วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
5 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่บริเวณเต๊นท์จุดรอคอย ได้มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมานั่งพักอยู่ภายในเต๊นท์รอคอยเริ่มจากหน้ากรมศิลปากรผ่านหน้าวัดมหาธาตุฯ และมีแถวยาวไปถึงแยกท่าพระจันทร์หลายคนยืนสงบนิ่ง เพื่อรอเข้ากราบถวายสักการะะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุดสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
จากนั้นเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนชุดแรกเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ เป็นวันที่ 7 โดยเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี ตั้งแถวหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ก่อนทยอยเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พร้อมรับภาพพระบรมโกศพระบรมศพสี่สีพระราชทานกลับไปเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้นำน้ำดื่มพระราชทาน น้ำสมุนไพรพระราชทาน ผ้าเย็น มาแจกจ่ายให้ประชาชนคลายร้อนด้วย ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำข้าวเปลือกพันธุ์ดีบรรจุถุง มีข้อความว่า "พอเพียง" มามอบให้ประชาชน วันละ 3 หมื่นถุง เพื่อนำกลับไปเป็นระลึกตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วย
.jpg)
ด้านนางจันทร์สม มณีจักร อายุ 68 ปี ชาว ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้านกลุ่ม"ธรรมะสู่บ้าน" จำนวน 22 คนได้นั่งรถไฟฟรี 16 ชั่วโมงมาจาก จ.เชียงใหม่ ตั้งใจมากราบถวายสักการะพระบรมศพ ซึ่งครั้งแรกขึ้นกราบสักการะไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย.59 ฝนตกหนักมาก หลังจากนั้นได้พากันนั่งรถไฟฟรีไป อ.หัวหิน เพราะอยากไปเห็นบ้านของพ่อหลวง และก่อนกลับเชียงใหม่ จึงแวะมากราบถวายสักการะพระบรมศพอีกสักครั้ง โดยวันนี้ ได้เข้าเป็นคณะแรกตอนตี 5 รู้สึกซาบซึ้งดีใจมาก และจะขอน้อมนำคำสอนของพระองค์โดยเฉพาะเรื่องความประหยัดมาใช้ในชีวิตประจำวัน และจะอบรมสั่งสอนลูกหลานให้เป็นคนดี ตามคำสอนของพระองค์
.jpg)
ขณะที่นางสาวเกษณี คำอ่อง อายุ 59 ปี ชาว ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตอนสมัยอายุประมาณ 17 ปี ได้คัดเลือกให้เข้ารำถวายหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช ขณะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมครอบครัวไปที่ อ.แม่อาย รู้สึกตื่นเต้นดีใจมากยังจำภาพประทับใจไม่เคยลืม ประทับในที่พระองค์พูดคุยกับประชาชนยากจนอย่างใกล้ชิดโดยไม่ถือพระองค์ รู้สึกเสียใจมากที่ทราบว่าพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต ท่านเป็นผู้ให้มาตลอด เกิดมาพ่อแม่ก็สอนว่าท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดินต้องเคารพ โตขึ้นก็เห็นภาพพระองค์ทรงเยี่ยมราษฎร์ในที่ต่างๆ เห็นพระองค์ท่านเหน็ดเหนื่อย ก็อธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย เราคิดว่า พระองค์ท่านเป็นเทพมาช่วยประชาชนไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น พระเมตตาของพระองค์ยังแผ่ไปยังต่างประเทศทั่วโลก
.jpg)
"ก็จะขอน้อมนำคำสอนของพระอง์มาปฏิบัติ โดยเฉพาะเกี่ยวกับศาสนา ได้ตั้งเป็นชมรม "ธรรมะสู่บ้าน" เพื่อเชิญชวนชาวบ้านทำความดีรักษาศีล รักกัน ดูแลกันให้ศาสนาอยู่ได้ ส่วนทางครอบครัวก็จะขยัน อดทน อดออมตามที่พ่อหลวงท่านสอนไว้ ก็อยากให้พระองค์ท่านดลใจให้ประชาชนรักสามัคคีกัน พร้อมนำคำสอนของพ่อหลวงไปประพฤติปฏิบัติ"
.jpg)
นางทองเสี่ยน บุญรอด ชาว ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า วันที่ทราบว่าพระองค์ท่านเสด็จสวรรคตทุกคนเงียบหมด และมีแต่เสียงร้องไห้น้ำตาตกใน เหมือนสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นความจริง วันนี้ได้ตั้งใจมากราบถวายสักการะพระบรมศพ อธิษฐานว่าขอให้พระองค์ท่านคุ้มครอง สัญญาว่าจะทำดี และที่ผ่านมาก็ทำความดีโดยตลอดเป็นจิตอาสาออกไปช่วยเหลือชุมชน ชมรมผู้สูงอายุ ช่วยแพทย์ดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยติดบ้านและผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเด็กอ่านหนังสือไม่ออก ส่วนภายในครอบครัวก็ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงใช้จ่ายประหยัด อดออม ทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกผักแบบผสมผสาน
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี