รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ผู้เขียนขอเข้าเวรร่ายข่าวสังคม “ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม” ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น....ก็ยังอยู่ในสภาพ“เละตุ้มเป๊ะ” สำหรับการเมืองไทย ที่เป็นไปแบบไทยๆ วันนี้เรื่อง นาฬิกาของ“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ถึงมือ ป.ป.ช. แล้ว แต่เชื่อเถอะ“ฟันธง” ล่วงหน้างานนี้ “บิ๊กป้อม” ไม่ผิด....เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับ ทหาร และกองทัพ ผลการสอบไม่เคยมีคนผิด ตัวอย่างของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย“บิ๊กตู่” ก็ไม่ผิด กรณี “เรือเหาะ” ที่เหาะไม่ได้ก็ไม่ผิด กรณี“ไม้ล้างป่าช้า” ก็ไม่มีคนผิด แล้วแค่เรื่อง“นาฬิกาเพื่อน” กับ “แหวนของแม่” จะผิดอย่างไรป.ป.ช. มีหน้าที่สอบ เพื่อให้เห็นว่า ได้ทำหน้าที่ จบขบวนการแล้ว ก็เท่านั้น เพราะนี่คือประเทศไทย...ที่นี้ภาคใต้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ประกาศเลิก“ปฏิทินโจร” ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่า “โจร” ไม่ยอมเลิกปฏิบัติการ ล่าสุด ยิงชาวบ้านไทยพุทธ ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก็เป็นการทำแบบ “เล่นๆ” ของโจร เพราะถ้าทำจริง “คาร์บอมบ์” ในพื้นที่ เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ก็ทำได้ไม่ยาก...และหวังว่า การแต่งตั้งให้ พล.ต.สมพล ปานกุล รองแม่ทัพน้อยที่ 4 เป็น ผบ.ฉก.นราธิวาส จะทำให้สถานการณ์ของ จ.นราธิวาส ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าไม่ดีขึ้น พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ต้อง“ตอบโจทย์” กับคนใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ถึงการ“เปลี่ยนม้ากลางศึก” ในครั้งนี้....ข่าวว่า การ“พูดคุยสันติสุข” รอบใหม่ ระหว่าง พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะ“พูดคุยสันติสุข” กับกลุ่ม “มาราปาตานี” ซึ่งมี มะสุกรี ฮารี เป็น หัวหน้าคณะ จะเกิดขึ้นอีกครั้ง กลางเดือนมกราคม 2561 เพื่อกำหนดพื้นที่“เซฟตี้โซน” ระหว่าง “ตัวแทนโจร” กับ“ตัวแทนรัฐบาล”และยังมีข่าวว่า “ดาโต๊ะ ซัมซามิน ฮาชิม” ผู้อำนวยความสะดวกในการ“พูดคุยสันติสุข” ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย เตรียมนัดหมายให้พล.อ.อักษรา ได้พบปะ“พูดคุย” เป็นการส่วนตัวกับ “ดูลเลาะ แวมะนอ” ผู้นำขบวนการบีอาร์เอ็น เพื่อ “โน้มน้าว” ให้เห็นด้วย และเข้าสู่ขบวนการ“พูดคุย” เพื่อให้คนครบองค์ประกอบของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน...แต่เชื่อเถอะที่นี่ “ฟันธง” ว่า เหนื่อยเปล่า เพราะ “ดูลเลาะ แวมะนอ” ประกาศชัดมานานแล้วว่า พร้อมที่จะเข้าสู่ขบวนการ“เจรจา” เขาไม่“พูดคุย” แต่เขาต้องการ“เจรจา” และเป็นการ“เจรจา” ในแบบ“สากล” คือ“เจรจา” ในประเทศที่เป็นกลาง ซึ่งไม่ใช่มาเลเซีย และการ“เจรจา” ต้องมีประเทศต่างๆ เป็น“สักขีพยาน” และเงื่อนไขอีก ฯลฯ ที่เป็นแบบ“สากล” ซึ่งทั้งหมด ถูกปฏิเสธจากรัฐบาล และกองทัพ เพราะวิธีการ“เจรจา”แบบนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการที่ทำให้ สามจังหวัด กลายเป็น “เขตปกครองพิเศษ” และสุดท้ายคือการ ตั้งประเทศใหม่ แบบประเทศ ติมอร์ เลสเต ที่ประเทศอินโดนีเซีย เคยประสบมาแล้ว....นี่สิแน่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ประกาศเสียงดัง ฟังชัดว่า ได้ทำให้ 13 อำเภอ ใน 3 จังหวัด เป็นพื้นที่“เซฟตี้โซน” หรือ พื้นที่ปลอดภัยแล้ว โดยไม่ต้องไป “ก้มหัว” เจรจากับโจร แต่อย่างใด...ในขณะที่ พล.อ.อักษรา เกิดผล “พูดคุย” กับ มาราปาตานี มา 3 ปี แล้ว ยังไม่สามารถทำพื้นที่ปลอดภัยได้ แม้แต่ “ตารางนิ้ว” เดียว....
คุยจัง กฤษฎา บุญราช รมว. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่า ทำราคายางให้ขึ้นมา กิโลกรัมละ 6 บาทแล้ว ก็ต้องถามกลับไปว่า ที่ขึ้นไปแล้ว กิโลกรัมละ 6 บาท เป็นราคาในตลาดกลาง หรือเป็นราคาที่ พ่อค้า ตามหมู่บ้าน ตำบล รับซื้อจากชาวสวน...เพราะถ้าเป็นราคาตลาดกลาง นั่นเป็นการช่วย”นายทุน” เนื่องจาก ยางที่ขายในตลาดกลาง เป็นยางที่”นายทุน” ซื้อน้ำยางสดในราคาถูกจากชาวสวนยาง มาทำเป็น ยางแผ่นรมควัน และ นำไปขายในตลาดกลางเพื่อ”ฟันส่วนต่าง”...แต่สำหรับ เกษตรกรยายย่อยตัวจริง ขายทั้งน้ำยางสด และยางแผ่นดิบ รวมทั้งยางถ้วย กับพ่อค้าท้องถิ่น ดังนั้น ตลาดกลางยางพารา ไม่ใช่ตลาดของเกษตรรายย่อย รัฐมนตรี ต้องทราบข้อเท็จจริงตรงนี้ก่อน แล้ว ค่อยคุย.....ก็ต้องยอมรับว่า ภายใต้การการ บริการจัดการ ของ พล.ต.ท.รณศิปล์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ทำให้การทำงานของตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น ทั้งในเรื่องการ จับกุม การสอบสวน แต่ในเรื่องของ “อบายมุข” ยังไม่ประสพความสำเร็จ
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี