บรรยินโวไม่หนี
พร้อมสู้คดีฆ่า-โอนหุ้นชูวงษ์
ทนายเตรียมเงินล้าน
ยื่นศาลขอประกันตัว
ฟุ้งผ่านฉลุยไร้ปัญหา
ทนาย “บรรยิน” เตรียมพร้อมหลักทรัพย์ยื่นประกันชั้นศาล คดีปลอมเอกสารสิทธิโอนหุ้น “ชูวงษ์” พร้อมสำรองอีก 2 ล้าน ยื่นศาลพระโขนงขอปล่อยชั่วคราวคดีฆ่ามั่นใจไม่มีอะไรยุ่งยาก เพราะทำตามเงื่อนไข ฟุ้งลูกความไม่หนีแน่
เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายบัญชา ชัยจำ ทนายความของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และ ส.ส. นครสวรรค์ พรรคไทยรักไทย เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมสู้คดีที่อัยการสูงสุดชี้ขาดให้สั่งฟ้องฐานร่วมปลอมแปลงเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้านว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งด้วยหนังสือหรือโทรศัพท์จากตำรวจที่จะนัดส่งตัวให้ไปพบอัยการ (คดีอาญากรุงเทพใต้ 3 รับผิดชอบสำนวน) เพื่อจะยื่นฟ้องต่อศาล หากตำรวจแจ้งนัดเมื่อใดก็พร้อม ซึ่งตามหลักและการปฏิบัติ หากนัดฟ้องก็จะนัดผู้ต้องหาไปพร้อมกันทั้งหมด ซึ่งมีผู้ต้องหาร่วมอีก 2 คน
นายบัญชา กล่าวต่อว่า ในเวลานี้ ตนจะหารือกับ พ.ต.ท.บรรยินว่าจะสะดวกใช้หลักทรัพย์อะไรยื่นประกันตัวต่อศาล ซึ่งอาจใช้เงินสด หรือสมุดบัญชีเงินฝาก หรือโฉนดที่ดิน แต่ถ้าสะดวกก็น่าจะเป็นสมุดบัญชีเงินฝากและเงินสด ซึ่งมูลค่าหลักทรัพย์นั้น ประมาณ 2 แสนบาท
ส่วนคดีที่ครอบครัวของ นายชูวงษ์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน เองข้อหาฆ่าผู้อื่นนั้นซึ่งศาลจังหวัดพระโขนง นัดสอบคำให้การในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้ พ.ต.ท.บรรยิน ก็จะเดินทางไปตามนัด โดยเตรียมหลักทรัพย์ไว้ยื่นประกันตัวเช่นกัน ซึ่งมูลค่านั้นน่าจะเท่ากันกับชั้นฝากขังที่เคยยื่นไป คือ 2 ล้านบาท โดยคาดว่าการประกันตัวทั้ง 2 คดียังไม่มีอะไรยุ่งยาก ซึ่งชั้นฝากขัง พ.ต.ท.บรรยิน ก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ไม่ได้หลบหนีอะไร สำหรับการต่อสู้คดี เราก็พร้อม ซึ่งผลจะเป็นอย่างไร สุดท้ายก็เป็นดุลยพินิจของศาล
ด้าน นายเดชา ขุนทอง ทนายความของ น.ส.อุรชา หรือ ป้อนข้าว วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท หลักทรัพย์ เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของตนเพิ่งทราบข่าวเรื่องที่อัยการสั่งฟ้องเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ โดยยังไม่ได้รับแจ้งจากตำรวจแต่อย่างใดที่จะนัดส่งตัวไปพบอัยการเพื่อฟ้องคดี และยังไม่ได้พูดคุยกับลูกความในเรื่องนี้ ซึ่งการเตรียมตัวนั้นก็คงต้องเตรียมหลักทรัพย์ไว้ยื่นประกันตัวชั้นฟ้องคดีมูลค่าน่าจะไม่สูงเท่าชั้นฝากขังที่ขณะนั้นมีข้อกล่าวหาอื่นด้วยคือลักทรัพย์และรับของโจร แต่ขณะนี้มีเพียงข้อหาร่วมปลอมเอกสารฯ เท่านั้น
สำหรับคดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์นั้น อัยการสูงสุดได้ชี้ขาดสั่งให้ฟ้อง น.ส.กัญฐณา หรือ น้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 28 ปี อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์ ผู้ต้องหาที่ 1, น.ส.อุรชา หรือ ป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทหลักทรัพย์ เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 3 และ พ.ต.ท.บรรยิน อายุ 55 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมเท่านั้น จากเดิมสำนวนการสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร ส่วน น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 53 ปีมารดาของ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาที่ 2 นั้นอัยการสั่งไม่ฟ้อง
ขณะที่ ครอบครัวเสี่ยชูวงษ์ โดยภรรยาและบุตรชาย ที่เป็นผู้จัดการมรดก ยังได้ยื่นฟ้องเองด้วย ในคดีแพ่งขอคืนหุ้นจาก น.ส.กัญฐณา และบริษัทหลักทรัพย์ ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ รวม 2 สำนวน ซึ่งศาลรับฟ้องแล้ว คดีอยู่ระหว่างรอสืบพยาน รวมทั้งได้ยื่นฟ้องคดีอาญา พ.ต.ท.บรรยิน กับ น.ส.อุรชา และ พ.ต.ท.บรรยิน กับ น.ส.กัญฐนา ด้วย ฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ม.265,268 ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ รวม 2 สำนวน ซึ่งคดีอยู่ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง และฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน เป็นคดีแพ่งต่อศาลจังหวัดพระโขนง เรียกค่าเสียหายจากการละเมิด เหตุที่เสี่ยชูวงษ์เสียชีวิตด้วย ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี