กรมส่งเสริมการเกษตร คลอด 3 มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านพืชแก่เกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ ยึดระเบียบคลังเยียวยาด้านพืชไร่ละ 1,113-1,690 บาท พร้อมกำชับสำนักงานเกษตรจังหวัดออกติดตามสถานการณ์ พร้อมสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมนับแสนไร่ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดออกติดตามสถานการณ์ และสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ไม้ผล ไม้ยืนต้น ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ขณะเดียวกันกรมส่งเสริมการเกษตรได้วางมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืชไว้ 3 แนวทาง คือ 1.การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 2.มาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2559/60 กรณีได้รับผลกระทบ และ 3.โครงการประกันภัยข้าวนาปี 2556/60
โดยมาตรการแรก การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ มีหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ คือ จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ก่อนเกิดภัย และช่วยเหลือเกษตรกรตามจำนวนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจริง ทั้งนี้ไม่เกิน 30 ไร่ อัตราการช่วยเหลือด้านพืช แบ่งเป็น ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่น ๆ อัตราไร่ละ 1,690 บาท
มาตรการที่ 2 มาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2559/60 กรณีได้รับผลกระทบ หลักเกณฑ์การช่วยเหลือ คือ จะต้องเป็นเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ (อุทกภัย) ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2559 จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝนของภาคใต้ และได้ขึ้นทะเบียนประกอบกิจกรรมการเกษตร (ด้านพืช ประมง ปศุสัตว์) ซึ่งหากเกษตรกรรายใดได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ด้าน ให้ได้รับการช่วยเหลือเพียงด้านเดียว โดยมีอัตราการช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 3,000 บาท
มาตรการที่ 3 โครงการประกันภัยข้าวนาปี 2559/60 ซึ่งจะมีบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ เป็นผู้รับประกันภัยตามกรมธรรม์ จำนวน 16 บริษัท คุณสมบัติของเกษตรกร จะต้องเป็นเกษตรกรทั่วไป และเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.ที่กู้เงินเพาะปลูกข้าว และทำการเพาะปลูกข้าว ปีการผลิต 2559 พื้นที่รับประกันภัยไม่เกิน 30 ล้านไร่ อัตราค่าเบี้ยประกันภัยเท่ากันทุกพื้นที่การผลิต จำนวน 100 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรจ่ายเอง 40 บาทต่อไร่ และรัฐบาลอุดหนุนให้ 60 บาทต่อไร่ วงเงินคุ้มครอง 1,111 บาทต่อไร่ ตลอดช่วงการเพาะปลูกสำหรับภัยธรรมชาติ 6 ประเภท ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้งฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ สำหรับภัยศัตรูพืชและโรคระบาด อัตรา 555 บาทต่อไร่ ส่วนการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน ให้จ่ายตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 และจ่ายเพิ่มเติมกรณีที่เสียหายจริง แต่ไม่อยู่ในเขตประสบภัยตามที่ราชการกำหนด โดยวิธีการประเมินรายบุคคล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี