วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันจันทร์ที่ผ่านมามีข่าวที่ไม่เป็นข่าว เพราะถูกข่าวใหญ่อย่างผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญกลบเสียมิดชิด แต่ถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญและน่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะอาจส่งผลไปสู่การปฏิรูปขบวนการสหกรณ์ไทยในอนาคต
นั่นคือ การลงมติด้วยคะแนนเสียง 149 ต่อ 8 เสียง งดออกเสียง 16 เสียง ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เห็นชอบให้มีการ “ปฏิรูป” สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ตามแนวทางของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ
หลังจากก่อนหน้านี้เกิดปัญหา “ความโปร่งใส” ในการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนหลายแห่ง
โดยเฉพาะกรณีทุจริต สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นที่ไม่ได้มีเพียงแค่มูลค่าความเสียหายเป็นตัวเลขหลักหมื่นล้านบาทเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงเสถียรภาพของสหกรณ์ออมทรัพย์รายอื่นๆ ที่นำเงินมาฝากกินดอกเบี้ยอีกจำนวนมาก
ยังไม่นับรวมกับสมาชิกรายย่อยของทั้งสหกรณ์คลองจั่นและสหกรณ์อื่นๆ ที่ต้องได้รับผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่อีกไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนราย
สำหรับประเด็นที่คณะกรรมาธิการเสนอให้มีการปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่า ในอนาคตจะต้องมีการปฏิรูปใน 3 ด้านหลัก คือ การส่งเสริม การพัฒนา และการกำกับดูแล
โดยด้านการส่งเสริม จะมุ่งในประเด็นการส่งเสริมความเข้มแข็งของสหกรณ์ ให้ความรู้พื้นฐานทางการเงินกับสมาชิกและประชาชน ในการเก็บออมอย่างมีเป้าหมาย และการวางแผนทางการเงิน สำหรับช่วงวัยต่างๆ รวมไปถึงการลงทุนและประเมินความเสี่ยง การปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ของสหกรณ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน
ขณะที่ด้านการพัฒนา จะต้องมีการพัฒนาทั้งระบบไอทีระบบข้อมูล พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางการเงิน กำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของผู้บริหาร การปรับระบบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
วางประเด็นการกำกับดูแล ควรให้มีการแบ่งแยกหน่วยงานเพื่อการกำกับดูแลออกเป็นการกำกับดูแลด้านสหกรณ์ และการกำกับดูแลด้านความเป็นสถาบันการเงิน ซึ่งควรแบ่งเป็นระดับสหกรณ์ขนาดเล็กสินทรัพย์ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และสหกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งระบบการกำกับดูแลจะต้องมีความชำนาญในการตรวจสอบที่สูงขึ้น รวมถึงผู้บริหารต้องมีความเชี่ยวชาญเพียงพอในการลงทุนด้วยที่สำคัญควรจัดตั้ง “สำนักงานกำกับสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน” ขึ้นมาดำเนินการในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
โดยหลังจากนี้ สปท. จะมีการนำข้อสรุปดังกล่าว เสนอไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบและดำเนินการ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วโฉมหน้าของทิศทางการปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านเราจะออกมาอย่างไร และสามารถสร้างความโปร่งใสได้อย่างเป็นรูปธรรมได้จริงหรือไม่ ซึ่งอีกไม่นานคงได้รู้กัน
มะลิลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี