วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ช่วงนี้มี 2 ข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกเชื่อมโยงกันอย่างประหลาด ทั้งที่เป็นคนละเรื่องกันเลย
ข่าวแรกคือ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สั่งให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณจัดเก็บผักตบชวาของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้วยมีคนข้องใจกันว่า แต่ละปีใช้เท่าไหร่ ทำไมจัดเก็บผักตบชวาไม่หมด มีแต่จำนวนเพิ่มมากขึ้น
ผู้ว่าฯสตง.ให้ข่าวเรื่องนี้ค่อนข้างดุเดือดทีเดียวว่า งบฯเก็บผักตบชวา ซึ่งเป็นงบฯที่รวมอยู่กับงบฯขุดลอกแหล่งน้ำแต่ละหน่วยงานใช้เท่าไหร่ ต้องนำมาเปิดเผยให้สังคมรับรู้ เหมือนที่สำนักระบายน้ำกทม.มีงบฯทำเส้นทางระบายน้ำปีละ 5 พันล้านบาท แต่พอฝนตกน้ำท่วม ผู้ว่าฯกทม.บอกเป็น “น้ำรอระบาย” อ้างระบบใหญ่ไม่เวิร์กเตรียมขอใช้งบฯอีกพันล้านมาทำอีก 21 โครงการ จะเห็นว่า เพียงน้ำท่วมชั่วข้ามคืนก็คิดได้ 21 โครงการ วิกฤติสร้างโอกาส... เปอร์เซ็นต์งานเพิ่มขึ้นปีละ 70% แต่งบฯที่ได้ทุกปี ปีละ 5 พันล้าน ทำไมไม่ทำ ถ้าย้อนไป 5 ปี เป็นเงิน 2.7 หมื่นล้าน ทำไมยังมีน้ำรอระบาย...
นายพิศิษฐ์บอกว่า การที่นายกรัฐมนตรีต้องออกมากระทุ้งเรื่องผักตบชวา เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละพื้นที่ไม่ค่อยใส่ใจ ปล่อยให้มีมากๆจะได้ของบฯกลางก้อนใหญ่ ทุกเรื่องจึงเป็นปัญหาหมักหมม...ทั้งตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทำไมขุดลอกคูคลองได้ แต่ไม่กำจัดผักตบชวาหรือเพราะผักตบชวาไม่ใช่งานก่อสร้าง มีเปอร์เซ็นต์งานมากกว่าใช่หรือไม่...ทั้งบอกอีกว่า ตอนนี้พอเป็นข่าว ส่วนท้องถิ่นก็ชอบ จะได้ใช้งบฯฉุกเฉินจำเป็นอย่างมีความสุขค่าจ้างแรงงาน ค่าน้ำมัน ค่าล่วงเวลา ค่าจ้างคนเก็บ แทนที่จะเก็บผักตบตอนมีน้อยๆ ก็รอมากๆค่อยเก็บ แทนที่จะใช้งบฯ เล็กๆ ก็ต้องมาใช้งบฯมากๆ
เรื่องผักตบชวานี้ ผมเคยเขียนกระทุ้งไปหนหนึ่ง ตอนมีข่าวนายกฯบิ๊กตู่ต้องสั่งให้กองทัพบกส่งกำลังทหารเข้าไปกำจัดผักตบชวาเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่ลอยแน่นขนัดยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งเก็บกันขึ้นมาได้น้ำหนักนับแสนตัน...ต้องย้ำว่า เป็นการสะท้อนความ “เฮงซวย” ของหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องโดยแท้ ยิ่งตอกย้ำด้วยสิ่งที่ผู้ว่าฯ สตง.พูดมานี้ ยิ่งเห็นภาพมากขึ้น ของการที่หน่วยงานในพื้นที่ ปล่อยให้เกิดวิกฤติผักตบชวา เพื่อหาประโยชน์จากงบประมาณหรือเปล่า?...ทิ้งท้ายข่าวนี้ไว้ตรงนี้ก่อน
ที่นี่มาดูอีกข่าวหนึ่ง เป็นข่าวที่นายกฯบิ๊กตู่แสดงความชื่นชมผวจ.สุโขทัย-ปิติ แก้วสลับสี ที่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ผลน่าพอใจ หลังจากหลายจังหวัดภาคเหนือเผชิญภาวะน้ำท่วมน้ำหลากจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยใช้บิ๊กแบ๊กป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน และพร่องน้ำส่วนเกิน บังคับไหลไปเก็บตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ช่วยลดปริมาณน้ำให้อยู่ในระดับที่แม่น้ำยมสามารถรับได้ นายกฯจึงฝากให้จังหวัดอื่นศึกษา เพื่อเป็นแบบอย่างนำไปใช้แก้ปัญหาน้ำท่วม…
ข่าวนี้คงทำให้ผู้ว่าฯปิติปลื้มไม่น้อย อย่างไรก็ตามมีหมอโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสุโขทัยชื่อ นพ.กวิน ก้านแก้วส่งอี-เมล์ถึงสำนักข่าวอิศรา บอกกล่าวข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจยิ่ง สรุปความได้ว่า ที่สุโขทัยรอดพ้นวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ แท้จริงแล้วเป็นเพราะทหารผู้ปิดทองหลังพระต่างหาก
ข้อมูลที่นพ.กวินเล่ามา ใครสนใจคงต้องไปหาดูโดยละเอียดทางอินเตอร์เนตแต่ที่จะสรุปตรงนี้คือ ที่เมืองสุโขทัยน้ำท่วมประจำทุกปี ดูเหมือนเป็นเพราะความจงใจของกับเจ้าหน้าที่รัฐกับ “ผู้ทรงอิทธิพล” บางคน เพื่อหวังผลประโยชน์“งบประมาณ” ทั้งที่แนวทางดูแลน้ำล้นจากแม่น้ำยมเข้าท่วมตัวเมืองทำได้ไม่ยาก ซึ่งอดีตผวจ. คือ นางสุมิตรา ศรีสมบัติ เคยทำให้เห็นมาแล้ว แต่ผลกลับถูกย้ายไปเข้ากรุ พร้อมข่าวลือว่า โดนเด้งเพราะมีคนไม่พอใจที่ทำให้น้ำไม่ท่วม จนไม่มีงบน้ำท่วมมาเหมือนทุกปี พอยุคคสช.ตอนแรกมีทหารอย่างพล.ต.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข รับมอบหมายมาดูแลบริหารจัดการน้ำที่สุโขทัย ก็แก้ไขได้ กลับถูกย้ายอีกโชคดีทหารที่รับไม้ต่อคือ พล.ต.ทรงวุฒิจิตตานนท์ ตั้งใจจริงและจับมือกับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานระดับ”ปฏิบัติการ”และประชาชนในพื้นที่ช่วยดูแลตามแนวทางที่ถูกต้อง จึงป้องกันไม่ให้น้ำท่วมได้...หาใช่เพราะบิ๊กแบ๊กของผู้ว่าฯไม่
ประเด็นที่ผมสนใจจากข่าวนี้ และน่าจะเชื่อมโยงกับข่าวผู้ว่าฯสตง.สั่งตรวจสอบงบฯผักตบชวาก็คือ แท้จริงแล้ว ไม่ว่าปัญหาน้ำท่วมหรือผักตบชวา ล้วนแก้ได้ไม่ยาก แต่กลับมีข้าราชการหรือผู้มีอิทธิพลที่ไม่ยอมให้แก้ หรือปล่อยปละไม่แก้ เพียงเพื่อให้เกิดปัญหาหรือ”วิกฤติ” จะได้หาเศษหาเลย ได้ผลประโยชน์จากงบประมาณแก้ไขที่เข้ามา
ถือเป็นการหาผลประโยชน์โดยมิชอบ บนความเดือดร้อนของประชาชน ที่รัฐบาลบิ๊กตู่ควรตรวจสอบ สังคายนา หรือ “ปฏิรูป” ซะทีครับ
สาโรช บุญแสง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี