5 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ว่าการอำเภอวังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย มีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน 5 หมู่บ้าน บ้านขอนแก่น บ้านน้ำทบ ,บ้านนาหลวง ,บ้านยางเดี่ยว ,บ้านโนนสวรรค์ ตำบลเขาหลวง ซึ่งมีพื้นที่ทำการเกษตรติดกับแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายอนุพงษ์ คำภูแก้ว นายอำเภอวังสะพุง เดือนร้อนอย่างหนักปัญหาช้างป่ารุกที่ทำกินและทำร้ายชาวบ้านในหนังสือระบุว่า " 3 ปีที่ผ่านมาได้มีช้างออกจากป่าจากเขตป่าได้บุกรุกพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน ทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนพืชผักทางการเกษตรไร่อ้อย ไร่กล้วย นาข้าวยางพาราและพืชอื่นๆ และประชาชนได้สูญเสียชีวิตถูกช้างป่าเข้าทำร้ายมาหลายราย ชาวบ้านได้ประสบความเดือดร้อนเป็นอย่างมากแต่ยังไม่มีหน่วยงานใดโดยเฉพาะป่าไม้ภูหลวงไม่เข้ามาดูแลและเยียวยาพร้อมทั้งไม่คิดแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
นายเดชา อาระสา ผู้ใหญ่บ้านยางเดี่ยว หมู่ 10 แกนนำได้กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ 5 หมู่บ้านไม่มั่นใจกับความปลอดภัยจากชีวิตและทรัพย์สินมีแต่ความหวาดกลัวจนไม่กล้าออกไปทำไร่ทำสวนเช่นการไปกรีดยางพารา ซึ่งต้องออกไปกรีดยางกลางคืนเป็นส่วนใหญ่จึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ประสบถูกช้างป่าทำร้ายชีวิตและทรัพย์สิน จากเหตุที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบันขอให้นายอำเภอช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และขอให้แจ้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเข้ามาดูแลป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างจริงจังให้มากกว่านี้ในด้านกำลังพลและการช่วยเหลือในฐานะหน่วยงานต้นเรื่องของช้างป่าภูหลวง
ด้านนายอนุพงษ์ คำภูแก้ว นายอำเภอวังสะพุง ได้กล่าวว่าเมื่อได้รับหนังสือก็จะรายงานต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและจะทำหนังสือถึงหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 ขอนแก่น ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่นี้อยู่ โดยจะมาร่วมประชุมในพื้นที่ให้เข้ามาดูพื้นที่จริงจะรู้ว่าพื้นที่ชาวบ้านรุกพื้นที่ช้างหรือช้างรุกพื้นที่ชาวบ้าน อย่างเมื่อวานลงไปดูพื้นที่หมู่บ้านน้ำทบไร่อ้อยกว่า 11 ไร่ ช้างป่าลงมากินก็เกลี้ยงหมดไม่เหมือแม้แต่ตอและที่สำคัญพื้นที่แปลงนี้มี นส.3 ก.เพราะฉะนั้นบอกว่าชาวบ้านรุกคงไม่ต้องถูกล่ะจากที่ได้เดินดูในหมู่บ้านพอทราบว่าช้างป่าได้เข้ามาภายในหมู่บ้านแล้วกล้วยที่ชาวบ้านปลูกไว้ริมถนนช้างป่าก็เข้ามากัดกินเห็นร่องรอยมูลช้าง เท้าช้างเห็นว่ามาเป็นโขลง ยันได้ว่าไม่น้อยกว่า 20 ตัวขึ้นไป และเกรงว่าชาวบ้านอาจไม่ได้รับการปลอดภัยมีกำแพงชาวบ้านรายหนึ่งช้างก็ไปพังรื้อออกไปประมาณ 5-6 แถวที่สำคัญช้างได้ลงมาเข้าหมู่บ้านทำให้เห็นได้ว่าอาหารที่ข้างบนไม่รู้ว่ามีหรือไม่มี แต่พอมาข้างล่างอาหารช้าง อุดมสมบูรณ์เพราะพืชพันธุ์การเกษตรชาวบ้านปลูกไว้เพราะสัญชาตญาณช้างเมื่อมีอาหารก็จะไม่ยอมไปชาวบ้านจะไปกรีดยางก็ไม่ได้จะทำมาหากินตามปกติก็ไม่ได้ก็เกิดความเสียหายในเรื่องของเศรษฐกิจของชุมชน ผมในฐานะนายอำเภอก็อยากจะสะท้อนปัญหาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ปัญหาร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี