14 ม.ค.61 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตนสั่งการใช้นโยบายเชิงรุกปรับโครงสร้างภาคเกษตร ให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ทุกพื้นที่ ทุกเขต และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนในสังกัด และส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกจังหวัด นำไปปฎิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ในเรื่องการเสริมต่อโครงการตามนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ด้วยการตลาดนำการผลิตทางการเกษตร และให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กำหนดมาตรการและวิธีการให้ ผู้ตรวจราชการระดับกระทรวงและระดับกรม เป็นคณะทำงานตรวจแนะนำและติดตามการดำเนินการของจังหวัด ประจำพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด ว่ามีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการของจังหวัดและอำเภออย่างไรหรือไม่ เพื่อรวบรวมรายงานให้คณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ทราบ จะได้ให้การสนับสนุนหรือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ถูกต้อง
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ในระดับจังหวัด จัดประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด (อ.พ.ก.) ที่มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นเลขานุการ เพื่อมอบหมายให้คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด (Chief of Operation) ซึ่งมีเกษตรจังหวัดเป็นเจ้าของเรื่องนำไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยสำรวจข้อมูลเกษตรแปลงใหญ่ที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ จำนวน 50 ไร่ขึ้นไป ซี่งคณะกรรมการระดับอำเภอ (operation team) รวมทั้งขอให้อธิบดีสั่งการมอบหมายเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ เข้าไปบูรณาการร่วมงานกันเป็น ชุดปฎิบัติการเกษตร (ชป.กษ.) ประจำพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่เพื่อแนะนำ การจัดหาแหล่งน้ำ การวิเคราะห์ตรวจคุณภาพดินเพื่อหาสารอาหารหรือแร่ธาตุในดิน การแนะนำเลือกพืชหรือสัตว์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ หรือความต้องการของตลาด การเลี้ยงสัตว์น้ำ การดูแลป้องกันโรคพืช โรคสัตว์ แนะนำการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลผลิต ซึ่งมีเกษตรตำบลเป็นหัวหน้าชุดจะทำหน้าที่เสมือนผู้จัดการแปลงหรือฟาร์มการเกษตรกรรมหรือที่ปรึกษาของเกษตรกรในพื้นที่ ประสานเชื่อมโยงตลาดเข้าหาแหล่งผลิตให้ได้ บูรณาการพาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ธกส.นำหน่วยราชการ ให้มาซื้อสินค้าการเกษตรไปใช้ เช่นโรงเรียน โรงพยาบาล หรือชมรมธนาคารจังหวัด หอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัด รวมทั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดให้มาร่วมกันพิจารณารับซื้อ วางแผนการตลาด กระจายสินค้าการเกษตร เชื่อมโยงสหกรณ์การเกษตร ผู้ส่งออก ห้างสรรพสินค้าต่างๆ หากผลผลิตของเกษตรกรล้นตลาดหรือไม่มีผู้รับซื้อผลผลิต ให้รีบรายงานส่วนกลางทราบโดยด่วนที่สุด เพื่อส่วนลงไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
รมว.เกษตรฯ กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก และมีปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำนั้น ขอให้คณะอนุกรรมการฯ จังหวัด (อ.พ.ก.) ได้มอบให้คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด (Chief of Operation) เป็นหน่วยดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิญชวนเกษตรกรชาวสวนยาง ที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่เพื่อทดแทนการปลูกยาง มีสวนยางหรือแปลงยางติดกันหรือใกล้เคียงกันในตำบลหรือหมู่บ้านเดียวกัน โดยมีขนาดเนื้อที่รวมกันตั้งแต่ 50 ไร่ขึ้นไป โดยเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ ภาครัฐจะรับผิดชอบดูแลสนับสนุนปัจจัยการผลิตและการตลาดรวมทั้งหาอาชีพเสริมในช่วงรอผลผลิตทางการเกษตรกรรมใหม่ที่จะขายได้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี