นายสมเพชร พรหมเมืองดี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 (สวพ.2) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอละ 1 ศูนย์ รวม 882 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรของชุมชน เป็นศูนย์กลางการบริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานต่างๆกับเกษตรกร เป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรในชุมชน ในการปรับปรุงกิจกรรมทางการเกษตรตั้งแต่การผลิต การบริหารจัดการ จนถึงการตลาด

ในส่วนของ สวพ.2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 7 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และ ตาก ซึ่งมีศพก. 70 ศูนย์นั้น สวพ.2 ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรประจำจังหวัด (ศวพ.) ทั้ง 7 จังหวัด ร่วมให้การสนับสนุนการทำงานของ ศพก. ตั้งแต่การรวบรวมและจัดทำเอกสารคำแนะนำทางวิชาการ และคำแนะนำเฉพาะด้าน เช่น การใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพมอบให้กับแต่ละศพก. และยังได้ส่งนักวิชาการเกษตรเข้าร่วมเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้กับเกษตรกรในด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุน การใช้สารชีวภัณฑ์ป้องกันกำจัดศัตรูพืช และการตรวจรับรองแหล่งผลิตพืช เป็นต้น

น.ส.นันทนา หรั่งเจริญ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ สวพ. 2 เปิดเผยว่า นักวิชาการเกษตรของ สวพ.2 ได้เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรในแต่ละ ศพก. จำนวน 5 รุ่น รุ่นละ 50 คน ตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า เกษตรกรมีความตื่นตัว และให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเรื่องที่เกษตรกรสนใจมากที่สุด คือ การใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพและการผสมปุ๋ยใช้เอง โดยได้เน้นให้เกษตรกรได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปุ๋ยโดยละเอียด ตั้งแต่ปุ๋ยคืออะไร ความหมายของสูตรปุ๋ย หน้าที่ของธาตุอาหารพืชแต่ละชนิด วิธีการใช้ปุ๋ยให้ถูกต้อง อันได้แก่การใช้ปุ๋ยให้ถูกสูตร ถูกเวลา ถูกวิธีถูกปริมาณและการผสมปุ๋ยใช้เอง โดยเกษตรกรสามารถหาซื้อแม่ปุ๋ยที่มีขายทั่วไปในท้องตลาด คือสูตร 46-0-0 18-46-0 และ 0-0-60 มาผสมกันให้ได้ปริมาณธาตุอาหารพืชตามอัตราที่แนะนำ

สำหรับเกษตรกร หรือผู้นำชุมชน จากจังหวัดพิษณุโลกและกำแพงเพชร ที่มีความสนใจอยากทราบรายละเอียดการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพและการผสมปุ๋ยใช้เอง สามารถติดต่อสอบถามได้ด้วยตนเองที่ กลุ่มวิชาการ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 2 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เบอร์โทรศัพท์ 0-5531-1406 หรือในกรณีจังหวัดสุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร และตาก สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรประจำจังหวัด