28 ส.ค. 59 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำใช้การได้ใน33 เขื่อนใหญ่ มีน้อยกว่า30% ว่ามี เขื่อนใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังมาก คือ เขื่อนกระเสียว ยังมีน้ำใช้การได้ 1% เขื่อนจุฬาภรณ์ มีน้ำใช้การได้ 4 % โดยเฉพาะเขื่อนบางพระ มีน้ำใช้การ13% ซึ่งขณะนี้กรมชลประทานผันน้ำจากเจ้าพระยาเติมเข้าคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำใช้การได้4% ที่เคยนำน้ำ Dead Storage มาใช้ขณะนี้ปริมาณน้ำใช้การได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับปี58ที่ฝนหยุดเร็ว โดยน้ำเข้าเขื่อนปี59/60น่าจะได้น้ำมากกว่าทั้งทางภาคเหนือกับภาคอีสานน้ำเริ่มดีกว่าปีที่แล้ว ส่วนภาคตะวันตก ภาคตะวันออกและ ภาคใต้ ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมา ฝนจะตกยืดกว่าปีที่แล้ว และน้ำจะเข้าช่วงปลายปีมากกว่า อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ได้ให้กรมฝนหลวงฯขึ้นปฎิบัติการเติมน้ำเขื่อนในพื้นที่เป้าหมายเพิ่มปริมาณน้ำเขื่อนหลัก โดยวันที่2 ก.ย.เดินทางไปติดตามฐานฝนหลวงจ.ตาก เติมน้ำเขื่อนภูมิพล
สำหรับปริมาณน้ำไหลเข้า 33 เขื่อนใหญ่ ช่วงวันที่ 22 - 28 ส.ค. 59รวม 1,574.29 ล้านลบ.ม. เฉลี่ยวันละ224.90 ล้าน ลบ.ม. ดังนี้ เปรียบเทียบน้ำใช้การได้/ น้ำไหลเข้า 33 เขื่อนทั่วประเทศ วันเดียวกันปี 55 มีปริมาณ 18,333 นำ้ไหลเข้า 239.70 ล้านลบ.ม. ปี 56 มีปริมาณ16,550 น้ำไหลเข้า206.02 ล้าน ลบ.ม. ปี57ปริมาณ 13,082 น้ำไหลเข้า 193.19 ล้าน ลบ.ม.ปี 58 ปริมาณ 11,321 น้ำไหลเข้า 149.09 ล้านลบ.ม. และปี 59 มีปริมาณ 12,350 น้ำไหลเข้า 222.02 ล้าน ลบ.ม.
เมื่อเปรียบเทียบน้ำใช้การได้ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา มีปริมาณล่าสุด 4,083 ล้านลบ.ม.เทียบกับวันเดียวกันปี 58 มีปริมาณ1,814 ล้าน ลบ.ม. โดยเทียบกับสิ้นฤดูฝนปีที่แล้วณ วันที่ 1 พ.ย.มีปริมาณ4,240 ล้าน ลบ.ม.ถ้าเทียบกับสิ้นฤดูฝนปี 57 มีปริมาณ 6,777 ล้านลบ.ม.
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีว่าน้ำใช้การได้ใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาใกล้เคียงกับสิ้นฤดูฝนปี 2558 และ มีโอกาสมากกว่าสิ้นฤดูฝนปี 2557 ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง มองแผนการใช้น้ำไปข้างหน้าถึงฤดูฝนปีหน้า
" สั่งการให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจนเก็บน้ำในปีนี้ให้มากที่สุด จากปริมาณน้ำเกือบหมดเขื่อน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สามารถเก็บน้ำทุกหยด พลิกสถานการณ์น้ำกลับมา มั่นใจว่าแล้งนี้ปี60 มีน้ำอุปโภคบริโภครักษาระบบนิเวศน์มีเพียงพอ น้ำที่จะเก็บต่อไปคือน้ำทำนารอบสอง"รมว.เกษตรฯกล่าว
อย่างไรก็ตามในขณะนี้เขื่อนใหญ่มีน้ำใช้การได้ต่ำกว่า30% เช่น เขื่อนภูมิพล 8% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 25% เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล 25% แม่กวง 11% ห้วยหลวง 24% น้ำพุง 25% ลำปาว 24% ลำตะคอง 12% ลำพระเพลิง 10% มูลบน 17% ลำแซะ15% ทับเสลา 19% คลองสียัด 16% หนองปลาไหล 24% นฤบดินทรจินดา(ห้วยโสมง)6% แก่งกระจาน 20% ปราณบุรี12% ส่วนที่มีมากกว่า30% เช่นเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำใช้การ 36% เขื่อนแควน้อย 35% เขื่อนน้ำอูน 36% เขื่อนลำนางรอง 45% เขื่อนสิรินทร 51% เขื่อนศรีนครินทร์ 66% เขื่อนวชิราลงกรณ์ 51% เขื่อนขุนด่านปราการชล 49% เขื่อนปะแสร์48 เขื่อนรัชประภา 78% เขื่อนบางลาง 31%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี