DSIเลื่อนถกอัยการ
แจ้งข้อหาสมเด็จช่วง
คดีรถหรู-นัด28ก.ค.
เจ้าคุณประสารลุยต่อ
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบคดีรถยนต์หรูเลี่ยงภาษี กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กำหนดนัดประชุมเพื่อวางแนวทางการแจ้งข้อหา ต่อผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดกรณีรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ทะเบียน ขม99 กรุงเทพ ที่มีชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งพบว่าชำระภาษีไม่ครบ และปลอมแปลง ใช้เอกสารปลอมในการยื่นขอจดทะเบียนรถ และกรณีรถยนต์ยี่ห้อแพนเธอร์ ทะเบียน ก1177กรุงเทพ ของ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ที่พบการหลีกเลี่ยงภาษีตั้งแต่การนำเข้า ซึ่งในวันนี้การประชุมร่วมกับอัยการที่ร่วมเป็นพนักงานสอบสวน จะเลื่อนไปก่อน โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะเข้าพบหารือกับ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ก่อนแจ้งข้อหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะนัดประชุมกันอีกครั้ง ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ส่วนขั้นตอนต่อไปหากคณะพนักงานสอบสวนฯ มีความเห็นตรงกันเรื่องการตั้งข้อหาสมเด็จช่วง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหา 1.ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสินค้า โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน และ 2.ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานฯ หรือข้อหาใดข้อหาหนึ่ง พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเข้าให้ปากคำและมารับทราบข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พระมหาบุญชัย จารุทัตโต ผู้รับผิดชอบด้านการเงินของวัดพระธรรมกาย ที่มีอำนาจสั่งจ่ายเช็ค ซึ่งนัดหมายจะเข้าให้ปากคำเรื่องการดูแลการเงินของวัด ตามที่พนักงานอัยการกำหนดประเด็นให้ดีเอสไอสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบการสอบสวนคดีฟอกเงินที่ได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้ ได้แจ้งขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 2 สิงหาคม
ด้าน พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวย้ำว่า ยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม คือจะจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของดีเอสไอ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ตอนนี้อยู่ในระหว่างรอหารือกับคณะสงฆ์ส่วนต่างๆ ก่อนว่าจะกำหนดท่าทีอย่างไรต่อไป รวมถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะออกมาแสดงพลังและสวดมนต์ใหญ่ และทราบว่าองค์กรพุทธ ภาคีเครือข่ายทั่วประเทศตอบรับเข้าร่วมสวดมนต์ใหญ่ครั้งนี้ เพื่อออกมาปกป้องผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และพระพุทธศาสนา ส่วนที่ผู้หลักผู้ใหญ่ถามถึงสถานการณ์และขอให้เบาลงนั้น ก็เตรียมที่จะเดินสายพูดคุยหารือกับหลายท่าน
วันเดียวกัน พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม พร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ กรณีที่ถูก นายจตุพร ดูหมิ่นว่ามีคดีติดตัวถึง 9คดีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต แต่ดีเอสไอกลับไม่ดำเนินการใดๆ ซึ่งเมื่อได้สอบถามกับอัยการแล้ว ทราบว่ามีเพียง 2คดี คือ ข้อหากบฏและขัดขวางการเลือกตั้ง
จากนั้น พระพุทธะอิสระเดินทางมายื่นหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ เจ้าคุณประสาร ข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร สืบเนื่องจากการเผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ปลุกระดมประชาชนและพระสงฆ์ ให้ออกมาชุมนุม หลังจากที่ดีเอสไอแถลงว่ารถเบนซ์โบราณของสมเด็จช่วง ผิดกฏหมาย ซึ่งถือเป็นการกดดันและท้าทายอำนาจ คสช.และขอเตือนพระสงฆ์และสามเณร อย่าตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่เคลื่อนไหวกดดันเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี