4 ธ.ค. 61 เวลา 14.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)นายศิรินทร์ยา สิทธิยา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(เลขาธิการ ป.ป.ส.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ "เสก โลโซ"นักร้องร็อคชื่อดัง ถูกตำรวจบุกจับกุมหลังยิงปืนขึ้นฟ้า และตรวจพบสารเสพติดในร่างกายตามที่ปรากฏข่าวนั้น รัฐบาลนี้มันโยบายว่า"ผู้เสพคือผู้ป่วย"ตามประกาศ คำสั่ง คสช.ที่ 108/2557 เรื่อง การปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยว่ากระทําผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด
แต่กรณีนายเสก ทราบว่าถูกตำรวจดำเนินคดีหลายข้อหา อาทิ พกพาปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต. ยิงปืนในที่สาธารณะ และขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และยังตรวจพบสารเสพติดในร่างกายเพิ่มอีก รวมทั้งทราบว่านายเสก ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เสพสารเสพติด แต่อ้างว่ากินยานอนหลับ ดังนั้น เบื้องต้นกรณีนายเสก จึงไม่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์ผู้เสพคือผู้ป่วย โดยสมัครใจเข้าบำบัด
ข้อถามว่า นายเสก เป็นไอดอลของวัยรุ่นนั้ควรจะต้องมีบทลงโทษหรือมาตรการไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนหรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลจะพิจารณาลงโทษ ตามที่พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้พิจารณา ตนไม่สามารถก้าวล่วงได้ อย่างไรก็ตาม จากประวัติเก่านายเสก เคยเข้ารับการบำบัดยาเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ ประมาณ 4 เดือน เมื่อปี 2554
ส่วนสาเหตุที่ผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่หวนกลับมาเสพยาเสพติดซ้ำหลังได้รับการบำบัดนั้น มีหลายปัจจัย อาทิ ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน สังคมไม่ยอมรับ และโรคซึมเศร้า อาจทำให้สุดท้ายหวนกลับมาใช้ยาเสพติด ทั้งนี้ จะมี 4 หน่วยงาน คือ สำนักงาน ป.ป.ส. ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมกันดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมนำผู้เสพ มาเข้าโครงการ ผู้เสพคือผู้ป่วย สมัครใจเข้าบำบัด ไม่เสียประวัติ ไม่ความผิด" นายศิรินทร์ยา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี