14 มิ.ย.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำสำนวนพร้อมหลักฐานส่งอัยการคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายกับ พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อกล่าวหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร หลังรับเงินบริจาคจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ กว่า 2,000 ล้านบาท ว่า ขั้นตอนจากนี้อัยการสูงสุด (อสส.) จะไปพิจารณาดูสำนวนมีปัญหา หรือต้องสอบเพิ่มดีเอสไอหรือไม่ และต้องสอบ 5 - 6 ราย ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งคดีนี้สำคัญสุดต้องนำเงินมาคืนให้ได้ ถ้าหาคนผิดไม่ได้ก็จะเอาเงินคืนไม่ได้ เพราะเป็นเงินผู้บริสุทธิ์ต้องหามาตลอดชีวิต ข้าราชการบำเหน็จบำนาญหมดตัว เอาเงินไปฝากเพราะคิดว่าดอกเบี้ยดี
"อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า เราทำเรื่องนี้เพื่อนำเงินกลับมาให้เขาให้ได้มากที่สุด แต่การนำเงินกลับมา ต้องหาผู้กระทำความผิดให้ได้ก่อน คำให้การของนายศุภชัยถือว่ามีประโยชน์ แต่ผมเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ เขาชี้หมดว่าอะไรเป็นอะไร ที่ผ่านมาสังคมเห็นภาพเหล่านี้ดี และคงพิจารณาได้ วันนี้พนักงานสอบสวนทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ดังนั้น ขอให้ใจเย็น เขามีระบบของเขาอยู่" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ทางมหาเถรสมาคม (มส.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้เข้าไปช่วยดำเนินการอะไรบ้าง เพราะถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เราคงไม่ไปก้าวก่าย แต่ก็อยากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกันไป ส่วนที่วัดพระธรรมกายต้องการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนนั้น เรื่องนี้อธิบดีดีเอสไอชี้แจงไปแล้ว ตนเคยบอกแล้วอะไรที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้แจ้งมา ถ้าเราเห็นชัดเจนว่า พนักงานสอบสวนดำเนินการที่ไม่ถูกต้องเราก็ยินดี และพิจารณาแล้วไม่มีเหตุต้องเปลี่ยน เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมพนักงานสอบสวนด้วย เพราะเขาไม่ได้ผิดอะไร
"ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย เจ้าหน้าที่ทำอย่างตรงไปตรงมา ตามกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน ทุกคนต้องกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนทุกคนก็อยากเห็นเรื่องแบบนี้ ผมพูดกับเจ้าหน้าที่มาตลอดจะต้องทำให้เห็นชัดเจน และเราต้องดำรงระบบยุติธรรมต่อไป" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า การเจรจา 3 ฝ่าย วัดพระธรรมกายอ้างว่าไม่ได้เข้าร่วมด้วย จะส่งผลต่อรูปคดีหรือไม่ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าตนพูดหลายครั้งแล้วว่าเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้เป็นเรื่องที่ผู้ต้องหายอมรับ อย่าอ้างว่าเป็นผู้แทน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่เคยถาม เพียงแต่ขอให้ทำอย่างรอบคอบ ทำไปแล้วต้องตอบสังคมให้ได้ เมื่อถามว่า เราให้ความสำคัญกับประเด็นอาพาธมากแค่ไหน พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนต้องนำการวินิจฉัยของแพทย์พิจารณาด้วย แต่เมื่อตอบไม่ได้หลายๆ อย่าง ซึ่งเชื่อว่าพนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายได้ ไม่ใช่ว่าจะลงโทษได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี