ป.ลุยค้นอีสาน
หาหลักฐานมัด‘นางไก่’
โยงคดีเศรษฐินีดับ
ทนายปูดจ่อเผยโฉม
แก๊งหนุนไฮโซปลอม
ศาลปัดจับค้ามนุษย์
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความและประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว “สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์” แฉพฤติกรรมนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ “นางไก่” ผู้ต้องหาในความผิดฐานแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา, พยายามค้ามนุษย์ และความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง
ทั้งนี้ นายสงกานต์ โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า นอกจากนางไก่ จะเรียกตัวเองว่าคุณหญิงแล้ว ยังกร่างสุดๆ เวลาไปไหนมักมีผู้ติดตาม และมีกุนซือคอยวางแผนแก้ตัวให้ โดยอ้างว่าชื่อเล่น “หญิงไก่” แต่มีคนไปใส่คำว่า “คุณ” ไว้ข้างหน้า จึงกลายเป็น “คุณหญิงไก่” ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเอง
“แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะหากว่ากันตามพยานหลักฐาน ขณะนี้รายชื่อเครือข่ายนางไก่ กำลังถูกชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) สาวอยู่ว่ามีใครบ้าง ลักษณะคล้ายเครือข่ายของเดอะกิ๊ก หรือคนมีสีหรือไม่ ถือเป็น ว.5 ลับเฉพาะที่จะแฉว่าคนช่วยนางไก่มีทั้งคนมีสี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ อดีตนักการเมือง นักกฎหมาย ที่คอยยุยงส่งเสริม รวมถึงช่วยเหลือ ให้ถือว่าเป็นตัวการร่วมทั้งหมด” นายสงกานต์ ระบุ
นายสงกานต์ ยังโพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊คส่วนตัวด้วยว่า สำหรับกิตติศัพท์ของนางไก่ พฤติกรรมกร่างแค่ไหน เคยเอาคนมีสีเข้าไปเคลียร์พระในวัดมาแล้ว หลังมีการบุกรุกพื้นที่วัด ไล่สำนักสงฆ์ที่ปลูกไว้ออกไป โดยมีนางไก่และบริวารข่มขู่ เพื่อทำให้พระ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องตกใจ หวาดกลัว จนในที่สุดต้องยอม คดีนี้เจ้าหน้าที่รัฐต่างรู้ดี ตอนนี้ความลับของนางไก่กำลังผุดขึ้นราวดอกเห็ด กำลังวิ่งเต้นให้หลุดรอดพ้นจากการถูกสอบสวน ทั้งในทางลับและที่เป็นข่าวกับสื่อมวลชน
สำหรับวิธีสังเกตเครือข่ายของนางไก่ มักบอกปัดการกระทำต่างๆว่าที่คนเข้าใจผิดว่าเป็นคุณหญิง เพราะ “บกพร่องโดยสุจริต” หรือ “ยังอ่อนประสบการณ์” แต่หารู้ไม่ว่าชุดสืบสวนตรวจสอบจากมือถือนางไก่ย้อนหลังไปหลายปี พบว่า นางไก่ชอบอัดเสียงคู่สนทนาหลายคน เรื่องนี้อีกไม่นานได้รู้กันว่าโฉมหน้ารายชื่อเครือข่ายนางไก่มีใครบ้าง โปรดติดตามตอนต่อไป
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รอง ผบช.ก.) และรักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองปราบปราม(รรท.ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตอย่างมีปริศนาของนางฉวีวรรณ ตั้งวิริยะกุล เศรษฐีนีที่ดินและเจ้าของสัมปทานการเดินรถที่ จ.อุดรธานี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆว่านางไก่ มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เบื้องต้นมอบหมายให้ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผู้กำกับการกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม(ผกก.3 บก.ป.) นำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ จ.สกลนคร และอุดรธานี ไปสอบปากคำพยานแวดล้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง ญาติของนางฉวีวรรณ รวมทั้งสอบปากคำ นพ.อุดม แพะเจริญชัย ซึ่งเป็นแพทย์ที่รักษานางฉวีวรรณ
ทั้งนี้ นพ.อุดม ได้มอบเอกสารการรักษานางฉวีวรรณ ให้กับชุดสืบสวนเพื่อคลายข้อสงสัย พร้อมกับให้การว่านางฉวีวรรณ มารักษาที่คลินิคจริงด้วยอาการโรคมะเร็งตับ ซึ่งได้รักษาวินิจฉัยให้กลับไปบ้านเพื่อทำการพักฟื้น แต่นางฉวีวรรณประสงค์ขอรักษาพักฟื้นที่คลินิคจนเสียชีวิต จากนั้น นพ.อุดม ได้นำศพไปที่วัด ก่อนทำการฌาปนกิจ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อทางญาติได้
พล.ต.ต.ชาญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ได้สอบปากคำนายปิติ ตั้งวิริยะกุล อดีตสามีของนางฉวีวรรณ รวมทั้งขอเอกสารหลักฐานที่คาดว่าจะเชื่อมโยงกับทางคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากการสอบปากคำนายปิติ ให้การว่ารู้จักกับนางไก่ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อครั้งที่นายปิติ พามารดาไปทำการรักษา ก่อนทั้งคู่จะพูดคุยจนสนิทสนมกัน และเห็นว่านางไก่เป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย จากนั้นนายปิติ ได้จ้างนางไก่มาดูแลปรนนิบัติมารดาของนายปิติ ระหว่างที่ทำงานนับถือเคารพกันในฐานะพ่อ-ลูก
สำหรับประวัติของนายปิติ จากคำให้การ พบว่า นายปิติ เคยผ่านการมีลูกมาแล้ว ก่อนที่จะมาแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับนางฉวีวรรณ ซึ่งตอนนั้นนางฉวีวรรณ ประกอบธุรกิจในการสัมปทานเส้นทางการเดินรถระหว่างกรุงเทพฯ-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สืบทอดต่อจากบิดา แต่ทั้งคู่ไม่มีทายาทร่วมกัน กระทั่งเมื่อปี 2546 นายปิติ ได้เดินทางมากับนางไก่ เพื่อมาติดต่อขอซื้อที่ดินจากนางฉวีวรรณ โดยนายปิติ ยังให้การว่านางไก่ต้องการนำที่ดินไปสร้างที่พักอาศัย ซึ่งก่อนการเสียชิวิตได้ถูกโอนเป็นชื่อนายปิติ และนางไก่ และถูกขายให้ผู้อื่นในเวลาต่อมา
ส่วน พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆว่านางไก่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนางฉวีวรรณ หรือไม่ โดยสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 3-4 ปาก ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ อีกทั้งในเร็ววันนี้จะเรียกสอบบุคคลเพิ่มเติมอีกในหลายประเด็น อาทิ สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง รวมถึงการโอนที่ดินของนางฉวีวรรณ ขณะโอนมีสติสมบูรณ์หรือไม่
ขณะที่ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. กล่าวว่า หลังจากที่นายสงกานต์ เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีที่นางสุกัลยา ศิริม่วง ถูกปลอมลายเซ็นในสำนวนการสอบสวน เมื่อครั้งถูกนางไก่ แจ้งความในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ท้องที่ สน.ประชาชื่น เมื่อเดือนธันวาคม 2558 นั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ส่งรายเซ็นของนางสุกัลยา ที่เซ็นไว้เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ให้กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แล้วหรือไม่ แต่ในส่วนของการตรวจสอบลายเซ็นของนางสุกัลยา ในคดีที่นางไก่แจ้งความไว้กับ สน.ประชาชื่น นั้น ต้องรอขอศาลก่อนนำข้อมูลต่างๆมาตรวจพิสูจน์ได้ เนื่องจากคดีนี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว ต้องรอทำตามกระบวนการต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ไปยื่นคำร้องที่ศาลอาญาเพื่อออกหมายจับนางไก่ในข้อหาค้ามนุษย์ กรณีลวงเด็กชาวเขาจาก จ.แม่ฮ่องสอน ให้ไปทำงานเป็นแม่บ้านที่คอนโดมิเนียมย่านประชานิเวศน์ แต่กลับไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้าง และยังข่มขู่ไม่ยอมให้เดินทางกลับ จ.แม่ฮ่องสอน ปรากฏว่าทางศาลยังไม่ออกหมายจับให้ เนื่องจากมีความเห็นว่าพยานหลักฐานในข้อหาค้ามนุษย์ยังไม่เพียงพอ และยังไม่สมบูรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี