พสกนิกรหลั่งไหล เข้ากราบสักการะพระบรมศพ (ประมวลภาพ)

พสกนิกรหลั่งไหล เข้ากราบสักการะพระบรมศพ (ประมวลภาพ)

วันศุกร์ ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 15.02 น.

4 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศในช่วงบ่ายประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาเข้าแถวเพื่อจองคิวยาวไปถึงหน้าศาลฎีกาผ่านท้องสนามหลวง เพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

ด้านนางรุ่งทิพย์ เหมหาญ วัย 41 ปี พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาจากพะเยา พร้อมคณะ 750 คน เผยว่า พอรู้ว่าทางจังหวัดจะพาชาวบ้านมากราบสักการะพระบรมศพ ที่บ้านจึงเตรียมชุดไทย โดยตนได้หาฝ้ายพะเยามาตัดเป็นชุดสุภาพเรียบร้อย ส่วนชุดของลูกสาวได้นำผ้าโทเรสีดำของคุณยายเอามาตัดเป็นชุดไทยเรือนต้น เพื่อให้ดูสวยงามและใส่สบายให้ลูกสาว โดยออกเดินทางออกจาก จ.พะเยา ตั้งแต่ห้าโมงเย็นของวันที่ 3 พ.ย. มาถึง กรุงเทพฯ และมาเข้าแถวรอสักการะประมานตี 5 ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะใจนึกถึงแต่พระองค์ท่าน เมื่อได้เข้าไปกราบพระบรมศพพระที่นั่ง ยิ่งรู้สึกเศร้าและตื่นตันในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ที่เปิดโอกาสให้พสกนิกรคนธรรมดาได้เข้าไปกราบสักการะได้อย่างใกล้ชิด


"ลูกสาว ยังเล็กมากเขาอาจยังไม่รู้ว่าในหลวงองค์นี้ทำอะไรให้เราบ้าง  แต่บอกเขาตลอดตั้งแต่จำความได้ว่าคนในรูปนี้คือพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นะ เขาจะคอยถามว่าในหลวงอยู่ที่ไหน วันนี้พามาเขาก็ถามอีกว่าพระองค์อยู่ที่ไหน เราจึงชี้บอกว่าตอนนี้พระองค์ท่านอยู่ในนี้นะ ในพระบรมโกศ  และชี้มาที่หัวใจเราว่าพระองค์ท่านก็อยู่ในนี้ด้วย  อย่างน้อยลูกก็ได้รู้ว่าตัวเองเกิดในรัชกาลที่ 9 ในอนาคตจะพยายามเล่าเรื่องราวของพระองค์ท่านให้ลูกเข้าใจ  และปฏิบัติตนอย่างพอเพียงเป็นตัวอย่างและสอนให้ลูกนำไปใช้  เมื่อก่อนทำงานกรุงเทพฯ มา 21 ปี และย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.พะเยา ได้ 4 ปีแล้ว เข้าใจคำว่าพอเพียงที่พระองค์ทรงคอยสอนคนไทย ตนจึงน้อมนำไปใช้ในการทำไร่ ปลูกผักเล็กน้อย ๆพอมีพอกิน  ทำให้มีความสุขมากกว่าอยู่กรุงเทพฯที่ต้องตื่นแต่เช้าฝ่ารถติดไปทำงานเพื่อหาเงินให้ได้เยอะๆ" นางรุ่งทิพย์ กล่าว

นางเจ๊ก ก้านอิน วัย 54 ปี เล่าหลังเข้ากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 3 ว่า วันไหนที่มีงานรับจ้างช่วงบ่าย ก็จะตื่นตั้งแต่ตี 3  รีบออกมาจากบ้านที่ จ.ปทุมธานี มารอรถบริการรับส่งมาสนามหลวงฟรีเที่ยวแรกตอนตี 5 ที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต มาถึงพระบรมมหาราชวังประมาณ 6 โมงเช้า แล้วรอขึ้นกราบสักการะก่อนเที่ยง ก่อนกลับไปทำงานในตอนบ่าย  

"มา 3 ครั้งแล้ว  อยากมาเพราะคิดถึงพระองค์ท่านมาก  คิดถึงก็มาหา ตอนท่านอยู่เราไม่ได้มีโอกาสไปรับเสด็จเลย  ตอนนี้จึงพยายามมาให้ได้บ่อยๆ  ตั้งใจจะแวะมากราบท่านแบบนี้จนกว่าจะถึงวันสุดท้าย ทุกครั้งที่เข้าไปกราบจะนึกอาลัยว่าท่านไม่น่าจากเราไปไวเลย แต่ท่านจะอยู่ในใจเราตลอดชีวิต"  นางเจ๊กกล่าว

ด้านนายภานุวัฒน์  แย้มแสง นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนหานโพธิ์พิทยาคม ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง  ซึ่งเดินทางมาพร้อมเพื่อนนักเรียน และพี่สาวของเพื่อน เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ และสอบพรีดีกรี ที่ ม.รามคำแหง กล่าวว่า วันนี้ได้ยกเลิกการเข้าสอบเช้าไปหนึ่งวิชา เพราะอยากมาเข้าถวายสักการะพระบรมศพมากกว่า เป็นโอกาสหนึ่งในชีวิต  ที่จะได้มาเคารพองค์เหนือหัวในดวงใจเป็นครั้งสุดท้าย

"ก่อนมาคิดกับเพื่อนว่า ถ้ายกเลิกสอบวิชานี้ไปก็ไม่เสียหาย ไปลงสอบเทอมหน้าใหม่ได้ อยากมาหาในหลวงกันมากกว่า ผมเคารพชื่นชมที่พระองค์เป็นคนเก่ง ทรงงานหลายอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เกิดมาก็เห็นแต่ภาพพระองค์ทรงงานมากมาย  ทรงเริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นแบบอย่างให้เยาวชนขยัน หมั่นเพียร  มีเศรษฐกิจพอเพียงให้ทุกคนทำตามแล้วมีความสุข  ที่บ้านผมก็ปลูกผักสวนครัวทำกับข้าวกินเองบ้าง ไม่ได้ขายเอากำไรอะไร แต่ปลูกเพื่อนำมาทำอาหารกินในบ้านพร้อมหน้ากันก็มีความสุขแล้ว" นายภานวัฒน์ กล่าวด้วยความปลื้มใจ

ด้านสองพี่น้องจาก จ.พัทลุง น.ส.กนกวรรณ จันหวดี อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนหานโพธิ์พิทยาคม จ.พัทลุง และพี่สาว น.ส.ปิยะนุช จันหวดี อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า ทราบว่าสำนักพระราชวัง เปิดให้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ แต่ไม่คิดว่าจะได้กราบใกล้มากขนาดนั้น ได้หยุดมองพระบรมโกศ นับว่าเป็นบุญที่ได้เดินทางมาร่วมถวายสักการะ มารดาที่อยู่ จ.พัทลุง ก็อยากจะมากราบสักการะพระบรมศพมาก แต่ไม่ค่อยสบายจึงไม่สามารถเดินทางมาได้

น.ส.กนกวรรณ บอกด้วยว่า พวกเราเกิดมาก็เห็นพระองค์ท่านทรงงานแล้ว เสด็จฯ ไปในทุกที่ที่มีราษฎร ของพระองค์ท่านอยู่ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ลำบากตามถิ่นทุรกันดาร ประทับใจในเรื่องของความประหยัด ที่พระองค์ทรงใช้ยาสีพระทนต์จนหมดหลอด โดยครอบครัวเราได้ดำเนินตามรอยพระองค์ท่านในด้านเศรษฐกิจพอเพียง จัดสรรพื้นที่การเกษตรด้วยการปลูกผักแบบผสมผสาน กินเอง แจกจ่าย เหลือก็นำไปขาย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top