11 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายภาคิน มุทาไร หรือ เสี่ยเป็ด อายุ 46 ปี ชาวจ.นครพนม เป็นเจ้าของ หจก.นครพนม ป.เจริญ รับเหมาก่อสร้างทั่วไปว่า รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 80-7865 นครพนม ซึ่งบรรทุกหินมาจากบ้านเชียงยืน ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พลิกคว่ำอยู่ข้างถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 ช่วงบ้านท่าควาย ต.อาจสามารถ เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยเสี่ยเป็ดอ้างว่าเหตุพลิกคว่ำเพราะถูกเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงแผ่นดิน เรียกให้หยุดอย่างกระชั้นชิด แต่คนขับไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ข้างหน้าก็มีรถกระบะวิ่งอยู่ จึงหักหลบและพลิกคว่ำดังกล่าว
บริเวณที่เกิดเหตุอยู่เยื้องกับโรงเรียนกีฬาบ้านอาจสามารถ พบรถบรรทุกพลิกตะแคงด้านขวา หันหัวไปทางเข้าเมืองนครพนม มีหินกรวดจากแม่น้ำโขงหกเรี่ยราด โดยมีนายศรัญญู ไชยผาบ อายุ 22 ปี เป็นคนขับ ยืนอยู่กับเสี่ยเป็ดเจ้าของรถ พร้อมเล่ารายละเอียดว่า เวลา 19.35 น. วันที่ 10 ม.ค.61 ตนขับรถบรรทุกหินจากบ้านเชียงยืน โดยมีภรรยานั่งมาเป็นเพื่อน เพื่อนำไปสต๊อกไว้ที่โรงงานของเสี่ยเป็ด ขณะขับมาถึงบ้านท่าควาย มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฎธ 8031 กรุงเทพมหานคร ขับขึ้นมาประกบด้านขวา เปิดกระจกซ้ายส่งสัญญาณให้จอด พร้อมบีบแตรดังสนั่น แต่มีรถยนต์กระบะที่วิ่งอยู่ด้านหน้ารถบรรทุก ตกใจเสียงแตรแล้วเบรกอย่างกระทันทัน ตนจึงหักรถหลบไปทางด้านซ้าย แล้วเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ตนกับภรรยาพยายามออกจากตัวรถ มีคนในรถโตโยต้าวิ่งมาช่วยนำร่างออกมา จึงรู้ว่ารถคันที่บีบแตรนั้นเป็นรถยนต์ของแขวงทางหลวงแผ่นดินจังหวัดนครพนม ตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้เสี่ยเป็ดทราบ ก่อนที่พาไปให้ ร.ต.อ.ก้องธานี ดีโนนเมือง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ทางด้านนายภาคิน หรือ เสี่ยเป็ด กล่าวว่า สงสัยการทำงานของเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงแผ่นดิน ทำไมต้องเรียกจอดรถอย่างกระชั้นชิด อีกทั้งเป็นเวลามืดค่ำ ควรมีความระมัดระวังในการเรียกตรวจ เพราะรถบรรทุกของหนัก ไม่สามารถหยุดรถได้ทันท่วงที หากลูกน้องตนไม่มีสติ ข้างหน้ามีรถกระบะแล่นอยู่ เกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ อยากให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงแผ่นดินฯ รัดกุมในการตรวจจับมากกว่านี้ และตนพร้อมให้ความร่วมมือทุกประการ ส่วนมูลค่าความเสียหายไม่ทราบ และยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงแผ่นดินฯ ต้องรอปรึกษาทนายความก่อน
ขณะเดียวกัน นายวุฒิพงษ์ คำภูแสน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงแผ่นดินนครพนม เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้าของวันที่ 10 ม.ค. มีเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงท่าอุเทน จำนวน 4 นาย ออกปฏิบัติหน้าที่เคลื่อนที่เร็ว มีอำนาจตามพระราชบัญญัติ พ.ร.บ.ทางหลวงแผ่นดิน 2535 เพื่อตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ขณะปฏิบัติหน้าที่สวมชุดเครื่องแบบชัดเจน ไม่มีการปิดบังอำพราง จนเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันเดียวกัน พบรถบรรทุกหินคันดังกล่าว วิ่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 (นครพนม-คำม่วน) ลักษณะอาจจะบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่คนขับไม่ยอมหยุดกลับขับหลบหนีออกนอกเส้นทางของทางหลวงแผ่นดิน ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจของเจ้าหน้าที่ ตนจึงสั่งให้เฝ้าติดตามรถบรรทุกคันนี้
กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. รถบรรทุกต้องสงสัยได้ขับขึ้นมาบนถนนหลวงแผ่นดินสาย 212 อีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามมาทันที่บริเวณดังกล่าว แล้วให้สัญญาณเพื่อจอดรถ แต่คนขับหักหลบลงข้างทางแล้วพลิกคว่ำ ขอยืนยันว่าปฏิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง ส่วนมีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันนั้น ต้องรอดูว่านายภาคินหรือเสี่ยเป็ดจะแจ้งในข้อหาอะไร "หากรถบรรทุกไม่ขับหลบหนีคงจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้" นายวุฒิพงษ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี