วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชีย เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน และการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) ระดับภูมิภาค ซึ่งจัดโดย กระทรวงมหาสมุทรและการประมง เกาหลีใต้ ร่วมกับหน่วยงานเอ็นจีโออาทิ มูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม (EJF) กลุ่มสิทธิมนุษยชนของอังกฤษ และกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ที่โรงแรมเวสอิน โชซัน กรุงโซล เกาหลีใต้
โดย พล.อ.ฉัตรชัย เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากภูมิภาคเอเชีย 7 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา ศรีลังกา และเกาหลีใต้ รวมทั้งองค์การระหว่างประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศเกี่ยวกับแนวทางการขจัดการทำประมง IUU รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การจัดการทรัพยากรด้านประมงอย่างยั่งยืน
สำหรับประเทศไทย ได้ใช้ประโยชน์จากเวทีนี้ในการแสดงถึงจุดยืนและความมุ่งมั่นในการร่วมเป็นหนึ่งในประเทศที่กำหนดนโยบายการจัดการความยั่งยืนของทะเลและทรัพยากรประมงซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการประมงของไทย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต โดยได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย และปัญหาแรงงานในภาคการประมงเป็นวาระแห่งชาติ และเร่งรัดดำเนินการอย่างต่อเนื่องช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปการประมงของประเทศ และยังได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานทั้งระบบและภาคการประมง กระทั่งสหรัฐอเมริกาได้ปรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยจากระดับเทียร์ 3 มาเป็นเทียร์ 2 เฝ้าระวัง
อย่างไรก็ตาม การจัดการทรัพยากรทางทะเล ไม่สามารถกระทำให้สำเร็จได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงได้ขอความร่วมมือจากมิตรประเทศในภูมิภาค ประเทศคู่ค้า และองค์การระหว่างประเทศ ควรมีการบริหารจัดการทรัพยากรในมิติต่างๆ ในทิศทางเดียวกัน ตามที่ได้ประกาศไว้ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ด้านการเกษตรและป่าไม้ หรือ “อา-มาฟ” (AMAF) ครั้งที่ 38 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ประชาคมอาเซียน ควรกำหนดนโยบายประมงร่วมกัน เพื่อกำหนดเป้าหมายและแผนเป็นขั้นตอน โดยปี 2560 ไทยจะจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนชาวประมงจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน ประมาณเดือนมีนาคม 2560 พร้อมทั้งการประชุมวิชาการด้านการบริหารทรัพยากรประมง ระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลก ประมาณเดือนกรกฎาคม 2017 เพื่อประชาคมอาเซียนจะสามารถนำผลที่ได้จากการประชุมทั้ง 2 ครั้ง จากภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน อันรวมถึงผู้ประกอบการประมงทั้งรายย่อยและรายใหญ่ในทุกระดับการผลิต มาประกอบการร่างนโยบายประมงร่วมกัน ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทุกประเทศและทุกภาคส่วนในประชาคมอาเซียนก้าวเดินไปด้วยกัน
“การประชุมในระดับผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชีย เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนในครั้งนี้จึงสอดคล้องกับสิ่งทีประเทศไทยได้มุ่งมั่นดำเนินการ และหวังว่าประชาคมอาเซียนจะร่วมกันผลักดันจุดยืนการทำประมงอย่างยั่งยืนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปี 2562 และพร้อมที่จะทำงานร่วมกันในการจัดทำ “นโยบายประมงร่วมอาเซียน” โดยแสวงหาร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักเลขาธิการอาเซียนและประเทศสมาชิก องค์กรระดับภูมิภาค และองค์กรระหว่างประเทศ และพันธมิตรจากทั่วโลก และจะนำผลที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ เพื่อกำหนดนโยบายประมงสู่ความยั่งยืนต่อไป” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี