นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยพูดไว้ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ถึงเรื่อง “Thailand 4.0” ว่าต้องทำให้คนไทยเป็น “คนไทย 4.0” ด้วย เพราะถ้าคนไทยไม่ใช่ “คนไทย 4.0” โอกาสที่จะขับเคลื่อนให้เป็น “Thailand 4.0” ดูจะห่างไกล เพราะ”Thailand 4.0” ต้องใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อน ต้องสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เศรษฐกิจของประเทศต้องเข้มแข็ง สินค้าชนิดที่ผลิตออกมาแล้วราคาตกต่ำ ต้องมาเรียกร้องนั่นเรียกร้องนี่ให้รัฐบาลชดเชย เอาผลผลิตมาเทกองหน้ากระทรวงเกษตรฯ ต้องไม่มี...
เกษตรกร จะรอฝนฟ้า รอธรรมชาติเอื้ออำนวยเหมือนแต่ก่อนไม่ได้ เกษตรกรต้องเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง หรือ เรียกเท่ๆว่า
“Smart Farmer” คือเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้า นำความรู้ หลักวิชาการมาประยุกต์ใช้กล้าคิด กล้าทำ กล้าทดลอง ที่สำคัญคือต้อง “ทำน้อย แต่ได้มาก” หมายถึงใช้พื้นที่เพาะปลูกน้อย แต่ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น เพิ่มปริมาณผลผลิตโดยการใช้เทคโนโลยี ไม่ใช่ขยายพื้นที่เพาะปลูก ผลผลิตต้องมีคุณภาพแข่งกับใครๆ เขาได้ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านรอบ ๆ เรา ซึ่งเขากำลังจะแซงเราไปแล้วนี่แหละ
เกษตรกร ที่จะเป็น “Smart Farmer” อย่างที่นายกรัฐมนตรีต้องการมีอยู่จำนวนเท่าไรในขณะนี้ และต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรในการที่จะสร้างให้เกษตรกรทุกคนเป็น “Smart Farmer” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ และ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร โอฬาร พิทักษ์ คงต้องคำนวณให้นายกรัฐมนตรีดู จะได้รู้ว่า Thailand 4.0 จะต้องใช้ระยะทางเดินอีกยาวไกลแค่ไหน
สำหรับแผนที่เกษตร “Agri Map” หรือ ข้อมูล ดิน น้ำ พืช ประมง การตลาด การใช้ประโยชน์ที่ดิน โลจิสติกส์ ทะเบียนเกษตรกร และข้อมูลประกอบอื่นๆ ที่กระทรวงเกษตรฯ เร่งทำออกมาใช้งานภายในเวลาอันรวดเร็วตามการเร่งรัดของผู้บริหารนั้น เป็นข้อมูลที่แท้จริงหรือไม่ ไม่มีใครยืนยัน เฉพาะทะเบียนเกษตรกรที่เร่งทำมาตั้งแต่ปีมหาอุทกภัย 2554 สมัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ชื่อ ธีระ วงศ์สมุทร ต่อด้วย ยุคล ลิ้มแหลมทอง จากพรรคชาติไทยพัฒนา สมัยอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรชื่อ พรรณพิมล ชัญญานุวัตร อธิบดีหญิงคนแรกของกรมส่งเสริมการเกษตร แต่เข้ามารับงานลุยๆ เยี่ยงชายอกสามศอก จนเกษียณอายุราชการเมื่อปี 2556 ข้อมูลทะเบียนเกษตรกรทั่วประเทศก็ยังไม่สมบูรณ์
แล้ว Agri Map ที่ใช้เวลาทำเพียงไม่กี่เดือน จะมั่นใจได้อย่างไร แต่เอาเถอะ ต้องชื่นชมกรมชลประทานที่สามารถผลักดัน Agri Map ออกมาใช้ เพราะถ้าไม่เริ่มต้นก้าวแรก ก็จะไม่มีก้าวต่อไป แต่ก็งงอยู่ว่าทำไมจึงให้กรมชลประทานเป็นเจ้าภาพ Agri Map จะอ้างว่าเพราะใช้แหล่งน้ำเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการผลิตพืชก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผล คงมีอธิบดีกรมชลประทาน สุเทพ น้อยไพโรจน์ คนเดียวที่ไม่งง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชมการทำการเกษตรแปลงใหญ่ ของกระทรวงเกษตรฯ ที่นำร่องกับพืช 4 ชนิด คือ ข้าว
มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และ อ้อย ด้วยมุ่งหวังว่า การปลูกพืชแปลงใหญ่ จะสามารถทุ่มเทปัจจัยต่าง ๆ ลงไปได้อย่างเต็มที่ ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ รวมไปถึงงานวิจัยด้วย ทั้งนี้อาศัยกลไกประชารัฐคือ หน่วยงานภาครัฐลงทุน เกษตรกรลงแรง และ ภาคเอกชนบริหารจัดการด้านการตลาด ให้เป็น “เกษตรสมัยใหม่” เตรียมก้าวสู่ “Thailand 4.0”
ที่นายกรัฐมนตรีชื่นชมคือตัวเลข การลดต้นทุนการผลิต และ ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ตัวเลขจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย ระบุว่า ข้าวแปลงใหญ่ 393 แปลง พื้นที่ 8.3 แสนไร่ ลดต้นทุนการผลิตได้ 19% เพิ่มปริมาณผลผลิตได้ 13% มันสำปะหลังแปลงใหญ่ 34 แปลง พื้นที่ 6.6 หมื่นไร่ ลดต้นทุนการผลิตได้ 25% เพิ่มผลผลิตได้ 30% ปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่ 15 แปลง พื้นที่ 2.7 แสนไร่ ลดต้นทุนได้ 15% เพิ่มผลผลิตได้ 19% และอ้อยแปลงใหญ่ 10 แปลง พื้นที่ 1.1 หมื่นไร่ ลดต้นทุนการผลิตได้ 20% เพิ่มผลผลิตได้ 25%
ท่านนายกฯ ยังชื่นชมข้าวแปลงใหญ่ที่อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ว่าประสบความสำเร็จในการทำการเกษตรแบบสมัยใหม่ ตามแนวทางประชารัฐ พื้นที่กว่า 3,700 ไร่ มีเกษตรกรที่ร่วมโครงการเกือบ 300 ราย สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ 29% เพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวได้ 25%
น่าทำเป็น “ห้วยทับทัน โมเดล” เพื่อขยายผล “แปลงใหญ่” ตามแนวทาง “ประชารัฐ” ในการทำ “เกษตรสมัยใหม่” โดยใช้ “Agri Map” และ “Smart Farmer” ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ “Thailand 4.0” เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี