร้องให้ป.ป.ง.พิจารณาข้อเท็จจริงการถูกยกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรมของกิจการร่วมค้าฯ ซึ่งทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับถูกกล่าวอ้างว่าสัญญาโมฆะจากเหตุผลทางการเมืองช่วงที่เกิดปัญหา ส่วนแนวคิดรัฐบาลจะรื้อคดีที่ภาครัฐเสียประโยชน์ มีคดีคลองด่านรวมอยู่ด้วยนั้น กิจการร่วมค้าฯเห็นด้วยในการหาผู้รับผิดชอบความเสียหาย ทั้งเงินภาษีหลายหมื่นล้านบาท และเสียประโยชน์จากการใช้ประโยชน์จากโครงการ แต่ควรดำเนินการตามข้อเท็จจริงนำคนผิดจริงมาลงโทษ การรื้อฟื้นคดีต้องไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคดีคลองด่านในส่วนกิจการร่วมค้าฯถือเป็นที่สุดแล้ว จึงไม่เห็นด้วยที่จะรื้อฟื้นคดีส่วนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ประกอบด้วย บริษัท วิจิตรภัณฑ์ ก่อสร้าง จำกัด บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด บริษัท สี่แสงการโยธา จำกัด บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด บริษัท เกตเวย์ ดิเวล ลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท สมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษ ชำระเงินค่าจ้างและค่าเสียหายเจำนวน 9 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 90 วัน ให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจ่ายเงินงวดแรกให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ แต่เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 คณะกรรมการธุรกรรม สำนักงาน ปปง.มีมติอายัดทรัพย์สิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้ตามข้อตกลงที่กรมควบคุมมลพิษ ต้องชำระให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ 2 งวดที่เหลือรวมมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท
มีความเห็นจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายในเรื่องนี้ว่า ถือเป็นสิทธิของบริษัทร่วมค้าฯที่จะไปยื่นขอให้ถอนคำสั่งอายัดได้ภายใน 30 วัน ตามที่กฎหมายฟอกเงินกำหนด ซึ่งเลขาป.ป.ง.แจ้งบริษัทร่วมค้าฯไปว่า ได้อายัดไว้ ถ้าบริษัทมีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมก็สามารถนำมาแสดงได้ภายใน 30 วันนี้ เมื่อบริษัทฯยื่นมาแล้ว ป.ป.ง.จะดูหลักฐานที่ยื่นเพิ่มเติมว่าฟังขึ้นหรือไม่ ถ้าฟังขึ้นก็ปล่อยไป แต่ถ้าฟังไม่ขึ้นป.ป.ง.ก็จะไปฟ้องศาล ซึ่งขั้นตอนเมื่อไปถึงศาลแล้ว ก็อาจมีทั้งแพ้และชนะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี