22 มิ.ย.59 ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการอย่างรอบคอบและขอเรียนว่า ดีเอสไอ อยู่ในกระทรวงยุติธรรมต้องทำตามนโยบายของตน รวมทั้งไม่มีความจำเป็นต้องไปเสียเลือดเนื้อภายในศาสนสถานหรือในสภาวะผู้ครองผ้าเหลืองถือว่าไม่เหมาะสม แต่ขอยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางในการบังคับใช้กฎหมายและต้องไม่มีการสูญเสีย ทั้งนี้ ต้องมองว่าคดีนี้มีพฤติการณ์ส่อไปทางการใช้กฎ ประวิงเวลา การใช้ข้อต่อรองทั้งที่เป็นผู้ต้องหา
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า สำหรับคนที่ออกมาพูดซึ่งเป็นศิษยานุศิษย์แต่ไม่ใช่ตัวผู้ต้องหา จะทราบว่าตัวผู้ต้องหาคิดอย่างนี้หรือไม่เพราะยังไม่เข้าถึงตัวผู้ต้องหาและหากเป็นคดีความขึ้นมาตัวผู้ต้องหาอาจบอกว่าไม่ได้คิดอย่างนั้น
“ผมได้หารือกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แล้วว่า พศ. ต้องมีบทบาทให้มากกว่านี้ การเห็นศาสนสถานเป็นที่ปฎิบัติเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ทำไมไม่ตักเตือน และขอร้องให้มีบทบาทในการกำหนดหน้าที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ศาสนสถาน การประพฤติตนของสงฆ์ การประพฤติตนของผู้ปฏิบัติธรรมเหมาะสมอย่างไร โดย พศ. ควรออกมาชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่าอะไรควร ไม่ควร ซึ่ง พศ. ต้องพูดไม่ใช่ต้องให้ผมมาพูด”พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว และว่า“ผมบอก พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และ พนักงานสอบสวน ว่าคุณไม่ได้ดูแลเรื่องนี้อย่าไปออกความคิดเห็นในเรื่องศาสนา โดยรัฐบาลมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาจะเป็นคนชี้แจงเองว่าอะไรเหมาะสม ต้องออกมารักษากฎวินัยพระพุทธศาสนาให้ชัดเจน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผอ.พศ. ออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงกระแสข่าวการถูกย้ายพ้นตำแหน่งนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยกันในแง่หลักการว่า ถ้ามีหน้าที่แล้ว บกพร่องต่อหน้าที่ก็ต้องเปลี่ยนตัว เป็นไปตามหลักการ ท่านผอ.พศ.น่าจะให้สัมภาษณ์ประมาณนี้ คงไม่ใช่เป็นเพราะแก้ปัญหาพระธัมมชโย ไม่ได้ เพราะปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกัน แต่อีกแง่มุมหนึ่งตามหลักการทั่วไปหากอยู่ในหน้าที่แล้วแก้ปัญหาไม่ได้ก็ควรต้องไป
ส่วนกลุ่มผู้เสียหายจากสหกรณ์ฯคลองจั่น เดินทางมาดีเอสไอนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ถ้าท่านเป็นคนกลุ่มนี้ที่หาเงินมาด้วยความยากลำบาก ท่านก็ต้องทำแบบพวกเขา โดยวันนี้การได้เงินครบแทบจะไม่มีหวังเลย พวกเขาบอกว่าได้เงินคืนสักครึ่งหนึ่งก็ยังดีและไม่เคยหวังจะได้หมด โดยใครเอาทรัพย์สินของพวกเขาไปนั้นเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพวกเขามากที่สุดคือคืนเงินให้พวกเขาครบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปถึงไหนเพราะคดีความยังไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้เพิ่งมาเมื่อวานนี้ แต่มาพบตนอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น และจะทำคดีนี้ให้ประชาชนเกิดความหวังความมั่นใจแก่ผู้เสียหายสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี