สปสช.จัดสิทธิประโยชน์บัตรทองดูแลสุขภาพเด็กไทย ครอบคลุมทั้งการรักษา ป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ พร้อมสนับสนุนพัฒนาการต่อเนื่อง เจริญเติบโตอย่างสมวัย หนุนสร้างประชากรคุณภาพสู่การพัฒนาประเทศ เผยปี 61 เพิ่มสิทธิประโยชน์ "ยาเม็ดขับธาตุเหล็ก" เพื่อคุณภาพชีวิตเด็กป่วยธาลัสซีเมีย
11 ม.ค.61 นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เด็กเป็นทรัพยากรที่มีค่าอย่างยิ่ง นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า การมีสุขภาพดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นพื้นฐานพัฒนาการในทุกด้านเพื่อเติบโตอย่างสมวัย คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เล็งเห็นความสำคัญในการจัดสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อดูแลสุขภาพเด็กไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งรักษาโรคทั่วไป สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ยึดหลักตามแนวเวชปฏิบัติและมาตรฐานบริการของกระทรวงสาธารณสุข , ราชวิทยาลัย และสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง แบ่งสิทธิประโยชน์เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กเล็ก อายุ 0 - 5 ปี และกลุ่มเด็กโตและวัยรุ่น อายุ 6 - 24 ปี
สิทธิประโยชน์เพื่อดูแลสุขภาพเด็กไทยเริ่มตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมผู้เป็นแม่ด้วยการให้วิตามินเสริมเหล็กและกรดโฟลิคก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เมื่อตั้งครรภ์แล้ว สามารถรับบริการฝากครรภ์ฟรียังหน่วยบริการตามสิทธิ์ โดยการฝากครรภ์ครั้งแรกควรมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ และรับบริการตามระบบฝากครรภ์คุณภาพจนถึงทารกคลอด โดยจะได้รับการประเมินความเสี่ยงของครรภ์, การให้วัคซีนคอตีบและบาดทะยัก , วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล, การให้ยาเสริมธาติเหล็ก, กรดโฟลิก, ไอโอดีน, การคัดกรองความผิดปกติ เช่น ภาวะโลหิตจางธาลัสซีเมีย และกลุ่มอาการดาวน์ เป็นต้น และเมื่อคลอดทารกจะได้รับวิตามินเค , วัคซีนป้องกันวัณโรค , ไวรัสตับอักเสบบี , การคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ และการส่งเสริมกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน ในกรณีหากแม่เป็นพาหะตับอักเสบบีจะได้รับวัคซีนป้องกันตับอักเสบบีอีก 1 เข็ม
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า เด็กในช่วงอายุ 1 - 18 เดือน เป็นช่วงที่สมองและร่างกายมีพัฒนาการที่รวดเร็ว สิทธิประโยชน์ช่วงวัยนี้เน้นตรวจพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมและเป็นไปตามวัย อาทิ ประเมินความเจริญเติบโตตามช่วงวัย , เฝ้าระวังความผิดปกติสมองและภาวะโภชนาการ , ตรวจสุขภาพช่องปากและทาฟูลออไรด์วาร์นิช , ให้ยาน้ำเสริมธาตุเหล็กและให้คำปรึกษาพ่อแม่ในการดูแล รวมถึงกระตุ้นพัฒนาการในเด็กที่มีพัฒนาการไม่สมวัย พร้อมให้การป้องกันโรคโดยวัคซีน อาทิ วัคซีนป้องกันวัณโรค , ตับอักเสบบี , โปลิโอ คอตีบ บาดทะยักและไอกรน และไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้น โดยมีการให้วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันตามช่วงอายุเพิ่มเติม
เมื่อเข้าสู่วัยเรียนเป็นการสนับสนุนการดูแลสุขภาพผ่านโครงการ "อนามัยโรงเรียน" ในกรณีที่เด็กไม่เคยรับวัคซีนมาก่อนจะได้รับในช่วงนี้ ส่วนเด็กที่ได้รับวัคซีนตามช่วงอายุแล้วจะได้รับการกระตุ้นเพิ่มเติม รวมทั้งวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังได้รับคัดกรองและตรวจสุขภาพที่จำเป็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพื่อเติบโตสมวัย อาทิ การประเมินภาวะโภชนาการ การคัดกรองสายตาผิดปกติ และการตรวจสุขภาพช่องฟัน กรณีเด็กมีภาวะผิดปกติจะได้รับการแก้ไขปัญหาสุขภาพทันเวลา โดยในส่วนการตรวจคัดกรองโลหิตจางจากการขาดธาติเหล็ก เด็กจะได้รับยาธาตุเหล็กเสริม แต่ในกรณีโลหิตจางจากเหตุอื่น เช่น โรคธาลัสซีเมีย หากเป็นชนิดรุนแรงจะได้รับการส่งต่อเพื่อรักษา
"ด้วยผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงต้องได้รับเลือดเป็นประจำและต้องได้รับยาขับธาตุเหล็กควบคู่เพื่อปรับระดับความเข้มขันของเลือดให้มีค่าปกติ ไม่เกิดภาวะธาตุเหล็กเกินในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะตับแข็ง เบาหวาน และหัวใจวายได้ แต่เดิมยาขับเหล็กที่เด็กๆ ได้รับเป็นยาฉีดที่สร้างความเจ็บปวดอย่างมาก เพราะต้องรับการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังโดยใช้เครื่องช่วยฉีดยา 8 - 12 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นในปี 2561 นี้ บอร์ด สปสช.จึงอนุมัติสิทธิประโยชน์ยาขับเหล็กชนิดกินภายใต้สิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับเด็กอายุ 2 - 6 ปี ที่ป่วยด้วยโรคโลหิตจากธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง กินวันละ 1 - 2 เม็ด ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและได้ใช้ชีวิตเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป" เลขาธิการ สปสช.กล่าว
นอกจากนี้ สปสช.ได้สนับสนุนดูแลเด็กพิการแต่กำเนิดโดยจดทะเบียนเด็กที่มีความพิการ 5 อันดับโรคแรกที่พบความพิการได้แก่ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด แขนขาพิการแต่กำเนิด ปากแหว่งเพดานโหว่ กลุ่มอาการดาวน์ และภาวะหลอดประสาทไม่ปิด เพื่อให้ได้รับการดูแลต่อเนื่อง
"บอร์ด สปสช.ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพเด็กไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กไทยเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น โดยได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการในเด็กให้เติบโตอย่างสมวัยและเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต นับเป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญของการดำเนินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ" เลขาธิการ สปสช.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี