30 พ.ย. 59 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลใน จ.เชียงใหม่ หลังจากเกิดเหตุทำร้ายร่างกายนายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ บุตรชาย พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 (ผบ.มทบ.38) ในร้านอาหารชื่อดัง จ.เชียงใหม่ว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อเนื่อง โดยมี พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผบ.มทบ.33 และเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลนั้น ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีนายกฤษณธ อมิตรสูญ หรือบอล แฟนหนุ่มดาราสาวอุ้ม ลักขณา ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งการทำร้ายนายอิศราชนุวัฒภ์ ระบุว่าไม่ได้รับความปลอดภัย และมีคนมาข่มขู่นั้น ตนอยากถามว่าเป็นใคร หากรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ทำเรื่องไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อส่งคนมาดูแล แต่อยากถามว่าตัวนายกฤษณะไปทำอะไรมา จนต้องขอกำลังตำรวจมาคุ้มกัน และนายกฤษณะทำผิดเรื่องใด อีกทั้งที่กล่าวว่าถูกคุมคามนั้นเป็นใคร
เมื่อถามว่าแต่คู่กรณีเป็นทหารอาจทำให้นายกฤษณะ เกิดความหวาดกลัวได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นคู่กรณีกับทหาร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นลูกทหารเป็นฝ่ายถูกซ้อม ส่วนที่เกรงว่าจะมีฝ่ายทหารไปเอาคืนนั้น ตนยืนยันว่าทหารไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะเรื่องนี้ตนได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แล้วว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึง ผบ.มทบ.33 ต้องดูแลเรื่องนี้ด้วย
"ความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลมีความคืบหน้ามาก โดยยึดอาวุธปืนได้เป็นจำนวนมาก ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ ผมไม่ทราบว่าใครเป็นใคร แต่คนเราก็เป็นญาติกันได้หมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำมาตลอด และผู้มีอิทธิพลทั้งหลายก็กลัวเจ้าหน้าที่ทั้งนั้น ถ้าที่จ.เชียงใหม่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ผมก็สั่งการให้ดำเนินคดีทั้งหมด เช่น การเปิดโรงแรมถ้าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามนั้น รวมถึงทุกพื้นที่ทุกจังหวัด หากมีสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ไม่มีข้อยกเว้น" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ก่อนหน้านี้ นางสาวิกา ณ ตะกั่วทุ่ง มารดาของนายกฤษณะ หรือบอล ได้ให้สัมภาษณ์ว่าบุตรชายของตนเล่าว่าเหมือนมีคนมาคอยดักฟังโทรศัพท์และมีคนมาซุ่มดูความเคลื่อนไหว ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเกรงกลัวว่าจะถูกอุ้มฆ่าทำให้ไม่กล้าออกไปไหน
ต่อมา พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (ผบ.มทบ.33) ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า คดีนี้ทหารไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนที่บอกว่ามีคนไปเฝ้าหน้าบ้านตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ในส่วนของทหารมีงานต้องทำอีกมากเราไม่เข้าไปยุ่งอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี