12 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์การแพทย์ศรีบุรินทร์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์เชียงรายซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลในเครือบางกอก เช่น ฮอสปิทอล โดยมีนายแพทย์ทศพล บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย และแขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ร่วมในพิธีจำนวนมาก ซึ่งศูนย์ดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของการให้บริการโดยมีการแผนกบริการผู้ป่วยแผนกต่างๆ ให้ผู้ไปใช้บริการได้ติดต่อได้อย่างครบถ้วนและทันสมัยครบครัน
ดร.นพ.เฉลิม กล่าวว่า ภาพลักษณ์เดิมๆ ของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ มักจะคับแคบดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการพัฒนาเพื่อปรับโฉมใหม่โดยให้ปรับพื้นที่ให้กว้างขวาง สะอาด เพื่อให้บริการได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยในส่วนของแผนกผู้ป่วยในได้มีการปรับปรุงห้องบริการจำนวนกว่า 100-200 ห้องใหม่ทั้งหมดเพื่อให้บริการได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีการขยายห้องผ่าตัด ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน สามารถผ่าตัดหัวใจแบบเปิด รักษาโรคหลอดเลือดสมอง ฯลฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ก็พัฒนาให้ทันสมัย นอกจากนี้ภายในโรงพยาบาลยังสร้างอาคารเพื่อรองรับโครงการบัตรประกันสังคมให้ประชาชนชาวเชียงรายโดยเฉพาะอีกด้วย
ดร.นพ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ในภาพรวมทางบางกอก เชน ฮอสปิทอล ยังได้มีการพัฒนาคลินิกศรีบุรินทร์ สาขาเกษมราษฎร์ แม่สาย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ให้เป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียงโดยปัจจุบันกำลังพัฒนาและมีกำหนดจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 13 ก.พ.2561 นี้ โดยรองรับผู้ป่วยด้วยโรคที่ไม่รุนแรงและไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามารับบริการที่สาขาใหญ่ไกลถึงในเขต อ.เมืองเชียงราย นอกจากนี้ทางบางกอก เชน ฮอสปิทอล ยังซื้อที่ดินที่ตรงกันข้ามเทศบาล ต.เวียงเชียงของ อ.เชียงของ ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 เนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ โดยกำลังก่อสร้างให้เป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง เริ่มสร้างในอีก 1 ปีและมีกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2562 ด้วยงบประมาณ 100 ล้านบาท
ดร.นพ.นายแพทย์เฉลิม กล่าวด้วยว่า บางกอก เชน ฮอสปิทอล เป็น 1 ใน 3 ของกิจการโรงพยาบาลรายใหญ่ของประเทศไทย เราจึงพยายามพัฒนาเพื่อขยายบริการอย่างต่อเนื่องโดยนอกจากการพัฒนาดังกล่าวแล้ว ล่าสุดยังขยายโรงพยาบาลไปถึงเมืองราฮอล ประเทศปากีสถาน โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์ นครเวียงจันทร์ สปป.ลาว และโรงพยาบาลที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยทั้งหมดสร้างแล้วเสร็จไปแล้วและกำลังไปสร้างต่อที่ จ.ปราจีนบุรี และ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
"ปัจจุบันเรามีอยู่ 4 ยี่ห้อหรือ 4 แบรนด์ ได้แก่เกษมราษฎร์ และปี 2561 เปิดแบรนด์ใหม่คือเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล โดยมีสาขาแรกที่บางใหญ่และสาขา 2 ที่เวียงจันทร์ แบรนด์ที่ 3 คือ เวิร์ลเมดดิคอล ฮอสปิตอล เพื่อให้บริการต่างชาติและคนไทยโดยส่วนใหญ่เป็นชาวออสเตรเลีย จีนและตะวันอกกลาง แบรนด์สุดท้ายคือการุญเวช เช่น ปทุมธานี อยุธยา ฯลฯ ก็เป็นของเรา รวมๆ แล้วมีโรงพยาบาลแล้ว 13 โรงพยาบาลแล้ว และอีก 3-5 ปี ข้างหน้าจะให้เพิ่มเป็น 20 แห่งโดยไม่รวมในเมียนมา ปากีสถาน เวียดนาม ฯลฯ" ดร.นพ.เฉลิม กล่าวและว่า
พฤติกรรมผู้ใช้บริการเปลี่ยนไปจากอดีตและกำลังซื้อก็เปลี่ยนไป ทางโรงพยาบาลจึงพยายามพัฒนาคุณภาพและเพื่อรองรับพฤติกรรมดังกล่าวก็ต้องให้บริการให้จบในตัวเองที่เดียว นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกิจการอื่นๆ ในโรงพยาบาล เช่น ร้านค้าสะดวกซื้อและอื่นๆ ซึ่งในอดีตบอกกันว่าไม่จำเป็นก็กลับมีเพิ่มมากขึ้น ด้านพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้บริการชาวต่างชาติก็พบว่าที่มีจำนวนมากคือชาวจีน ซึ่งไม่เหมือนกลุ่มอื่นคือมักเดินทางเข้ามาซื้อแพ็คเก็จสุขภาพและชะลอความแก่ โดยมักจะเดินทางเข้ามาแล้วซื้อแพ็คเก็จนี้แล้วไปเจาะเลือดก่อนจะไปท่องเที่ยวที่พัทยา จ.ชลบุรี หรืออื่นๆ ก่อน จากนั้นกลับไปใช้บริการชะลอความแก่ตามแพ็คเก็จต่อไป
ซึ่งกรณีของ จ.เชียงราย พบว่ามีท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่มีการบินเชื่อมกับ 3 เมืองใหญ่ในประเทศจีน และยังมีสนามบินท่าขี้เหล็กตรงกันข้าม อ.แม่สาย สนามบินที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และมีเขตเศรษฐกิจพิเศษในแขวงบ่อแก้ว ทำให้มีการเดินทาง โดยสายการบินมากขึ้นเรื่อยๆ ทางบริษัทจึงอยากจะเจาะเข้าไปยังกลุ่มผู้เดินทางด้านนี้ต่อไปเพราะเป็นลักษณะของการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี